รอบรั้วการตลาด : เจมส์ เรืองศักดิ์-ครูก้อย พาเบบี้แอนด์มัม สร้างรายได้กว่า 783 ล้าน

Business & Marketing

Marketing & Trends

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

รอบรั้วการตลาด : เจมส์ เรืองศักดิ์-ครูก้อย พาเบบี้แอนด์มัม สร้างรายได้กว่า 783 ล้าน

Date Time: 8 ต.ค. 2568 01:00 น.

Video

Jack Ma กลับมา จะพา Alibaba สร้างอำนาจใหม่ให้วงการเทคจีนได้ยังไง ? | Digital Frontiers EP.50

Summary

เจมส์ เรืองศักดิ์ และ ครูก้อย ภรรยา พาแบรนด์ "เบบี้แอนด์มัม" สร้างรายได้กว่า 783 ล้าน

Latest


เจมส์ เรืองศักดิ์ ลอยชูศักดิ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เบบี้แอนด์มัม (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า จุดเริ่มต้นของเบบี้แอนด์มัมฯ  มาจากภรรยา คือ ครูก้อย - นัชชา ลอยชูศักดิ์ เคยเผชิญภาวะมีบุตรยากด้วยตัวเอง และผ่านประสบการณ์การรักษาหลายวิธี จึงทำให้เข้าใจ Pain point ของผู้มีบุตรยากเป็นอย่างดีว่า ปัญหาท้องยากเป็นความรู้สึกที่ติดค้างอยู่ในใจของผู้หญิงหลายคน 

เมื่อหันไปมองรอบตัว เห็นเพื่อนหรือพี่น้องต่างก็มีลูกกันหมด การที่ยังไม่มีลูกแม้จะพร้อมในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการเงินหรือความมั่นคงในชีวิต อาจก่อให้เกิดความรู้สึกตั้งคำถามกับตัวเองอยู่เสมอ ซึ่งหลายครอบครัวที่เผชิญภาวะมีบุตรยากต่างเข้าใจดี 

ครูก้อย นัชชา ลอยชูศักดิ์ กรรมการบริหาร บริษัท เบบี้แอนด์มัม (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ด้วยความตั้งใจที่จะส่งต่อความรู้เตรียมตั้งครรภ์ให้กับผู้มีบุตรยาก จึงสร้างเพจ BabyAndMom.co.th ขึ้นเพื่อเป็นช่องทางในการแชร์ประสบการณ์จริงของครูก้อยกับภาวะมีบุตรยากที่ต้องเผชิญและกระบวนการรักษาทุกขั้นตอน พร้อมให้ความรู้ในการเตรียมความพร้อมก่อนตั้งครรภ์ ทั้งการบำรุง และดูแลสุขภาพในองค์รวม 

ทั้งนี้สิ่งที่เบบี้แอนด์มัมฯ ทำแตกต่างจากความเชื่อดั้งเดิมที่อิงโชครางหรือไสยศาสตร์ แต่ใช้  วิทยาศาสตร์และงานวิจัยมาเป็นแกนกลาง เมื่อผู้ติดตามนำความรู้ที่ได้รับไปปฏิบัติจริง ก็พบผลลัพธ์ซ้ำๆ อย่างต่อเนื่อง นั่นเป็นจุดที่ทำให้มั่นใจว่า สิ่งที่ครูก้อยศึกษาค้นคว้า และสื่อสารต่อสังคมนั้นมาถูกทางแล้ว และต่อยอดสู่การก่อตั้งบริษัทในเดือนธันวาคม พ.ศ.2559 ด้วยเป้าหมายการเป็นศูนย์กลางความรู้เตรียมตั้งครรภ์สำหรับผู้มีบุตรยาก และพัฒนาผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพเพื่อการเจริญพันธุ์ 

เนื่องจากในประเทศไทยยังไม่มีผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับผู้มีบุตรยาก ส่วนใหญ่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศโดยไม่ผ่านกระบวนการที่ถูกต้อง จึงเป็นที่มาในการคิดค้นและพัฒนาผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพ ทั้งโปรตีน วิตามิน และสมุนไพรเพื่อการเจริญพันธุ์ 

โดยยึดแนวคิดการตลาดเชิงให้ความรู้ (Education Marketing) เป็นหัวใจหลัก เพื่อเข้ามาเติมเต็มในส่วนนี้ คือการช่วยเตรียมร่างกาย เสริมโภชนาการ และดูแลสุขภาพของทั้งฝ่ายชายและหญิงให้พร้อมที่สุดก่อนเข้าสู่กระบวนการแพทย์ เพื่อเตรียมวัตถุดิบตั้งต้นที่ดีไปเสิร์ฟให้แพทย์ เมื่อแพทย์มีวัตถุดิบตั้งต้นดี โอกาสความสำเร็จก็สูงตามมา


สำหรับจุดเริ่มต้นของผลิตภัณฑ์ตัวแรก โปรตีนเฟอร์ตี้ (Ferty) เกิดจาก Pain Point ของผู้ติดตามเพจ BabyAndMom ที่สะท้อนว่าผู้มีบุตรยากในไทยแทบไม่มีทางเลือกด้านวิตามินและอาหารเสริมที่คิดค้นและพัฒนามาเพื่อคนกลุ่มนี้โดยเฉพาะ 

ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ของเบบี้แอนด์มัมฯ สามารถตอบโจทย์ดีมานด์ที่ยังไม่มีใครเข้าถึงได้อย่างแท้จริง จึงทำให้ เบบี้แอนด์มัมเป็นผู้นำอันดับ 1 ตลาดอาหารเสริมเพื่อผู้มีบุตรยากเจ้าแรกในประเทศไทย และยังส่งเสริมให้เบบี้แอนด์มัมฯ เติบโตแบบก้าวกระโดดมีรายได้รวมกว่า 783 ล้านบาท (จากข้อมูลงบการเงินที่ยื่นต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ปี พ.ศ. 2562–2567)

นอกจากนี้จุดแข็งของเบบี้แอนด์มัมฯ คือ การนำวิทยาศาสตร์มาเป็นแกนกลาง ของผลิตภัณฑ์และบริการ ซึ่งก่อนหน้านี้ในไทยยังไม่มีวิตามินหรืออาหารเสริมใดที่ออกแบบเฉพาะสำหรับผู้มีบุตรยาก  เมื่อเราเริ่มเป็น Trend Setter ในตลาดนี้ มันคือ Blue Ocean เพราะเราเริ่มจาก Core Value ด้านการให้ความรู้ (Education) เป็นหัวใจสำคัญ 

เมื่อผู้มีบุตรยากเข้าใจเหตุผลทางวิทยาศาสตร์อย่างแท้จริง ก็จะเกิดการปฏิบัติตามด้วยความรู้และความเข้าใจ และก้าวเดินไปบนเส้นทางที่ถูกต้องตามหลักวิทยาศาสตร์ ซึ่งแตกต่างจากการใช้เพียงแรงจูงใจเชิงการตลาด (Motivation) ที่ต้องแข่งขันดึงลูกค้าอย่างต่อเนื่อง กลยุทธ์ Education-driven นี้ทำให้เบบี้แอนด์มัมฯ เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน

"เป้าหมายหลักของ เบบี้แอนด์มัมฯ คือ ขจัดความไม่รู้เกี่ยวกับภาวะมีบุตรยากให้หมดไปจากสังคมไทย ให้ผู้หญิงและครอบครัวได้เตรียมความพร้อมและดูแลตัวเองอย่างเหมาะสม ไม่เพียงเพื่อให้เกิดความรู้และความเข้าใจเท่านั้น แต่ยังเพื่อส่งต่อแนวทางการดูแลสุขภาพที่ดีให้ทั้งแม่และลูกน้อยอีกด้วย ส่วนก้าวต่อไปของเบบี้แอนด์มัมฯ คือการเข้าถึงผู้หญิงตั้งแต่เริ่มวางแผนมีบุตรการเตรียมตัวจนถึงช่วงตั้งครรภ์ คลอดบุตร และต่อยอดไปสู่การให้ความรู้และบริการที่ครอบคลุมตลอดจนถึงช่วงวัยทอง""


จัดกิจกรรม KKP FinLit : กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร (KKP) ร่วมกับ กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) จัดกิจกรรม KKP FinLit  ภายในงานปัจฉิมนิเทศนักศึกษาทุนโครงการครูรัก(ษ์)ถิ่น รุ่นที่ 2 โดยมีนักศึกษาครูจำนวน 295 คนเข้าร่วม ณ โรงแรมรอยัล ริเวอร์ กรุงเทพฯ กิจกรรมครั้งนี้มุ่งเสริมสร้างความรู้ด้านการวางแผนและการจัดการเงินส่วนบุคคล พร้อมให้ผู้เข้าร่วมสามารถถ่ายทอดความรู้นี้ไปยังนักเรียน ครอบครัว และชุมชน เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน


รณรงค์วันล้างมือโลก : บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคเพื่อคนไทย มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจคู่คุณธรรม พัฒนาสินค้านวัตกรรมเพื่อสุขภาวะที่ดีของผู้บริโภค สังคม และสิ่งแวดล้อม มาตลอดระยะเวลา 56 ปี ในฐานะผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์โฟมล้างมือ คิเรอิคิเรอิ (Kirei Kirei) เดินหน้าสานต่อเจตจำนงของแบรนด์ (Brand Purpose) อย่างต่อเนื่อง 

โดยชี้ถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการสร้างสุขนิสัยการล้างมือ หลังผลสำรวจล่าสุดระบุว่า คนไทยเพียง 15% เท่านั้นที่ล้างมืออย่างสม่ำเสมอ สะท้อนถึงช่องว่างสำคัญด้านสุขอนามัยที่ต้องได้รับการแก้ไข พร้อมปิดท้ายกิจกรรมรณรงค์ประจำปีอย่างยิ่งใหญ่ด้วยงานวิ่งการกุศล Global Hand Washing Day Run ครั้งที่ 2 เพื่อระดมทุนสนับสนุนการสร้างความตระหนักด้านสุขอนามัยในสังคมไทย


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