
ท่ามกลางความเหนื่อยล้าของคนทำงาน Klook มองเห็นโอกาสที่จะเปลี่ยนความรู้สึกผิดที่ต้องลาไปเที่ยว ให้กลายเป็นพลังบวก ผ่านการเปิดตัวแคมเปญ “ไป ลา มา Klook” ที่จะชวนคนไทย "อนุญาตให้ตัวเองพัก" ด้วยการท่องเที่ยวที่ยืดหยุ่นกว่าเดิม ไม่ต้องรอทริปใหญ่ ไม่ต้องวางแผนนาน เพราะการพักผ่อนคือ "การลงทุนที่คุ้มค่าที่สุด"
เหนื่อยไหม... กับการทำงานที่หนักหน่วงตลอดทั้งปี?
คุณเคยรู้สึกเหมือนกำลังวิ่งอยู่ในวงล้อที่ไม่รู้จบของการทำงานไหม? ทำงานหนักจนลืมพักผ่อน รู้สึกผิดที่ต้องลา และเก็บวันหยุดไว้จนขึ้นสนิม...หากท่อนเพลงที่บาดลึกถึงใจของคนทำงานอย่าง “เจ้านายคะต้องการอะไรอีกอ่ะ ก็สั่งมาได้เลย” สะท้อนความรู้สึกเหนื่อยล้าจนแทบหมดแรงของคุณ นั่นไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเลย
เพราะข้อมูลจากองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ระบุว่า ประเทศไทยกำลังเผชิญกับภาวะการทำงานหนักติดอันดับโลก โดยคนไทยกว่า 46.7% ทำงานเกิน 48 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ สูงกว่าค่าเฉลี่ยโลกที่ 40 ชั่วโมง และยังติดอันดับ 3 ของโลกด้านจำนวนชั่วโมงการทำงานที่ยาวนานที่สุด
และนอกจากเวลาทำงานที่ยาวนาน วัฒนธรรม “Presenteeism” หรือการรู้สึกว่าต้อง “มาให้เห็นหน้า” แม้ไม่สบาย ยังฝังรากลึก โดย 35 - 48% ของพนักงานไทยยังคงมาทำงานทั้งที่ป่วย เพราะไม่อยากเป็นภาระหรือกลัวสายตาหัวหน้า พฤติกรรมนี้ส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลง และหากปล่อยไว้นานๆ อาจนำไปการเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะ "หมดไฟ" หรือ Burnout
แต่ในขณะเดียวกันคนไทยกลับเป็นหนึ่งในชาติที่ “โหยหาการลาพักร้อน” มากที่สุดในโลก โดย 80% ของพนักงานรู้สึกว่ายังใช้วันลาไม่เพียงพอ แต่กลับไม่กล้าลา เพราะวัฒนธรรมเกรงใจ ความกังวลเรื่องงานคั่งค้าง และความเชื่อว่าการลาควรเป็นทริปใหญ่ปีละครั้งเท่านั้น ส่งผลให้วันลาถูกสะสมไว้โดยไม่ได้ใช้ และกลายเป็นปัจจัยที่เร่งความเครียดสะสมในหมู่คนทำงานมากขึ้นเรื่อยๆ
และนั่นเองจึงทำให้ “Klook” แพลตฟอร์มท่องเที่ยวชั้นนำของเอเชีย มองเห็นชัดว่า ปัญหา burnout ไม่ใช่เพียงเรื่องสุขภาพจิตของคนทำงานเท่านั้น แต่ยังเป็นช่องว่างทางการตลาดขนาดใหญ่ ที่รอการตอบสนองจากแบรนด์ท่องเที่ยว ด้วยอินไซต์จากผู้ใช้ชาวไทยในปี 2568 พบว่า
เคนนี่ แชม ผู้จัดการทั่วไปประจำ Klook ประเทศไทย ฮ่องกง และมาเก๊า อธิบายว่า “เทรนด์ที่เกิดขึ้นชี้ชัดว่านักเดินทางรุ่นใหม่มองการเดินทางเป็นไลฟ์สไตล์ที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น ทริปสั้นๆ 3–4 วัน แต่มีบ่อยครั้งตลอดปี กลายเป็นทางออกที่ตอบโจทย์วัฒนธรรมการทำงานยุคใหม่มากกว่าการลายาวครั้งเดียวต่อปี”
เพราะการเดินทางไม่จำเป็นต้องวางแผนล่วงหน้าเป็นเดือนหรือต้องใช้วันลาจำนวนมากอีกต่อไป
