
ดร.นพ. ไพโรจน์ เสาน่วม รองผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือ สสส. กล่าวว่า สสส.ร่วมกับศูนย์พัฒนาองค์ความรู้ด้านกิจกรรมทางกายประเทศไทย (ทีแพค) สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล จัดการสัมมนาด้านกิจกรรมทางกายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 2025
เพื่อสานพลังขยับเพื่อสร้างโอกาสในการมีกิจกรรมทางกายอย่างเสมอภาคภายใต้งาน South-East Asia Physical Activity Conference 2025 (SEAPAC 2025) ในวันที่ 5-7 พฤศจิกายน 2568 ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ บางกอก คอนเวนชัน เซ็นเตอร์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์
โดยการสัมมนาครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อเชื่อมโยงองค์ความรู้ทางวิชาการและผลการวิจัย ไปสู่การพัฒนานโยบายและแนวทางปฏิบัติที่ส่งเสริมให้ประชาชนในภูมิภาคสามารถเข้าถึงและมีกิจกรรมทางกายเพิ่มขึ้น เพื่อจะช่วยลดปัจจัยเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพระยะยาว โดยเฉพาะโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นทั้งในประเทศไทย ระดับภูมิภาค และระดับโลก
ดร.นพ.ไพโรจน์ กล่าวอีกว่า นี่คือก้าวแรกของความร่วมมือในการสร้าง Physical Activity Hub เพื่อเป็นกลไกกลางในการขับเคลื่อนกิจกรรมทางกายในทุกระดับ โดยมีเป้าหมายสำคัญคือ ระดับบุคคล ควรเพิ่มการมีกิจกรรมทางกายระดับปานกลาง 150–300 นาทีต่อสัปดาห์ หรือระดับหนักอย่างน้อย 85 นาทีต่อสัปดาห์
ระดับประเทศต้องการยกระดับอัตราการมีกิจกรรมทางกายของประชากรจากร้อยละ 68 ให้ถึงร้อยละ 75 ส่วนในระดับภูมิภาคและโลก ยังต้องลดช่องว่างของความเหลื่อมล้ำ ทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐาน ทุน และนโยบายสนับสนุน ซึ่งประเด็นเหล่านี้จะถูกหยิบยกขึ้นมาหารือและแลกเปลี่ยนแนวทางความร่วมมือในเวที SEAPAC 2025 นี้
โดยประเทศไทยมีความพร้อมในการเป็นผู้นำการขับเคลื่อนทั้งด้านวิชาการ งานวิจัย เชื่อมต่อข้อมูล เพื่อผลักดันให้เกิดกิจกรรมทางกายของประชากรในภูมิภาคนี้เพิ่มขึ้นเมื่อมีการรณรงค์ให้ประชากรเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม เพิ่มกิจกรรมทางกาย ลดภาวะความเนือยนิ่ง คาดว่าระยะ 10-20 ปี โรค NCDs จะลดลง สุขภาพโดยรวมจะดีขึ้น ประชากรมีอายุยืนขึ้น คุณภาพชีวิตจะดีตามมาเมื่อปัจจัยเสี่ยงลดลง
รองศาสตราจารย์ ดร.ปิยวัฒน์ เกตุวงศา ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาองค์ความรู้ด้านกิจกรรมทางกายประเทศไทย หรือ ทีแพค กล่าวว่า งานนี้ถือเป็นครั้งแรกของการริเริ่มงานสัมมนากิจกรรมทางกายระดับภูมิภาค ซึ่งจะมีผู้เข้าร่วมงานประมาณ 700 คนจาก 14 ประเทศ เป็นการรวมตัวของบุคลากรที่ทำงานด้านกิจกรรมทางกายที่สำคัญทั้งระดับโลก เอเชียใต้ เอเชียตะวันออก และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ นวัตกรรมใหม่ การออกแบบโมเดลที่มีความหลากหลายของการมีกิจกรรมทางกาย ในแต่ละประเทศที่นำไปสู่การปฏิบัติจริง
นอกจากการนำเสนอผลงานวิชาการ เรายังมีการบูรณาการความร่วมมือ ระดับนโยบายและการปฏิบัติในระดับพื้นที่ มีผู้เข้าร่วมงานตั้งแต่นักวิชาการ ตัวแทนจากชุมชน คนทำงานในพื้นที่ ภาคเอกชน นักเรียน/นักศึกษา ที่สำคัญการประชุมครั้งนี้ยังได้รับเกียรติจากผู้เชี่ยวชาญระดับโลก Professor Mark S. Tremblay จาก Active Healthy Kids Global Alliance
มาร่วมปาฐกถาพิเศษว่าด้วยบทบาทสำคัญของงานวิจัยและเครือข่ายทางวิชาการในการขับเคลื่อนนโยบายที่อิงหลักฐานเชิงประจักษ์ เพื่อส่งเสริมกิจกรรมทางกายและสุขภาวะของประชาชนในระดับโลก พร้อมทั้งสะท้อนมุมมองต่อความท้าทาย ช่องว่าง และโอกาสใหม่ ๆ ของการส่งเสริมกิจกรรมทางกายในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
