
กว่า 32 ปี ที่ ป.ประทีป ก๋วยเตี๋ยวเรืออยุธยา ก่อกำเนิดขึ้นจาก 2 สามีภรรยา “ประทีป ปิ่นสุวรรณ” ชาวสุพรรณบุรี ผู้เป็นสามี ที่มาของชื่อ ป.ประทีป ที่เรียนจบเพียงชั้น ป.1 และ “จำนงค์ โมทะจิตร” ภรรยาชาวบุรีรัมย์ ที่จบ ป.4 ต้องเข้ามาทำงานเป็นกรรมกรก่อสร้างและเด็กรับจ้างโต๊ะสนุ้ก ส่วนภรรยาเป็นสาวโรงงาน ปากกัดตีนถีบ ดิ้นรนเพื่อให้มีชีวิตที่ดีขึ้น
ก่อนที่จะพากันไปช่วยพี่ชายกับพี่สะใภ้ขายก๋วยเตี๋ยวเรืออยุธยา และ “อาศัยครูพักลักจำ” จนได้สูตรทำก๋วยเตี๋ยวเรือ นำมาปรับปรุงรสชาติให้เข้มข้นขึ้นตามความชอบ ก่อนจะมาเปิดร้านเล็กๆของตัวเอง อยู่ในซอยนวลจันทร์ แยกคลองลำเจียก 13 ในปี 2536 โดยขอกู้เงิน 1 หมื่นบาท จากเถ้าแก่โต๊ะสนุ้กที่เมตตาและสนับสนุนคุณประทีป เพราะเห็นความซื่อสัตย์และขยันขันแข็ง รวมทั้งยังช่วยหาทำเลและเจรจากับเจ้าของที่ดินที่เช่าเปิดร้าน โชคดีเจอเจ้าของใจดีให้เปิดร้านขายก่อน แล้วค่อยจ่ายค่าเช่าทีหลัง ซึ่งปรากฏว่าก๋วยเตี๋ยวเรือจานละ 5 บาทในวันแรกนั้นขายดิบขายดี ได้เงินถึง 800 บาท ดีใจมาก!! และยังคงขายดีมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน
ก๋วยเตี๋ยวเรือ ป.ประทีป มาเริ่มมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย ในช่วงก่อนโควิดไม่นาน จากกระแสรีวิวและพูดถึงในโลกโซเชียล ถึงรสชาติน้ำซุปที่เข้มข้นหอมพริกคั่วอร่อยสะใจ ดังนั้น หลังวิกฤติโควิดเมื่อร้านอาหารต่างๆกลับมาเปิดขายได้ตามปกติ ปรากฏว่ามีลูกค้ามาต่อคิวรอกินก๋วยเตี๋ยวเรือ ที่ร้านแถวยาวเหยียดตั้งแต่ก่อน 7 โมงเช้า จนปิดร้าน 5 โมงเย็น มีสื่อรายการทีวี และอินฟลูฯมาสัมภาษณ์และรีวิวความอร่อยจำนวนมาก
“อรุณศรี ปิ่นสุวรรณ” ลูกสาวคนเดียวของ ป.ประทีป วัย 32 ปี เล่าย้อนหลังว่า พ่อประทีปเสียชีวิตไปเมื่อ 3-4 ปีที่แล้ว ตอนนี้มีแม่กับเธอเป็นหัวเรือหลัก แม่บอกว่าเปิดร้านวันแรกใช้เงินกู้ซื้อของจนหมด เหลือเงินในกระเป๋าแค่ 900 บาท ซึ่งตอนนั้นแม่ตั้งท้องเธอได้ 6 เดือน โดยครอบครัวของเธอต้องพักอาศัยอยู่ภายในร้าน ดังนั้น เธอจึงเกิดและเติบโตมาในร้านก๋วยเตี๋ยวเรือ และต้องช่วยงานในร้านทุกอย่างตั้งแต่เด็กเพื่อแบ่งเบาภาระพ่อแม่ทุกวัน ทั้งก่อนไปโรงเรียน-หลังเลิกเรียน เสาร์-อาทิตย์ และช่วงปิดเทอม กว่าจะปิดร้านในแต่ละวัน เธอเห็นพ่อกับแม่เหนื่อยสายตัวแทบขาด รวมทั้งตัวเธอเองด้วย...!!
ดังนั้น ตลอดที่อยู่ในวัยเรียนเธอจึงคิดเสมอว่า อยากเรียนอะไรก็ได้ ที่ได้ออกไปทำงานข้างนอก ได้หนีออกจากร้านก๋วยเตี๋ยว จนเมื่อจบ ม.6 ในวัย 19 ปี ขณะที่เตรียมสมัครสอบเรียนต่ออยู่หลายสถาบันนั้น มีคำพูดของพ่อที่ได้ฉุดความคิดของเธอที่ว่า “จะดิ้นรนไปทำไม คนรวยๆตั้งมากมาย บางคนเป็นเจ้าของกิจการ มีร้านขายบิ๊กไบค์ ทำโรงแรม รีสอร์ต บางคนจบปริญญาโทยังมาซื้อสูตรก๋วยเตี๋ยวเราไปเปิดร้านขายเพื่อสร้างอาชีพ แล้วเราจะหนีอาชีพตัวเองทำไม!!”
นั่นจึงทำให้เธอได้ปรับความคิดตัวเอง และตัดสินใจโดดเข้าไปช่วยพ่อแม่อย่างเต็มตัวเรียนรู้ทุกอย่างในร้าน และช่วยแม่สอนวิธีการทำการปรุงน้ำซุป ให้กับคนที่มาซื้อสูตรก๋วยเตี๋ยว ซึ่งจนถึงปัจจุบัน ได้ขายสูตรก๋วยเตี๋ยวเรือ ป.ประทีปไปแล้วกว่า 500 สาขาทั่วประเทศ รวมทั้งสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และสิงคโปร์ โดยทุกวันนี้มีผู้ติดต่อมาซื้อสูตรก๋วยเตี๋ยวเรือ ป.ประทีปวันละ 1-3 ราย เฉลี่ยขายสูตรได้เดือนละ 20 ราย
โดยก๋วยเตี๋ยวเรือ ป.ประทีปเริ่มขายสูตรครั้งแรกในราคา 20,000 บาท เมื่อ 20 ปีก่อน ให้คนส่งน้ำแข็งที่มาส่งน้ำแข็งที่ร้านและเห็นว่าร้านเราขายดีมาก จึงมาอ้อนขอซื้อสูตรเพื่อหวังไปสร้างเนื้อสร้างตัวสร้างอาชีพ แต่ปัจจุบันมีการขาย 2 รูปแบบ คือราคา 1 แสนบาท ผู้ซื้อต้องมาซื้อหัวน้ำซุป และพริกป่นจากร้าน และราคา 2.5 แสนบาท ผู้ซื้อจะได้สูตรน้ำซุปไปทำเอง แต่ยังคงต้องซื้อพริกป่นจากร้าน เพราะพริกป่นของเราต้องคั่วสดใหม่เสมอ โดยต้องไปคั่วไกลถึงบุรีรัมย์กลางทุ่งนา เพื่อไม่ให้กลิ่นไปรบกวนชาวบ้าน โดยทั้ง 2 แบบจะสอนทำทุกอย่างจนกว่าจะเป็น และสามารถกลับมาเรียนและปรึกษาได้ตลอด รวมทั้งแนะนำแหล่งซื้อวัตถุดิบที่มีคุณภาพ
เพียงแค่นี้ก็สามารถเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวเรือ ป.ประทีปได้แล้ว โดยไม่มีการเก็บค่ารอยัลตี้ ค่าธรรมเนียมรายปี หรือค่าใช้ชื่อแบรนด์ ป.ประทีป รวมทั้งไม่มีส่วนแบ่งจากยอดขายใดๆเหมือนกับระบบแฟรนไชส์ทั่วไป
“เรารู้ว่าทำร้านก๋วยเตี๋ยวมันเหนื่อย พ่อและแม่จึงทำธุรกิจแบบ “ครอบครัว” บ้านๆ ช่วยคนให้มีอาชีพ ไม่เก็บเล็กเก็บน้อย เราพึงพอใจแค่นี้ แม่บอกว่าเราอย่าไปเบียดเหงื่อเค้าเลย มีคนจำนวนมากสร้างฐานะได้จากก๋วยเตี๋ยวเรือ ป.ประทีป เค้าขายได้ดีประสบความสำเร็จเราก็ดีใจภูมิใจ พ่อกับแม่เป็นตัวอย่างของความอดทนและความเป็นนักสู้ โดยทำให้เราเห็นเราสัมผัสได้ทุกวัน ที่สำคัญก๋วยเตี๋ยวเรือ ป.ประทีป มาได้ถึงทุกวันนี้ เพราะพ่อแม่ได้รับโอกาสที่ดีจากคนรอบข้างมาก่อน เราจึงอยากส่งต่อโอกาสให้คนอื่น”
“อรุณศรี” ในฐานะลูกคนเดียวที่ต้องสานต่อกิจการ ให้ก๋วยเตี๋ยวเรือ ป.ประทีป เติบโตได้อย่างมั่นคง เธอบอกว่า กำลังทำระบบข้อมูลต่างๆ เพื่อใช้ในการบริหารจัดการและสร้างมาตรฐานให้กับ ป.ประทีป โดยเฉพาะการควบคุมให้ทุกสาขามีรสชาติเข้มข้นอร่อยหอมพริกคั่วตามต้นแบบ ไม่ว่าจะกินสาขาไหน ต้องได้มาตรฐานเดียวกัน
รวมทั้งดูแลภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้มีความน่าเชื่อถือ ตลอดจนมีการปรับโลโก้ ป้ายชื่อร้าน ป.ประทีป ที่ได้มีการจดลิขสิทธิ์ไว้เรียบร้อยแล้ว เพื่อให้เป็น official และมีแพตเทิร์นเดียวกันทั่วประเทศ เหมือนธุรกิจ อาหารที่เขาประสบความสำเร็จ อย่าง KFC หรือร้านอาหารและก๋วยเตี๋ยวแบรนด์อื่นๆที่มีมาตรฐาน
ถึงวันนี้ “อรุณศรี” บอกว่า เธอมีความสุขและภูมิใจในอาชีพขายก๋วยเตี๋ยวเรือมากเป็นอาชีพที่อิสระ เป็นนายตัวเอง และสามารถสร้างความมั่นคงให้ครอบครัวได้ แม้จะเหน็ดเหนื่อย แต่ถ้าเรารักและตั้งใจทุ่มเททำงาน ผลลัพธ์ที่ได้ ก็ทำให้หายเหน็ดเหนื่อย ที่สำคัญเธอภูมิใจในความเก่งของพ่อกับแม่ที่สุด จบเพียง ป.1 กับ ป.4 ยังพากันมาได้ไกลขนาดนี้ จากวันแรกที่ต้องกู้เงินมาลงทุน ติดค่าเช่าร้านมีเงินเหลือติดกระเป๋าแค่ 900 บาท มาถึงวันนี้ 32 ปีของก๋วยเตี๋ยวเรือ ป.ประทีปได้สร้างรายได้และความมั่งคั่งให้กับครอบครัวเธอแล้วไม่ต่ำกว่าร้อยล้าน!!
เธอทิ้งท้ายว่า เธอต้องการทำให้ก๋วยเตี๋ยวเรือ ป.ประทีปเป็น “ที่สุดของก๋วยเตี๋ยวเรือแท้ๆ” ที่ครองใจคนไทยไปได้อย่างยาวนาน.
เลดี้แจน
คลิกอ่านคอลัมน์ “Business on my way” เพิ่มเติม