รอบรั้วการตลาด : ไครโอวิวา ร่วมกับ มข. ลุยนวัตกรรมเซลล์บำบัด สร้างมูลค่าในอนาคต

Business & Marketing

Marketing & Trends

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

รอบรั้วการตลาด : ไครโอวิวา ร่วมกับ มข. ลุยนวัตกรรมเซลล์บำบัด สร้างมูลค่าในอนาคต

Date Time: 8 ส.ค. 2568 05:00 น.

Video

Jack Ma กลับมา จะพา Alibaba สร้างอำนาจใหม่ให้วงการเทคจีนได้ยังไง ? | Digital Frontiers EP.50

Summary

ศูนย์เซลล์บำบัดรักษา มหาวิทยาลัยขอนแก่น ร่วมกับ ไครโอวิวา ลงนามทำ MOU เพื่อการพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านเซลล์ต้นกำเนิด สร้างมูลค่าในอนาคต

Latest


นางสาวจิรัญญา ประชาเสรี ประธานกรรมการบริหาร ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท ไครโอวิวา (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ศูนย์เซลล์บำบัดรักษา มหาวิทยาลัยขอนแก่น ร่วมกับ ไครโอวิวา ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ หรือ MOU เพื่อการพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านเซลล์ต้นกำเนิด โดยความร่วมมือครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายสำคัญในการส่งเสริมการถ่ายทอดองค์ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรมด้านเซลล์ต้นกำเนิด (Stem Cell) 

ทั้งนี้ เพื่อยกระดับความรู้และพัฒนาผลิตภัณฑ์เซลล์บำบัดให้สอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาเทคโนโลยีชีวภาพทางการแพทย์ของประเทศ ทั้งยังมุ่งส่งเสริมให้เกิดการวิจัย พัฒนาเทคโนโลยี และการยกระดับศักยภาพของบุคลากรผู้ผลิตและผู้ใช้ผลิตภัณฑ์เซลล์บำบัดอย่างยั่งยืน

"ไครโอวิวามีความยินดีที่ได้มีโอกาสสร้างความร่วมมือการพัฒนาผลิตภัณฑ์เซลล์บำบัดเพื่อส่งเสริมให้เกิดการวิจัย พัฒนาเทคโนโลยี และนวัตกรรม และการยกระดับองค์ความรู้ด้านเซลล์ต้นกำเนิดต่อไปในอนาคต"


ทั้งนี้ ไครโอวิวาได้รับการรับรองมาตรฐานระดับสูงด้านความชำนาญเฉพาะทางเซลล์บำบัดจากองค์กรนานาชาติ AABB เพียงบริษัทเดียวในประเทศไทย โดยครบทั้ง 3 ด้าน ได้แก่ กระบวนการจัดเก็บสเต็มเซลล์ การคัดแยกและเพาะเลี้ยงสเต็มเซลล์ และ การรับรองว่าเป็นแหล่งผลิตเซลล์ตั้งต้นที่มีคุณภาพ 

โดยบริษัทไครโอวิวาจึงมีความพร้อมในการสนับสนุนมหาวิทยาลัยขอนแก่นในด้านเทคโนโลยีการผลิต การควบคุมคุณภาพตามมาตรฐานสากล การพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อการวิจัย และการจัดกิจกรรมเผยแพร่ความรู้ ตลอดจนส่งเสริมศักยภาพของบุคลากรในระบบสุขภาพ ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการบรรลุวัตถุประสงค์ร่วมกันของทั้งสองหน่วยงาน


รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า ศูนย์เซลล์บำบัดรักษามหาวิทยาลัยขอนแก่นที่จัดตั้งขึ้นเมื่อ 2 ปีที่แล้ว แต่มีจุดเริ่มต้นความคิดมากว่า 10 ปีแล้ว ตั้งแต่ยังดำรงตำแหน่งคณบดีคณะแพทยศาสตร์ โดยได้ส่งอาจารย์ไปศึกษาเทคโนโลยีเซลล์บำบัดที่ประเทศนอร์เวย์ ศูนย์แห่งนี้ตอบสนองความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีการแพทย์และมีผลงานหลากหลาย ทั้งการรักษาแบบรีจีเนอเรทีฟและการรักษาเฉพาะจุดโดยใช้เซลล์ต้นกำเนิด รวมทั้งเป้าหมายระยะยาวในการพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูงอย่างวัคซีนมะเร็ง ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการพัฒนา

"มหาวิทยาลัยมีจุดแข็งด้านการวิจัยและพัฒนา เนื่องจากไครโอวิวาเป็นเอกชนจึงอาจไม่มีทีมวิจัยมากเท่ามหาวิทยาลัย แต่เราต้องการพัฒนาเซลล์ต้นกำเนิดซึ่งเป็นธุรกิจหลายหมื่นล้านบาททั่วโลก เมื่อร่วมมือกันจะสามารถเสริมจุดแข็งซึ่งกันและกัน เพื่อเพิ่มคุณค่าและพัฒนาหลักฐานเชิงประจักษ์ให้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีผลดีต่อสุขภาพ ก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนทั้งผู้ป่วยและผู้ที่ยังไม่ป่วย"


สำหรับบันทึกข้อตกลงความร่วมมือฉบับนี้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 30 กรกฎาคม 2570 เป็นระยะเวลา 2 ปี โดยมหาวิทยาลัยขอนแก่นจะดำเนินการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมด้านเซลล์ต้นกำเนิด พัฒนาหลักสูตรและบุคลากร และจัดกิจกรรมถ่ายทอดองค์ความรู้ 

ขณะที่บริษัท ไครโอวิวา จะสนับสนุนด้านเทคโนโลยีการผลิต การควบคุมคุณภาพตามมาตรฐานสากล และการจัดกิจกรรมเผยแพร่ความรู้ร่วมกัน เพื่อให้เกิดการพัฒนานวัตกรรมทางการแพทย์ที่สามารถตอบสนองต่อความต้องการของระบบสุขภาพและสร้างประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนอย่างยั่งยืน


พร้อมสนับสนุน : แฟลช เอ็กซ์เพรส โดย นางสาวปรินทร์ทิพย์ อิสริยเมธา ผู้ช่วยรองกรรมการผู้อำนวยการสื่อสารองค์กร และรัฐกิจสัมพันธ์ ร่วมสนับสนุนการส่งด่วน โครงการ อุตสาหกรรมรวมใจส่งด่วน ลำเลียงน้ำใจส่งถึงมือผู้ประสบภัยชาวไทย โดยกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อนำส่งสิ่งของอุปโภค-บริโภคในถุงยังชีพ จำนวน 2,000 ชุด และชุดทหารอีก 100 ชุด ซึ่งมี ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม และนายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม 

พร้อมคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กระทรวงอุตสาหกรรมเข้าร่วมโครงการ โดยสิ่งของทั้งหมดจะนำส่งถึงมือพี่น้องชาวไทยที่ประสบภัย และได้รับผลกระทบในพื้นที่ชายแดน ไทย-กัมพูชา ทั้ง 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดอุบลราชธานี จังหวัดศรีสะเกษ จังหวัดสุรินทร์ และจังหวัดบุรีรัมย์


มอบสถานีโทรมาตรอัตโนมัติ : บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) เดินหน้าสนับสนุนการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน โดยล่าสุดได้ส่งมอบสถานีโทรมาตรอัตโนมัติ 72 สถานีโดยกระจายติดตั้งในพื้นที่ป่าต้นน้ำบริเวณลุ่มน้ำปิง วัง ยม และน่านครอบคลุมพื้นที่ 11 จังหวัด เพื่อใช้ตรวจวัดข้อมูลทางภูมิอากาศ ปริมาณน้ำฝนและระดับน้ำแบบเรียลไทม์ 

โดย คุณต้องใจ ธนะชานันท์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ผู้บริหารสูงสุดกลุ่มงานความยั่งยืนและกลยุทธ์ของไทยเบฟ เป็นผู้แทนส่งมอบสถานีโทรมาตรฯ ให้แก่คุณมานพ แก้วฟู นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการ หัวหน้าสถานีวิจัยต้นน้ำดอยเชียงดาวซึ่งเป็นผู้แทนรับมอบ ณ สถานีวิจัยต้นน้ำดอยเชียงดาว หนึ่งในพื้นที่ซึ่งได้รับประโยชน์จากการติดตั้งสถานีโทรมาตรวัดปริมาณน้ำฝนร่วมด้วย ดร. รอยล จิตรดอน  คุณกรองแก้ว ศรีพระราม  คุณผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์  คุณธารทิพย์ ศิรินุพงศ์  และ ดร.นภัส พันธ์พงษ์เจริญ


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