กลยุทธ์ “ไป ลา มา Klook” ใช้อินไซต์ปลุกความกล้า ‘ลาออกจากความเหนื่อย’
ท่ามกลางเทรนด์ burnout และพฤติกรรมการเดินทางที่เปลี่ยนไป Klook เปิดตัวแคมเปญ “ไป ลา มา Klook” ส่งท้ายปี 2568 เพื่อกระตุ้นให้คนไทย “อนุญาตให้ตัวเองพัก” ผ่านการเดินทางท่องเที่ยวในรูปแบบที่ยืดหยุ่น ไม่ต้องรอวันพิเศษ ไม่ต้องวางแผนยาว
กลยุทธ์หลักของ Klook คือ
1. วางแบรนด์ในฐานะ “ตัวกระตุ้น” ให้คนไทยออกจากวงจร burnout
2. สื่อสารด้วย Insight-driven Campaign ที่พูดภาษาเดียวกับคนทำงาน
3. เสนอทางเลือกที่จับต้องได้ เช่น ดีลกิจกรรม wellness, day trip, micro-cation ที่จองง่าย ใช้เวลาสั้น และตอบโจทย์พฤติกรรมจริง
จับจังหวะปีทองของตลาดท่องเที่ยว – เทรนด์จีนโตแรง ญี่ปุ่นยังยืนหนึ่ง
นอกจากนี้ข้อมูลของ Klook ยังเผยว่า ญี่ปุ่นยังคงครองอันดับ 1 จุดหมายปลายทางยอดนิยมของคนไทย โดยเฉพาะโตเกียวและโอซาก้า ขณะที่ตลาดจีนเติบโตแบบก้าวกระโดด ยอดใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวไทยไปจีนปี 2568 เติบโตเลขสามหลักเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และความนิยมของนักเดินทางรุ่นใหม่เพิ่มขึ้นกว่า 7 เท่า โดยเฉพาะเมืองเซี่ยงไฮ้
Klook Online Travel Fest – มหกรรมลาเที่ยวแห่งปี
เพื่อจุดไฟให้คนไทยออกเดินทางจริง Klook จัดงาน “Klook Online Travel Fest 2025” ระหว่างวันที่ 17–20 ตุลาคมนี้ มหกรรมลาเที่ยวที่รวมโปรแรงตลอด 4 วัน เช่น โค้ดส่วนลดสูงสุด 5,000 บาท Flash Sale กิจกรรมยอดฮิต 1 แถม 1 และผ่อน 0% พร้อมกิจกรรม LIVE จาก KLOOK Kreators ให้คุณได้พูดคุย สอบถาม และสอบถามความคิดเห็นทุกเรื่องเที่ยว เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้คนไทยกล้าลาออก…ไปเที่ยวสิ้นปี ติดตามรายละเอียดของมหกรรมลาเที่ยวแห่งปี คลิกเลย
ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่ากรณีของ Klook คือ การเข้าใจ Pain Point หรือความเจ็บปวดที่ซ่อนอยู่ของคนทำงาน สามารถต่อยอดไปสู่กลยุทธ์ทางการตลาดที่มีประสิทธิภาพได้อย่างไร เมื่อ Insight และเทรนด์ตลาดมาบรรจบกันอย่างแม่นยำ แคมเปญก็สามารถสร้างทั้งแรงบันดาลใจและยอดขายได้พร้อมกัน
การพักผ่อนจึงไม่ใช่เรื่องไร้สาระ แต่เป็น "การลงทุนที่คุ้มค่าที่สุด" ที่ช่วยให้เราสามารถกลับมาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีความสุขอีกครั้ง การอนุญาตให้ตัวเองได้พัก ได้ออกไปเดินทางเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ไม่จำเป็นต้องใช้งบประมาณหรือเวลามากมาย เพราะการพักผ่อนเป็นเพียงแค่การดูแลและเติมเต็มพลังใจให้ตัวเองกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง
อย่าปล่อยให้ความเหนื่อยล้าเป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิต เพราะการท่องเที่ยวไม่ใช่เรื่องของความหรูหรา ไม่ใช่เรื่องของความเกรงใจ แต่คือความจำเป็นพื้นฐานของชีวิตที่ทุกคนควรได้รับอย่างแท้จริง