
นี่อาจจะกลายเป็นหนึ่งในคดีที่ติดตามสินทรัพย์ดิจิทัลได้รวดเร็วที่สุดในระดับภูมิภาค, เมื่อไม่นานมานี้หน่วยสืบสวนของ AMLBot Thailand รายงานว่าได้ทำการติดตามทรัพย์สินและกู้คืนสินทรัพย์ดิจิทัลมูลค่ากว่า 4,310,000 บาท จากคดีหลอกลวงทางคริปโต ที่เกี่ยวข้องกับบริษัทสตาร์ทอัพด้านเกมบล็อกเชนที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI)
ปฏิบัติการครั้งนี้ ซึ่งดำเนินการแล้วเสร็จภายในเวลาไม่ถึง 48 ชั่วโมง ถือเป็นก้าวแรกของระบบการสืบสวนและการกู้คืนทรัพย์สินคริปโตแบบเร่งด่วน เพื่อช่วยเหลือเหยื่อในตลาดคริปโตเคอร์เรนซีของประเทศไทย
อาชญากรรมในวงการคริปโตฯ ไม่ได้ซ่อนตัวอยู่ในเงามืดอีกต่อไป - แต่มันมีการเข้าหาที่รวดเร็วและขยายวงกว้างไปทั่วโลก” Slava Demchuk ซีอีโอของ AMLBot กล่าว “เราก่อตั้งสำนักงานในประเทศไทยขึ้นมา เพื่อให้สามารถตอบสนองได้ทันเวลาก่อนที่อาชญากรจะข้ามพรมแดนดิจิทัล”
"การประสานงานแบบเรียลไทม์ ถือเป็นสิ่งที่จำเป็นมากในปัจจุบัน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการสูญเสียทรัพย์สินหรือการฟอกเงินข้ามชาติ" Demchuk กล่าวเสริม
เงินจำนวนดังกล่าวถูกถอนออกผ่านการโจมตีที่วางแผนมาอย่างเป็นระบบ โดยใช้สัญญาอัจฉริยะ (Smart Contract) ซึ่งมีเป้าหมายคือแพลตฟอร์ม Blink Game AI ผู้ก่อเหตุได้แปลงทรัพย์สินที่ได้จากการโจรกรรมเป็นสกุลเงินดิจิทัล และพยายามฟอกเงินผ่านแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนในต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่สืบสวนของ AMLBot Thailand สามารถระบุกระเป๋าเงินที่ใช้ทำธุรกรรมบนแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนดังกล่าวได้ และได้ดำเนินการอายัดธุรกรรมฉุกเฉินทันที หลังได้รับการแจ้งเตือนเกี่ยวกับเหตุละเมิดภายใน 45 นาที
ทีมกู้คืนทรัพย์สินประจำสาขากรุงเทพฯ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญด้านบล็อกเชนระดับนานาชาติและทนายความที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพในประเทศไทย สามารถเจรจาเพื่อนำเงินส่วนแรกที่ถูกโจรกรรมกลับคืนมาได้สำเร็จภายในระยะเวลา 72 ชั่วโมง
"ด้วยความรวดเร็วในการดำเนินการของ AMLBot Thailand ในฐานะสำนักงานในประเทศ รวมถึงความโปร่งใสในการทำงาน มีส่วนช่วยให้เราสามารถติดตามกระบวนการกู้คืนได้แบบเรียลไทม์" ผู้ก่อตั้ง Blink Game AI กล่าว
ผลการสืบสวนเส้นทางการเงินของ Blink Game AI บนซอฟต์แวร์ AMLBot Pro: แหล่งที่มา AMLBot
"เราให้ความสำคัญกับทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น" Anmol Jain รองประธานฝ่ายบริหารของ AMLBot กล่าว "ตั้งแต่การแจ้งเตือนไปจนถึงการอายัดทรัพย์ ทุกขั้นตอนต้องดำเนินการอย่างรวดเร็วและถูกต้องตามกฎหมาย"
AMLBot Thailand – ผู้นำด้านการสืบสวนอาชญากรรมทางการเงินและการกู้คืนทรัพย์สินในประเทศไทย
