
เชื่อว่า 8 ใน 10 ของสาววัยมหาวิทยาลัยไปจนถึงวัยเริ่มต้นทำงาน ต้องเคยผ่านตาหรือเป็นลูกค้าร้านเสื้อผ้าสาวหวานนาม “LOOKBOOKLOOKBOOK” ที่มีดีไซน์เป็นเอกลักษณ์และราคาจับต้องได้
LOOKBOOKLOOKBOOK เริ่มต้นจากเพื่อนมัธยมโรงเรียนสตรีวิทยา 2 จำนวน 3 คน มีความสนใจร่วมกันในโลกแห่งแฟชั่นและการช็อปปิ้ง ทุกเสาร์-อาทิตย์ที่ว่าง พวกเธอมักชวนกันไปเดินซื้อเสื้อผ้า พูดคุยถึงเรื่องการแต่งตัว
จนเข้าสู่วัยมหาวิทยาลัย เติบโตพอที่จะมองเห็นโอกาส ทำให้ความชอบและ Passion นำไปสู่รายได้ LOOKBOOKLOOKBOOK จึงก่อกำเนิดขึ้น ในขณะที่ 3 ผู้ร่วมก่อตั้ง คุณจีน-วนิชชา ตรีทิพย์สถิตย์, คุณอิงค์-อิงครัต อุนนกิตติ และ คุณโบ-สุภัค ธงชัยวัฒนอำพล มีอายุเพียง 20 ปี
ในยุคแรกๆด้วยความเป็นเด็ก ทุกคนมะรุมมะตุ้มทำงาน ถึงขนาดมีเวรจัดส่งสินค้า หมุนเวียนไปสัปดาห์ละบ้านเพื่อความเท่าเทียม นอกเหนือจากการช่วยกันดีไซน์ชุด-จ้างผลิต ลูกค้ากลุ่มแรกคือเพื่อนๆ ผู้หญิง จากนั้นความนิยมก็แพร่กระจายไปสู่กลุ่มเพื่อนของเพื่อน เกิดการบอกต่อ จนตัดสินใจเข้าสู่ช่องทางการขายผ่านเว็บบอร์ด Siambrandname และรับออเดอร์ผ่านอีเมล
คุณอิงค์เล่าว่า “ช่วงแรกที่ Siambrandname เรามีสินค้าประมาณ 4-5 แบบ ขายหลักสิบตัว ออกคอลเลกชันทุก 3 เดือนทำได้แค่นั้น เพราะทุกคนมีงานประจำ เราจะแจ้งลูกค้าว่าจะเริ่มขายกี่โมง คนที่สนใจให้อีเมลเข้ามา จนมาถึงยุคเฟซบุ๊กก็ยังรับออเดอร์ผ่านอีเมล เริ่มได้ออเดอร์หลักพัน แต่มีของส่งหลักร้อยชิ้น เห็นการเติบโตตามธรรมชาติ มีแฟนติดตาม-ชื่นชอบ ออเดอร์ทะลักเกินกำลังผลิต แต่ด้วยภาระงานประจำรัดตัว ทำให้ขยายงานไม่ได้”
4-5 ปีแรกผ่านไป เข้าสู่ช่วงอีคอมเมิร์ซเบ่งบาน ก็ถึงจุดเปลี่ยนผ่านให้คุณจีน คุณอิงค์ และคุณโบต้องตัดสินใจ ถ้าจะไปให้ไกลและใหญ่กว่านี้ ต้องมีโฟกัสและเวลา ทั้ง 3 คนจึงทยอยออกจากงานประจำที่มั่นคง หันมาทำธุรกิจเต็มตัว
“ตอนนั้นอิงค์อยู่บริษัท KPMG จีนอยู่ SCG และโบอยู่แบงก์ MUFG (Mitsubishi UFJ Financial Group) ทุกคนมีงาน มีรายได้ แต่เราเห็นแบรนด์อื่นๆ ที่เกิดหลังเรา เติบโตอย่างรวดเร็ว เราจึงฉุกคิดว่า ถ้าอยากทำให้ LOOKBOOK ไปไกลกว่านี้ น่าจะต้องเลือกสักทาง จึงตัดสินใจหันมาทุ่มเทให้ LOOKBOOK”
ออกจากงานประจำมาทำแบรนด์เสื้อผ้าเต็มตัว ตอนนั้นเข้าสู่ยุคไลน์ LINE ซึ่งก็เช่นเคย LOOKBOOK บุกเข้าแพลตฟอร์มช่องทางใหม่แห่งยุคที่มีผู้ใช้เป็นจำนวนมาก เปลี่ยนจากรับออเดอร์ผ่านอีเมล เป็นผ่าน LINE Official Account ทำยอดขายสร้างสถิติใหม่ขยับขึ้นแตะปีละ 20 ล้านบาท
