
หลังจากที่ได้ประกาศเปิดตัวไปเมื่อปลายปี 2567 ที่ผ่านมา ล่าสุด บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC ยักษ์ใหญ่ในวงการอสังหาริมทรัพย์ของไทย ภายใต้การนำทัพของ “วัลลภา ไตรโสรัส” ทายาทคนเก่งของ เจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี ในบทบาท ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่
ก็ได้ฤกษ์เปิดตัว “Jurassic World: The Experience” ความบันเทิงแบบอิมเมอร์ซีฟที่ใหญ่สุดในโลก ณ โครงการ เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ เดสติเนชั่น เป็นที่เรียบร้อย ภายใต้งบ 1,400 ล้านบาท
โดย Jurassic World: The Experience คือ จุดหมายปลายทางท่องเที่ยวขนาด 6,000 ตารางเมตร ที่นำแฟรนไชส์ภาพยนตร์ระดับโลก มาสู่โลกแห่งความเป็นจริง ผ่านประสบการณ์เสมือนจริงแบบอิมเมอร์ซีฟไม่เหมือนใคร โดยผู้เข้าชมจะได้ร่วมผจญภัยไปบนเกาะอิสลา นูบลาร์ ท่ามกลางไดโนเสาร์แอนิเมทรอนิกส์ที่สมจริงและฉากอันเป็นเอกลักษณ์ที่ถ่ายทอดรายละเอียดได้ อย่างตื่นตาตื่นใจราวกับในภาพยนตร์ Jurassic World ผสมผสานความตื่นเต้นเร้าใจเข้ากับความมหัศจรรย์สุดล้ำเพื่อจุดประกายจินตนาการของผู้เข้าชมทุกคน
ทั้งนี้ความร่วมมือครั้งใหม่เกิดขึ้นระหว่าง แอสเสท เวิรด์ คอร์ปอเรชั่น หรือ AWC, NEON, และ Universal Live Events & Location Based Entertainment ซึ่งเป็นธุรกิจหนึ่งในเครือ Universal Destinations & Experiences โดยมีเป้าหมายในการพัมนาจุดหมายปลายทางด้านไลฟ์สไตล์รูปแบบใหม่ ที่ผสานความสนุก ความบันเทิง และความยั่งยืนไว้ในที่เดียว พร้อมสนับสนุนกรุงเทพฯ ให้เป็นศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยวและความบันเทิงระดับโลก
บน 10 ฐานสำคัญ ภายในพื้นที่กว่า 6,000 ตารางเมตรของ Jurassic World: The Experience ผู้เข้าชมจะได้ตื่นตาตื่นใจกับโซนต่างๆ ที่ออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน ไม่ว่าจะเป็น
ผู้เข้าชมจะได้ทบทวนเรื่องราวการเกิดขึ้นของไดโนเสาร์ใน Jurassic World ผ่านการจัดแสดงก้อนอำพันพร้อมคำบรรยายจากตัวละครในตำนานอย่าง มิสเตอร์ ดีเอ็นเอ โดยผู้เข้าชมยังสามารถถ่ายภาพก่อนออกเดินทางก่อนเข้าสู่จุดรอขึ้นเรือเฟอร์รี่ ซึ่งสามารถเลือกซื้อเก็บไว้เป็นที่ระลึกได้ในภายหลัง หน้าต่างของเรือจะเปิดขึ้นเมื่อเรือเริ่มแล่นออกสู่ทะเล ท้องฟ้าก็เต็มไปด้วยเมฆพายุ และเกาะอิสลา นูบลาร์ ปรากฏขึ้นเป็นฉากหลัง ซึ่งตรงจุดนี้จะมีน้ำทะเลสาดกระเด็นโดนเรืออย่างจังจนผู้โดยสารเปียกปอน
ผู้เข้าชมจะได้รับชมวิดีโอข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับไดโนเสาร์ เมื่อวิดีโอจบลง อินโดไมนัส เร็กซ์ ปรากฏตัวเพียงชั่วครู่ ก่อนจะค่อยๆ พรางตัวหลบซ่อนเข้าไปในแมกไม้ ก่อนจะโผล่ออกมาอีกครั้งพร้อมคำรามลั่นจนทำให้พื้นสั่นสะเทือน
เจ้าหน้าที่พิทักษ์อุทยานออกมาต้อนรับผู้เข้าชมพร้อมเล่าเกร็ดความรู้เกี่ยวกับแบรคิโอซอรัส ท่ามกลางเสียงหัวเราะที่ดังขึ้นเมื่อเจ้าแบรคิโอซอรัสตัวเล็กจามขึ้นมาอย่างไม่ทันตั้งตัว
เดินทางต่อเพื่อพบกับ แองคิโลซอรัส เจ้าหน้าที่ที่ยืนอยู่ใกล้รถเข็นที่เต็มไปด้วยผักสีเขียวยื่นอาหารจานโปรดให้กับมันอย่างแผ่วเบา เจ้ายักษ์ใหญ่ดีใจนส่ายหางไปมาอย่างกระตือรือร้น และผู้ชมสามารถร่วมดูแลลูกไดโนเสาร์สุดน่ารัก
ผู้เข้าชมจะได้พบกับเหล่าแรปเตอร์ ไดโนเสาร์นักล่าที่ถูกจับใส่ที่ครอบปาก พวกมันยังคงส่งเสียงคำราม ทั้งสะบัดและกระแทกที่ครอบปากอย่างไม่สบอารมณ์ หนึ่งในพวกมันกลับปรากฎตัวแยกออกมาอย่างโดดเด่น เจ้า “บลู” นั่นเอง
