วาร์ปสู่ยุคจูราสสิค! ปักหมุดแลนด์มาร์กใหม่ ใจกลางกรุง Jurassic World: The Experience

Business & Marketing

Marketing & Trends

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

วาร์ปสู่ยุคจูราสสิค! ปักหมุดแลนด์มาร์กใหม่ ใจกลางกรุง Jurassic World: The Experience

Date Time: 8 ส.ค. 2568 20:19 น.

Video

Amazon ธุรกิจนี้เจ๋งยังไง ทำไมถึงเป็นหุ้นลูกรักของใครหลายคน ? | Digital Frontiers EP.48

Summary

เปิดแล้ว! "Jurassic World: The Experience" ที่เอเชียทีคฯ หลังจาก AWC ทุ่ม 1,400 ล้านบาท ชวนสัมผัสประสบการณ์ผจญภัยแบบอิมเมอร์ซีฟสุดยิ่งใหญ่! ราคาเริ่มต้น 579 บาท พร้อมผลักดันกรุงเทพฯ สู่การเป็นศูนย์กลางด้านความบันเทิงระดับโลก

Latest


หลังจากที่ได้ประกาศเปิดตัวไปเมื่อปลายปี 2567 ที่ผ่านมา ล่าสุด บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC ยักษ์ใหญ่ในวงการอสังหาริมทรัพย์ของไทย ภายใต้การนำทัพของ “วัลลภา ไตรโสรัส” ทายาทคนเก่งของ เจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี ในบทบาท ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ 

ก็ได้ฤกษ์เปิดตัว “Jurassic World: The Experience” ความบันเทิงแบบอิมเมอร์ซีฟที่ใหญ่สุดในโลก ณ โครงการ เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ เดสติเนชั่น เป็นที่เรียบร้อย ภายใต้งบ 1,400 ล้านบาท 

Jurassic World: The Experience คืออะไร?

โดย Jurassic World: The Experience คือ จุดหมายปลายทางท่องเที่ยวขนาด 6,000 ตารางเมตร ที่นำแฟรนไชส์ภาพยนตร์ระดับโลก มาสู่โลกแห่งความเป็นจริง ผ่านประสบการณ์เสมือนจริงแบบอิมเมอร์ซีฟไม่เหมือนใคร โดยผู้เข้าชมจะได้ร่วมผจญภัยไปบนเกาะอิสลา นูบลาร์ ท่ามกลางไดโนเสาร์แอนิเมทรอนิกส์ที่สมจริงและฉากอันเป็นเอกลักษณ์ที่ถ่ายทอดรายละเอียดได้ อย่างตื่นตาตื่นใจราวกับในภาพยนตร์ Jurassic World ผสมผสานความตื่นเต้นเร้าใจเข้ากับความมหัศจรรย์สุดล้ำเพื่อจุดประกายจินตนาการของผู้เข้าชมทุกคน

ทั้งนี้ความร่วมมือครั้งใหม่เกิดขึ้นระหว่าง แอสเสท เวิรด์ คอร์ปอเรชั่น หรือ AWC, NEON, และ Universal Live Events & Location Based Entertainment ซึ่งเป็นธุรกิจหนึ่งในเครือ Universal Destinations & Experiences โดยมีเป้าหมายในการพัมนาจุดหมายปลายทางด้านไลฟ์สไตล์รูปแบบใหม่ ที่ผสานความสนุก ความบันเทิง และความยั่งยืนไว้ในที่เดียว พร้อมสนับสนุนกรุงเทพฯ ให้เป็นศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยวและความบันเทิงระดับโลก

ผู้เข้าชมจะได้พบกับประสบการณ์อะไรภายใน Jurassic World: The Experience?

บน 10 ฐานสำคัญ ภายในพื้นที่กว่า 6,000 ตารางเมตรของ Jurassic World: The Experience ผู้เข้าชมจะได้ตื่นตาตื่นใจกับโซนต่างๆ ที่ออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน ไม่ว่าจะเป็น

1.Origins of Wonder (ต้นกำเนิดแห่งความมหัศจรรย์)

ผู้เข้าชมจะได้ทบทวนเรื่องราวการเกิดขึ้นของไดโนเสาร์ใน Jurassic World ผ่านการจัดแสดงก้อนอำพันพร้อมคำบรรยายจากตัวละครในตำนานอย่าง มิสเตอร์ ดีเอ็นเอ โดยผู้เข้าชมยังสามารถถ่ายภาพก่อนออกเดินทางก่อนเข้าสู่จุดรอขึ้นเรือเฟอร์รี่ ซึ่งสามารถเลือกซื้อเก็บไว้เป็นที่ระลึกได้ในภายหลัง หน้าต่างของเรือจะเปิดขึ้นเมื่อเรือเริ่มแล่นออกสู่ทะเล ท้องฟ้าก็เต็มไปด้วยเมฆพายุ และเกาะอิสลา นูบลาร์ ปรากฏขึ้นเป็นฉากหลัง ซึ่งตรงจุดนี้จะมีน้ำทะเลสาดกระเด็นโดนเรืออย่างจังจนผู้โดยสารเปียกปอน


2.Arrival at Isla Nublar (เดินทางสู่เกาะอิสลา นูบลาร์) 

ผู้เข้าชมจะได้รับชมวิดีโอข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับไดโนเสาร์ เมื่อวิดีโอจบลง อินโดไมนัส เร็กซ์ ปรากฏตัวเพียงชั่วครู่ ก่อนจะค่อยๆ พรางตัวหลบซ่อนเข้าไปในแมกไม้ ก่อนจะโผล่ออกมาอีกครั้งพร้อมคำรามลั่นจนทำให้พื้นสั่นสะเทือน

3.A Close Encounter with Giants (เผชิญหน้ากับยักษ์ใหญ่แห่งโลกล้านปี)

เจ้าหน้าที่พิทักษ์อุทยานออกมาต้อนรับผู้เข้าชมพร้อมเล่าเกร็ดความรู้เกี่ยวกับแบรคิโอซอรัส ท่ามกลางเสียงหัวเราะที่ดังขึ้นเมื่อเจ้าแบรคิโอซอรัสตัวเล็กจามขึ้นมาอย่างไม่ทันตั้งตัว 

4.The Petting Zoo (สัมผัสไดโนเสาร์รุ่นเยาว์)

เดินทางต่อเพื่อพบกับ แองคิโลซอรัส เจ้าหน้าที่ที่ยืนอยู่ใกล้รถเข็นที่เต็มไปด้วยผักสีเขียวยื่นอาหารจานโปรดให้กับมันอย่างแผ่วเบา เจ้ายักษ์ใหญ่ดีใจนส่ายหางไปมาอย่างกระตือรือร้น และผู้ชมสามารถร่วมดูแลลูกไดโนเสาร์สุดน่ารัก

5.The Predator Pavilion (ดินแดนนักล่าดึกดำบรรพ์) 

ผู้เข้าชมจะได้พบกับเหล่าแรปเตอร์ ไดโนเสาร์นักล่าที่ถูกจับใส่ที่ครอบปาก พวกมันยังคงส่งเสียงคำราม ทั้งสะบัดและกระแทกที่ครอบปากอย่างไม่สบอารมณ์ หนึ่งในพวกมันกลับปรากฎตัวแยกออกมาอย่างโดดเด่น เจ้า “บลู” นั่นเอง

6.The Observation Deck (หอสังเกตการณ์)

เข้าชมจะได้รับชมวิดีโอข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับไดโนเสาร์ เมื่อวิดีโอจบลง อินโดไมนัส เร็กซ์ ปรากฏตัวเพียงชั่วครู่ ก่อนจะค่อยๆ พรางตัวหลบซ่อนเข้าไปในแมกไม้ ก่อนจะโผล่ออกมาอีกครั้งพร้อมคำรามลั่นจนทำให้พื้นสั่นสะเทือน และการปรากฏตัวของเจ้า คาร์โนทอรัส 


7.A Fight for Survival (ผจญภัยเพื่อเอาชีวิตรอด)

โกดังเพดานสูงขนาดใหญ่ บนจอมอนิเตอร์ฉายภาพความโกลาหลที่เกิดขึ้นโดยรอบ มีข้อความแจ้งเตือนสีแดงปรากฏทั่วบริเวณ และกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นว่า คาร์โนทอรัส หายออกไปจากกรงกักกัน 

8.Lost in the Jungle (หลงในป่าดงดิบ)