หลังจากได้ดำเนินการในระดับโลก มาตั้งแต่ปี 2021 AMLBot บริษัทวิเคราะห์ธุรกรรมบล็อกเชนที่ได้รับความไว้วางใจ กำลังนำความเชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์บล็อกเชนเข้ามาใกล้ภูมิภาคเอเชียมากยิ่งขึ้น ด้วยการเปิดสำนักงานสาขาใหม่ในเอเชีย AMLBot Thailand ซึ่งเปิดตัวไปเมื่อต้นปีนี้ ถือเป็นสำนักงานในประเทศแห่งแรก ที่ให้บริการทางด้านการสืบสวนธุรกรรมคริปโตและการกู้คืนทรัพย์สินโดยเฉพาะ โดยมีทีมงานให้บริการที่สำนักงาน ซึ่งประกอบไปด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ อาทิ เจ้าหน้าที่สืบสวนอาชญากรรมทางการเงิน ทนายความที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ และผู้เชี่ยวชาญด้านบล็อกเชนที่ผ่านการฝึกอบรมทางด้านการติดตามทรัพย์สินข้ามเขตอำนาจศาล เป็นต้น
"การนำความรู้และความเชี่ยวชาญระดับสากลมาให้บริการในพื้นที่ เป็นสิ่งจำเป็นอย่างมากสำหรับประเทศไทย" ผู้ก่อตั้ง Blink Game AI กล่าว "เราไม่ต้องเสียเวลาเป็นสัปดาห์ไปกับขั้นตอนทางราชการ เราเพียงร่วมมือกับ AMLBot ก็สามารถกู้คืนทรัพย์สินของเราได้สำเร็จ"
ปฏิบัติการกู้คืนทรัพย์สินในครั้งนี้เป็นไปในทิศทางเดียวกับพันธกิจระดับภูมิภาคในเอเชีย ที่มุ่งเน้นการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัล รวมไปถึงส่งเสริมและสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจสตาร์ทอัพในระดับท้องถิ่น.
"สารที่ต้องการจะสื่อถึงเหยื่อที่อยู่ในประเทศไทยอย่างตรงไปตรงมาคือ" Jain กล่าวเสริม “คุณไม่ได้เผชิญกับเหตุการณ์นี้เพียงลำพัง และเป็นไปได้ที่สามารถกู้ทรัพย์สินคืนได้”
การประสานงานข้ามพรมแดนที่เกิดขึ้นจริง
เมื่อโครงสร้างเครือข่ายของผู้ก่อเหตุได้แผ่ขยายไปในหลายภูมิภาค เป็นสาเหตุให้เครือข่ายพันธมิตรระหว่างประเทศของ AMLBot Thailand ได้มีบทบาทในการสนับสนุนด้านการติดตามทรัพย์สินข้ามเขตอำนาจศาล รวมไปถึงการดำเนินการคำร้องขอความร่วมมือทางกฎหมายระหว่างประเทศด้วย
"อาชญากรรมทางการเงินและคริปโตเป็นภัยคุกคามที่ไร้พรมแดน" Slava Demchuk ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนแห่งสำนักงาน AMLBot Global กล่าว "ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เรานำหน้าผู้กระทำความผิดได้ คือเครือข่ายพันธมิตรนานาชาติของเรา "
การประสานงานข้ามพรมแดนในทางปฏิบัติ
เนื่องจากโครงสร้างพื้นฐานของผู้โจมตีขยายตัวครอบคลุมหลายภูมิภาค เครือข่ายพันธมิตรระหว่างประเทศของ AMLBot Thailand จึงช่วยอำนวยความสะดวกในการติดตามทรัพย์สินข้ามพรมแดนและการร้องขอความช่วยเหลือทางกฎหมายร่วมกัน
“อาชญากรรมคริปโตและการเงินไร้พรมแดน” Slava Demchuk ซีอีโอฝ่ายสืบสวนของสำนักงาน AMLBot ระดับโลก กล่าว “เครือข่ายพันธมิตรระหว่างประเทศของเราเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้เราได้เปรียบและนำหน้าผู้กระทำผิด”