เข้าชมจะได้รับชมวิดีโอข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับไดโนเสาร์ เมื่อวิดีโอจบลง อินโดไมนัส เร็กซ์ ปรากฏตัวเพียงชั่วครู่ ก่อนจะค่อยๆ พรางตัวหลบซ่อนเข้าไปในแมกไม้ ก่อนจะโผล่ออกมาอีกครั้งพร้อมคำรามลั่นจนทำให้พื้นสั่นสะเทือน และการปรากฏตัวของเจ้า คาร์โนทอรัส
โกดังเพดานสูงขนาดใหญ่ บนจอมอนิเตอร์ฉายภาพความโกลาหลที่เกิดขึ้นโดยรอบ มีข้อความแจ้งเตือนสีแดงปรากฏทั่วบริเวณ และกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นว่า คาร์โนทอรัส หายออกไปจากกรงกักกัน
ไดโลโฟซอรัส ปรากฏตัวขึ้น มันเอียงหัวจ้องมองราวกับกำลังประเมินกลุ่มผู้ชมอยู่ จากนั้นเสียงพุ่มไม้ไหวเบาๆ ก็เบี่ยงเบนความสนใจของมัน ก่อนที่ไดโลโฟซอรัสอีกสองตัวจะโผล่ออกมาพร้อมเสียงกรีดร้องชวนขนหัวลุก และกางแผงคออันเป็นเอกลักษณ์ของพวกมัน หนึ่งในนั้นพ่นพิษไปยังต้นไม้ที่อยู่ใกล้ๆ
ผู้เข้าชมเดินเข้าสู่โดมสัตว์ปีกยุคดึกดำบรรพ์ เทอราโนดอน ตัวหนึ่งก็ร่อนลงมา กรงเล็บของมันที่จับลูกกรงแน่น จากนั้นเสียงกระพือปีกก็ดังขึ้นเหนือศีรษะ ก่อนจะมีเทอราโนดอนอีกตัวหนึ่งปรากฏตัวเกาะอยู่บนคานเหล็กสูง มันสยายปีกออกกว้าง สร้างความตื่นตะลึงให้กับผู้ชมด้วยขนาดใหญ่มหึมา จากนั้นกลุ่มผู้เข้าชมจะพบกับซากรถบรรทุกที่จอดพังอยู่บริเวณแล็ปกลางทุ่ง สไตกิโมล็อก โผล่ออกมา
ภายในห้องวิจัย ทุกคนรู้สึกขนลุกเล็กน้อยเมื่อเห็นไข่ไดโนเสาร์ที่เต้นตุบๆ และหน้าจอที่แสดงข้อมูลทางวิทยาศาสตร์และลำดับพันธุกรรม DNA
ทั้งนี้เมื่อการผจญภัยเสร็จสิ้นลง ณ ร้านค้าสไตล์บังเกอร์หลบภัยซึ่งผู้เข้าชมสามารถเลือกซื้อของที่ระลึก ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า ของเล่น หรือของสะสมสุดพิเศษจาก Jurassic World เพื่อเก็บการผจญภัยในเกาะอิสลา นูบลาร์ นี้ไว้ในความทรงจำได้อีกด้วย
ด้าน วัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวว่า Jurassic World: The Experience นี้ถือเป็นจุดหมายปลายทางระดับโลก โดยมีเป้าหมายที่จะมอบประสบการณ์ที่พิเศษและไม่เหมือนใครให้กับนักท่องเที่ยวทั่วโลก ความพิเศษของโครงการนี้คือการตั้งอยู่ริมน้ำ ซึ่งเป็นเสน่ห์เฉพาะตัวของกรุงเทพฯ โดยโครงการนี้เป็นการร่วมมือกับ Universal และยังได้ร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
และนอกจากโครงการนี้แล้ว ยังมีแผนที่จะนำประสบการณ์ที่น่าสนใจอื่นๆ มายังประเทศไทยอีกในอนาคตด้วยเช่นกัน
“สถานการณ์ทางเศรษฐกิจมหภาคในปัจจุบันและเหตุการณ์ต่างๆ ตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 ทำให้การท่องเที่ยวชะลอตัวลงเล็กน้อย แต่เชื่อว่าโมเมนตัมจะกลับมาดีขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 4 ซึ่งมีการจองล่วงหน้าเข้ามาจำนวนมาก โดยเฉพาะในส่วนของการท่องเที่ยวภายในประเทศ และโครงการใหม่ๆ เช่น Jurassic World: The Experience นี้จะช่วยกระตุ้นตลาดและดึงดูดนักท่องเที่ยวให้กลับมาอีกครั้ง”
สำหรับเวลาเปิดทำการคือ 11:00 - 22:00 น. (เข้าชมรอบสุดท้ายเวลา 21:00 น.)
ราคาบัตร (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
579 บาท สำหรับเด็ก (อายุ 3-10 ปี)
769 บาท สำหรับผู้ใหญ่ (อายุ 11 ปีขึ้นไป)
789 บาท สำหรับเด็ก (อายุ 3–10 ปี)
989 บาท สำหรับผู้ใหญ่ (อายุ 11 ปีขึ้นไป)
ติดตามข่าวสารด้านการตลาด กับ Thairath Money ได้ที่
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney