The Residences at Dusit Central Park เคสที่ทำให้ตลาดจับตา เมื่อไม่ได้ขายแค่ "ห้องหรู"

Business & Marketing

Marketing & Trends

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

The Residences at Dusit Central Park เคสที่ทำให้ตลาดจับตา เมื่อไม่ได้ขายแค่ "ห้องหรู"

Date Time: 30 ต.ค. 2568 15:11 น.

Video

อย่ากลัว! วิกฤติใหญ่ยังไม่เกิด หาโอกาสลงทุน กับ กวี ชูกิจเกษม | Thairath Money Night Stand EP.21

Summary

ไม่ได้ขายห้องหรู แต่ขาย“รสนิยม”เฟอร์นิเจอร์แพ็กเกจ จุดขายใหม่ อสังหาฯไทยระดับบน ก้าวสู่ Branded Residence ระดับโลก เมื่อคนรวยมองโซฟาหลักแสน เตียงนอนหลักล้าน เหมือน แฟชั่นแบบ limited edition

Latest


เมื่อเราพูดถึง “คอนโดมิเนียมหรูกลางเมือง” ที่ราคาเลื่อนจากหลักร้อยล้านขึ้นไป สิ่งนี้ ไม่ได้หมายถึงทำเลที่ “Rare” เท่านั้นอีกแล้ว แต่คือการแข่งกันในระดับ รายละเอียดของชีวิต โดยเฉพาะ “เฟอร์นิเจอร์ + ดีไซน์” ที่กลายเป็นเกมใหม่ของตลาดอสังหาริมทรัพย์ระดับบน


จาก “ของแถม” สู่บริการที่คิดมาแล้ว

ในอดีต เคยเป็นเรื่องธรรมดาที่ซื้อคอนโดฯ แล้วจะได้ “เฟอร์นิเจอร์พร้อมอยู่” เป็นของแถมท้ายโครงการแต่ตอนนี้ ในตลาดลักซ์ชัวรี่ - ซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ คำว่า "แพ็กเกจเฟอร์นิเจอร์"  กลับกลายเป็นจุดขายหลักไม่แพ้ตัวโปรดักส์ปัจจุบัน จะเห็นได้ว่า ดีเวลอปเปอร์เริ่มนำเสนอ “Furniture Package” ในรูปแบบบริการเสริมแบบ curated ที่ไม่ใช่แค่ให้โต๊ะ ,โซฟา ,ตู้เตียงแบบเซ็ตสำเร็จรูปอีกแล้ว แต่เป็น แพ็กเกจที่ผ่านการคัดเลือกและออกแบบโดยดีไซเนอร์ระดับโลก และบางโครงการให้เลือก 3-5 Mood & Tone ตามสไตล์การใช้ชีวิตของลูกค้า

ทำไมมันขายได้และเพิ่มมูลค่าได้จริง

1.ลด Pain ของลูกค้า

  • ผู้ซื้อคอนโดฯ 100-500 ล้าน มักไม่มีเวลามานั่งเลือกเฟอร์นิเจอร์เอง
  • ดีเวลอปเปอร์ที่จัดให้ครบพร้อมอยู่ ช่วยลดขั้นตอน + เพิ่มความสะดวก

2.เพิ่มมูลค่าทางใจ (Perceived Value)

  • เฟอร์นิเจอร์จากแบรนด์ดัง เหมือนซื้อแฟชั่นแบบ limited edition

3.ดีเวลอปเปอร์ได้ Margin เพิ่ม โดยไม่ต้องลดราคา

  • การขาย “แพ็กเกจเฟอร์นิเจอร์” หลักล้าน ช่วยให้โครงการขยับภาพลักษณ์ขึ้น
  • เมื่อต่อยอดร่วมกับแบรนด์หรู กลายเป็น co-branding ที่ทรงพลัง

4.เปลี่ยนของใช้ เป็น “บริการหรู” (Luxury Service)

  • ไม่ใช่แค่ส่งเฟอร์นิเจอร์มาลง แต่มีทีมดีไซน์เข้า set up ให้ครบ
  • บางโครงการให้บริการ maintenance / refresh package ทุก 3–5 ปี
  • คล้ายโมเดล “subscription” ของที่พักระดับ 6 ดาว เป็นการขายความสะดวกและไลฟ์สไตล์


The Residences at Dusit Central Park เคสที่ทำให้ตลาดจับตา 

หนึ่งในโครงการที่สะท้อนเทรนด์นี้ชัดที่สุด คือ The Residences at Dusit Central Park  โครงการอัลตร้าลักชัวรี่ในย่าน Super Core CBD หัวมุมถนน พระราม 4 - สีลม แม้ปัจจุบัน จะมียอดขายแล้ว 94% (มียูนิตเหลือขายเพียง 12 ยูนิต) เท่านั้น  ล่าสุด ได้เปิดตัว 3 ห้องตัวอย่าง โดย 3 แบรนด์เฟอร์นิเจอร์หรูของไทย ได้แก่ Arkitektura, Euro Creations และ Muse Design ที่ออกแบบห้อง 3 สไตล์ (ขนาดตั้งแต่ 55 ตร.ม. ถึง 115 ตร.ม.)