ภายในงาน SEAPAC 2025 ประเทศไทยได้นำเสนอแนวทางการขับเคลื่อนกิจกรรมทางกาย ที่ครอบคลุม 4 ยุทธศาสตร์ที่สำคัญ ได้แก่ 1. การส่งเสริมให้ประชาชนทุกกลุ่มวัยมีกิจกรรมทางกายเพิ่มขึ้น ผ่านการสื่อสาร การออกแบบกิจกรรม และการสร้างความเข้าใจที่เหมาะสมกับบริบท (Active People)
2. การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเคลื่อนไหวของทุกคนอย่างเท่าเทียม (Active Environment) 3. การสร้างค่านิยมทางสังคมและวัฒนธรรมที่สนับสนุนให้การเคลื่อนไหวเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิต (Active Society) และ 4. การพัฒนาระบบสนับสนุนที่เข้มแข็ง เช่น ฐานข้อมูล งานวิจัย และนวัตกรรม เพื่อใช้เป็นกลไกสำคัญในการผลักดันนโยบายและการดำเนินงานด้านกิจกรรมทางกายอย่างยั่งยืน (Active System)
นอกจากนี้ ยังมีการนำเสนอผลงานวิชาการกว่า 110 ผลงาน ,การประชุมเชิงปฏิบัติการ (Workshops) , e-Exhibition Showcase เพื่อเปิดพื้นที่ให้เกิดการเรียนรู้และแรงบันดาลใจร่วมกัน ช่วยสร้างเครือข่ายความร่วมมือด้านกิจกรรมทางกาย เพื่อเชื่อมโยงภาคีและผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายประเทศ ตลอดจนกิจกรรม Innovation Pitching สำหรับเยาวชนและนักวิจัยรุ่นใหม่ เพื่อนำเสนอแนวคิดสร้างสรรค์ด้านกิจกรรมทางกายและหาแนวทางต่อยอดสู่การพัฒนาในอนาคต
โดยงานสัมมนาครั้งนี้ออกแบบภายใต้แนวคิด Healthy Active Meeting เพื่อส่งเสริมให้ผู้เข้าร่วมได้เคลื่อนไหวระหว่างการเรียนรู้ ลดพฤติกรรมเนือยนิ่ง และสร้างบรรยากาศของการมีส่วนร่วมอย่างกระฉับกระเฉงและสร้างสรรค์ สำหรับผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://seapac2025.org/
สำหรับ SEAPAC 2025 ถือเป็นก้าวสำคัญของการรวมพลังในภูมิภาค เพื่อขับเคลื่อนการส่งเสริมกิจกรรมทางกายและยังเป็นเวทีเริ่มต้นของความร่วมมือระยะยาว ที่จะต่อยอดสู่การพัฒนา Roadmap ด้านกิจกรรมทางกายของอาเซียน และติดตามความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องทุก 3 ปี เพื่อสร้างสังคมที่กระฉับกระเฉง และเท่าเทียมในระดับภูมิภาค
มอบทุนการศึกษา : นายบุญชัย โชควัฒนา ประธานกรรมการบริษัทฯ บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) หรือ SPC ให้เกียรติเป็นประธานในพิธี มอบทุนการศึกษาแก่บุตร-ธิดาพนักงานและบริษัทในเครือ ประจำปี 2568 พร้อมด้วย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รองประธานกรรมการ บริษัทฯ นางชัยลดา ตันติเวชกุล รองกรรมการผู้อำนวยการ บริษัทฯ นางผาสุข รักษาวงศ์ ประธานที่ปรึกษาคณะกรรมการบริหาร บริษัทฯ และ นายณัฐพล เดชวิทักษ์ รองกรรมการผู้อำนวยการ บริษัทฯ ให้เกียรติเข้าร่วมงาน
นายบุญชัย กล่าวว่า ในปีนี้ SPC ได้มอบทุนการศึกษาแก่บุตร-ธิดาพนักงานและบริษัทในเครือ รวมจำนวน 300 ทุน ซึ่งการมอบทุนการศึกษาครั้งนี้ อยู่ภายใต้โครงการสนับสนุนทุนการศึกษา บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) หรือ SPC เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ ช่วยแบ่งเบาภาระครอบครัว และเปิดโอกาสให้เยาวชนได้พัฒนาศักยภาพของตนอย่างเต็มที่ โดยสหพัฒนพิบูล ยังคงมุ่งมั่นส่งต่อเจตนารมณ์ความห่วงใยและใส่ใจบุคลากร โดยการส่งเสริมการศึกษาและการเรียนรู้เพื่อร่วมสร้างเยาวชนคนเก่งให้เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาครอบครัว สังคม และประเทศชาติอย่างยั่งยืน
วิ่งเพื่อสุขภาพ : ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ทิสโก้ อินชัวรันส์ โซลูชั่น จำกัด จับมือ 18 บริษัทพันธมิตรด้านประกันชีวิตและประกันวินาศภัย จัดงานวิ่งเพื่อสุขภาพครั้งที่ 3 ภายใต้ธีม Family First ครอบครัวเดียวกัน วิ่งกัน มันส์แน่ ณ สวนจตุจักร เพื่อส่งเสริมให้ผู้บริหารและพนักงานหันมาใส่ใจสุขภาพ ผ่านกิจกรรมการออกกำลังกายที่เข้าถึงง่ายและสนุกสนาน พร้อมกระชับความสัมพันธ์อย่างอบอุ่นแบบครอบครัวเดียวกันกับพันธมิตรทางธุรกิจ ตามแนวคิดโครงการ Family First ซึ่งจะเป็นแนวทางในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของครอบครัวไทยในทุกช่วงชีวิต