แต่จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ คือตอนขยับเข้าสู่แพลตฟอร์มมาร์เก็ตเพลส “ลาซาด้า” (LAZADA) ประมาณปี 2561 คุณอิงค์เล่าว่า วันแรกที่เปิดขายทำรายได้สูงสุดวันเดียวที่ 1.5 ล้านบาท เป็นสปริงบอร์ดครั้งใหญ่ จนวันนี้ทำยอดขายเฉลี่ยเดือนละ 10,000 ชิ้น รายได้ขยับเกินปีละ 100 ล้านบาท
“เราเคยพยายามจะทำระบบเอง คิดจะขายผ่านเว็บไซต์ของตัวเอง แต่ยากและต้องลงทุนเยอะ ขณะที่ลาซาด้ามีทุกอย่างให้หมด กระนั้นเรารู้ว่าการมีตัวตนบนตลาดค้าปลีกแบบดั้งเดิม มีหน้าร้านให้ลูกค้าเห็นเป็นเรื่องจำเป็น โดยเฉพาะตอนนี้ที่เราอยากบุกตลาดนักท่องเที่ยว อยากพิสูจน์คุณภาพในฐานะแบรนด์เสื้อผ้าไทย เราจึงตระเวนเปิดป๊อปอัปสโตร์ตามห้างต่างๆอย่างสม่ำเสมอ ตอนนี้มีเคาน์เตอร์ขายประจำที่เซ็นทรัลลาดพร้าว เป็นต้น แต่ 95% ของยอดขายทั้งหมดยังอยู่บนลาซาด้า”
ค่อยๆเติบโตผ่านกาลเวลา 15 ปี จากจุดเริ่มต้นปัจจุบัน 3 สาวแต่งงาน มีครอบครัว เป็นแม่ของลูกวัยแรกเกิดจนถึงอนุบาล พวกเธอไม่มีเวลาไปเดินช็อปปิ้งด้วยกันเหมือนเดิม เพราะวันเสาร์-อาทิตย์มีไว้ให้ครอบครัว
ที่สำคัญเสื้อผ้าในตู้เกือบทั้งหมดมาจากคอลเลกชัน LOOKBOOK และแบรนด์ย่อยที่แตกออกมา ประกอบด้วย LOOKBOOK THE SIGNATURE ร้านขายชุดเจ้าสาวและเพื่อนเจ้าสาว, LOOKBOOK BEACH CLUB ขายชุดว่ายน้ำ และ LOOKBOOK PETITE ขายเสื้อผ้าเด็กที่ทำยอดขายดีมาก
เมื่อถามว่าอะไรคือความยากในการทำธุรกิจร่วมกับเพื่อนสนิท คุณจีนเป็นผู้ตอบคำถาม “ตอนเด็กๆทุกคนต้องการมีส่วนร่วมกับทุกเรื่อง ไม่รู้จักแบ่งงานกันทำตามความถนัด ตอนนี้รู้จักแบ่งงานกันทำ เคารพการตัดสินใจของกันและกัน อิงค์รับผิดชอบด้านการออกแบบทั้งหมด จีนทำมาร์เกตติ้ง ส่วนโบดูแลการผลิต ทุกอย่างลงตัว”
วันนี้สำหรับ 3 สาว จึงเต็มไปด้วยความสุข ความน่าอิจฉา ที่ได้ทำในสิ่งที่รักกับเพื่อนสนิทวัยเด็ก พวกเธอไม่มีเป้าหมายที่เลิศหรู นอกจากการทำให้ LOOKBOOKLOOKBOOK เติบโตไปกับลูกค้าที่อยู่กันมาแต่แรกเริ่ม เข้าถึงลูกค้าเด็กกลุ่มใหม่ๆ ผ่านการร่วมงานกับเซเลบริตี้ในคอลเลกชันต่างๆ และการบุกตลาดนักท่องเที่ยว
Business on my way ของเพื่อนกลุ่มนี้ คือความสามารถในการปรับตัวอย่างรวดเร็วให้เข้ากับทุกยุค ทุกสมัย ทุกแพลตฟอร์ม และทุกที่ที่มีลูกค้า.
เลดี้แจน
คลิกอ่านคอลัมน์ "Business On My Way" เพิ่มเติม