อาชญากรรมคริปโตเริ่มคุกคามใกล้ตัว
เหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางการระบาดของอาชญากรรมไซเบอร์ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งมีมูลค่าความเสียหายรวมกันมากกว่าพันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี กลโกงรูปแบบ "Pig Butchering" หรือหลอกลวงทางออนไลน์ที่มุ่งเน้นการสร้างความสัมพันธ์เพื่อชักชวนลงทุน มีอัตราการเพิ่มขึ้นเกือบ 40% ภายในระยะเวลาเพียงปีเดียว
ที่น่าเป็นห่วงคือ ผู้เสียหายจำนวนมากยังไม่ตระหนักว่าเงินบาทที่สูญเสียไป ซึ่งมักจะโอนผ่านบัญชีธนาคารนั้น ได้ถูกแปลงเป็นคริปโตเคอร์เรนซีอย่างรวดเร็ว และเข้าสู่กระบวนการธุรกรรมแบบซับซ้อนหลายชั้น เพื่อปกปิดเส้นทางการเงินและหลีกเลี่ยงการติดตามทางกฎหมาย
“นี่ไม่ใช่แค่การสูญเสียจากคริปโตเท่านั้น” Jain กล่าว “ผู้เสียหายจำนวนมากไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเงินสดของพวกเขาถูกแปลงเป็นสกุลเงินดิจิทัล แล้วถูกนำไปฟอกเงินผ่านธุรกรรมต่าง ๆ และหน้าที่ของเราคือการติดตามเส้นทางเหล่านั้นย้อนกลับไปให้ถึงต้นตอ”
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ของประเทศไทยได้ให้ความสนใจต่อประเด็นดังกล่าว โดยคณะกรรมการได้มีมติเห็นชอบร่างกรอบแนวทางสำหรับความโปร่งใสบนบล็อกเชน (On-chain Transparency) ซึ่งมีกำหนดจะประกาศใช้เป็นทางการภายในเดือนกันยายน พ.ศ. 2568
ประเด็นนี้สะท้อนอะไรต่อทิศทางของตลาด
- ความเชื่อมั่นของนักลงทุน : การกู้คืนทรัพย์สินได้อย่างรวดเร็วในครั้งนี้ส่งสารสำคัญถึงนักลงทุนทั้งชาวไทยและต่างชาติในตลาดคริปโตว่า ประเทศไทยให้ความสำคัญอย่างจริงจังต่อการปกป้องทรัพย์สินของผู้ลงทุน
- ความพร้อมเชิงนโยบาย : ท่ามกลางการผลักดันร่างแนวนโยบายด้านความโปร่งใสของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ที่อยู่ระหว่างการพิจารณา คดีเช่นนี้จะยิ่งเร่งให้เกิดพัฒนาการด้านกฎระเบียบที่ทันสมัยและสอดคล้องกับภัยคุกคามในโลกสินทรัพย์ดิจิทัล
- การเสริมศักยภาพภาคธุรกิจ : ในปัจจุบัน ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) รวมถึงแพลตฟอร์มการเงินแบบกระจายศูนย์ (DeFi) มีพันธมิตรที่สามารถพึ่งพาได้ในยามเกิดวิกฤต โดยไม่ต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่าย ค่าธรรมเนียมทางกฎหมายล่วงหน้า
การปฏิบัติการเปิดตัวของ AMLBot Thailand ไม่ได้เป็นเพียงการกู้คืนทรัพย์สินเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญญาณเตือน ท่ามกลางแนวโน้มที่การฉ้อโกงบนบล็อกเชนมีความซับซ้อนและแยบยลมากยิ่งขึ้น แนวทางรับมือก็จำเป็นต้องพัฒนาให้ทันเช่นกัน และด้วยการที่กรุงเทพฯ กลายเป็นศูนย์กลางของหนึ่งในทีมสืบสวนคริปโตฯ ที่คล่องตัวที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้สถานการณ์เริ่มเปลี่ยนไปในทิศทางที่เป็นประโยชน์ต่อผู้เสียหาย