ไดโลโฟซอรัส ปรากฏตัวขึ้น มันเอียงหัวจ้องมองราวกับกำลังประเมินกลุ่มผู้ชมอยู่ จากนั้นเสียงพุ่มไม้ไหวเบาๆ ก็เบี่ยงเบนความสนใจของมัน ก่อนที่ไดโลโฟซอรัสอีกสองตัวจะโผล่ออกมาพร้อมเสียงกรีดร้องชวนขนหัวลุก และกางแผงคออันเป็นเอกลักษณ์ของพวกมัน หนึ่งในนั้นพ่นพิษไปยังต้นไม้ที่อยู่ใกล้ๆ 

9.Caged up (กรงปริศนา)

ผู้เข้าชมเดินเข้าสู่โดมสัตว์ปีกยุคดึกดำบรรพ์ เทอราโนดอน ตัวหนึ่งก็ร่อนลงมา กรงเล็บของมันที่จับลูกกรงแน่น จากนั้นเสียงกระพือปีกก็ดังขึ้นเหนือศีรษะ ก่อนจะมีเทอราโนดอนอีกตัวหนึ่งปรากฏตัวเกาะอยู่บนคานเหล็กสูง มันสยายปีกออกกว้าง สร้างความตื่นตะลึงให้กับผู้ชมด้วยขนาดใหญ่มหึมา จากนั้นกลุ่มผู้เข้าชมจะพบกับซากรถบรรทุกที่จอดพังอยู่บริเวณแล็ปกลางทุ่ง สไตกิโมล็อก โผล่ออกมา

10.The Final Escape (การหลบหนีครั้งสุดท้าย)

ภายในห้องวิจัย ทุกคนรู้สึกขนลุกเล็กน้อยเมื่อเห็นไข่ไดโนเสาร์ที่เต้นตุบๆ และหน้าจอที่แสดงข้อมูลทางวิทยาศาสตร์และลำดับพันธุกรรม DNA 

ทั้งนี้เมื่อการผจญภัยเสร็จสิ้นลง ณ ร้านค้าสไตล์บังเกอร์หลบภัยซึ่งผู้เข้าชมสามารถเลือกซื้อของที่ระลึก ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า ของเล่น หรือของสะสมสุดพิเศษจาก Jurassic World เพื่อเก็บการผจญภัยในเกาะอิสลา นูบลาร์ นี้ไว้ในความทรงจำได้อีกด้วย 


ด้าน วัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวว่า Jurassic World: The Experience นี้ถือเป็นจุดหมายปลายทางระดับโลก โดยมีเป้าหมายที่จะมอบประสบการณ์ที่พิเศษและไม่เหมือนใครให้กับนักท่องเที่ยวทั่วโลก ความพิเศษของโครงการนี้คือการตั้งอยู่ริมน้ำ ซึ่งเป็นเสน่ห์เฉพาะตัวของกรุงเทพฯ โดยโครงการนี้เป็นการร่วมมือกับ Universal และยังได้ร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอีกด้วย 

และนอกจากโครงการนี้แล้ว ยังมีแผนที่จะนำประสบการณ์ที่น่าสนใจอื่นๆ มายังประเทศไทยอีกในอนาคตด้วยเช่นกัน

“สถานการณ์ทางเศรษฐกิจมหภาคในปัจจุบันและเหตุการณ์ต่างๆ ตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 ทำให้การท่องเที่ยวชะลอตัวลงเล็กน้อย แต่เชื่อว่าโมเมนตัมจะกลับมาดีขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 4 ซึ่งมีการจองล่วงหน้าเข้ามาจำนวนมาก โดยเฉพาะในส่วนของการท่องเที่ยวภายในประเทศ และโครงการใหม่ๆ เช่น Jurassic World: The Experience นี้จะช่วยกระตุ้นตลาดและดึงดูดนักท่องเที่ยวให้กลับมาอีกครั้ง”

เปิดวันไหนบ้าง และราคาเท่าไหร่

สำหรับเวลาเปิดทำการคือ 11:00 - 22:00 น. (เข้าชมรอบสุดท้ายเวลา 21:00 น.)

ราคาบัตร (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

  • วันธรรมดา (ก่อน 16:00 น.)

579 บาท สำหรับเด็ก (อายุ 3-10 ปี)

769 บาท สำหรับผู้ใหญ่ (อายุ 11 ปีขึ้นไป)

  • วันธรรมดาหลัง 16:00 น., วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์

789 บาท สำหรับเด็ก (อายุ 3–10 ปี)

989 บาท สำหรับผู้ใหญ่ (อายุ 11 ปีขึ้นไป)

ติดตามข่าวสารด้านการตลาด กับ Thairath Money ได้ที่

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้  https://www.facebook.com/ThairathMoney


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