เจาะราคาแพ็กเกจตกแต่ง 

  • ห้องตกแต่งโดย Arkitektura รวม 15-20 ชิ้น รวมไฟแล้ว ราคาแพ็กเกจอยู่ที่ 6.6 ล้านบาท (ไม่รวมค่าห้อง)
  • ห้องตกแต่งโดย Euro Creations รวม 13 ชิ้น เฟอร์นิเจอร์+ตกแต่งอย่างเดียว 8 ล้านบาท (แต่โปรโมชันขายแพ็กเกจ 3.99 ล้าน)
  • ห้องตกแต่งโดย Muse Design ใช้งาน hand-craft แทบทั้งหมด ราคาประมาณ 3 ล้านบาท (ตัวอย่าง panel หัวเตียงฝีมือทองเหลือง, โต๊ะไม้ฟอสซิล)

ทั้งหมด คือการใช้ “ดีไซน์” เป็นเครื่องมือรีเซ็ต perception ของโครงการ และแสดงให้เห็นว่าเฟอร์นิเจอร์ไม่ได้แค่ตกแต่ง แต่ “เล่าเรื่องราวของการอยู่อาศัย” ที่กลาบเป็นบริการเสริม สำหรับโครงการ Dusit Parkside สำหรับ 1-2 ห้องนอน ที่เป็น Special Units เพื่อเป็นทางเลือกให้กับลูกค้า 


เทรนด์ระดับโลก  Turnkey Luxury Living


ในตลาดโลก สหรัฐฯ ดูไบ และสิงคโปร์ แนวคิด “Curated Living Experience” กลายเป็น Segment ใหม่ที่เติบโตเร็วที่สุด เพราะคนรวยรุ่นใหม่ยอมจ่ายเพื่อ “เวลาที่ไม่ต้องจัดการอะไรเอง” พวกเขาต้องการดีไซเนอร์ที่ เข้าใจรสนิยมของเขาโดยเฉพาะแพ็กเกจเหล่านี้จึงต่อยอดได้อีก เช่น

  • บริการอัปเกรด mood ใหม่ทุก 3 ปี
  • การย้ายเข้า–ย้ายออกแบบ turnkey
  • หรือการตกแต่งตามฤดูกาลโดยทีมเดิม

นั่นเองทำให้เป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่กำหนดทิศทางของตลาด เพราะดีเวลอปเปอร์ไม่ได้แข่งกันแค่ทำเลอีกต่อไป แต่แข่งกันใน “รายละเอียดของความพร้อมอยู่” ไม่ใช่โปรโมท คือ วิวดี หรือ ทำเลดี แต่แข่ง “แพ็กเกจพร้อมอยู่ ที่สะท้อนหน้าตาของผู้ครอบครองอย่างมีรสนิยมอย่างตั้งใจ ดึงดูดเศรษฐีหน้าใหม่ๆ 


และนี่เอง ยังได้กลายเป็นส่วนหนึ่งที่ผลักดันให้ไทยขึ้นแท่น Branded Residence ระดับโลกแล้ว หลังจาก CBRE ระบุว่า ปัจจุบัน ไทยมีโครงการ Branded Residence ที่สร้างแล้วเสร็จมากที่สุดในเอเชียแปซิฟิกกว่า 40 โครงการ เป็นอันดับ 4 ของโลก รองจากสหรัฐอเมริกา สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และเม็กซิโก สะท้อนว่า ในแง่ของ “แบรนด์ + ที่ตั้ง + มาตรฐานบริการ–ดีไซน์” ไทยสามารถแข่งขันในระดับโลกได้แล้ว

ทั้งนี้ โครงการที่พักอาศัย The Residences at Dusit Central Park เป็นอาคารที่สูงที่สุดของโปรเจ็กต์ Dusit Central Park มีความสูงจากฐานถึงยอดอาคาร 299 เมตร (69 ชั้น) สูงอันดับ 5 ของประเทศไทย แบ่งเป็น ...

  • “ดุสิต เรสซิเดนเซส (Dusit Residences)” เริ่มที่ชั้น 30 - 69 ด้วยสไตล์ Classic Luxury ร่วมสมัย สุขุม ออกแบบประณีตตามซิกเนเจอร์ของดุสิตธานี เน้นไปที่ห้องพักขนาดใหญ่ 2 - 4 ห้องนอน และเพนต์เฮาส์ พื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 118 - 900 ตารางเมตร 
  • “ดุสิต พาร์คไซด์ (Dusit Parkside)” เริ่มที่ชั้น 9 - 29 นำเสนอความโดดเด่นด้วยการออกแบบร่วมสมัยแบบ Lifestyle Luxury หรูหรา พื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 55 - 250 ตารางเมตร 

โดยทั้งหมดมีราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ 300,000-500,000 บาท/ตารางเมตร ส่วนห้องเพนเฮ้าส์ ที่ใหญ่สุดขนาด 909 ตารางเมตร ซึ่งคาดว่าจะมีราคาสูงถึง 500 ล้านบาทนั้น ขณะนี้ยังไม่เปิดขายในรูปแบบประมูล 


ติดตามข่าวสารด้านการตลาด กับ Thairath Money ได้ที่

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้  https://www.facebook.com/ThairathMoney



Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