
เพราะอยากมีสินค้าแบรนด์ไทยที่เป็นตัวแทนของความเป็นไทย เป็นที่รู้จักและได้การยอมรับจากทั่วโลก ไปอวดและไปฝากเพื่อนจากนานาชาติที่เรียนด้วยกันที่นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา จึงเป็นที่มาของแบรนด์น้ำหอมและบอดี้ ออยล์ JOURNAL ที่ตั้งเป้าหมายจะพาสินค้าแบรนด์ไทยไปโกอินเตอร์ ให้เป็นที่รู้จักและยอมรับในระดับโลกให้ได้!!
คุณฟ้า–ธนัญญา สุธีรชัย และคุณปอร์ช—จักรชลัช เกษจำรัส ผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์ JOURNAL เล่าว่า ตอนไปเรียนที่สหรัฐฯมีเพื่อนจากหลากหลายชาติ ที่เวลารวมตัวกัน มักจะคุยหรือโชว์ผลิตภัณฑ์ที่เป็นสัญลักษณ์หรือแบรนด์ของประเทศตัวเองที่ได้รับความนิยม และเป็นที่รู้จักในระดับโลกหรือนานาชาติ ขณะที่เธอในตอนนั้น นอกจากอาหารไทยแล้ว กลับนึกชื่อสินค้าแบรนด์ไทยที่เป็นที่รู้จักทั่วโลกไม่ออก…!!
เมื่อเรียนจบกลับมาเมืองไทย จึงคิดกันว่าเราน่าจะทำสินค้าแบรนด์ไทยที่คุณภาพดี สามารถไปวางขายในนิวยอร์กหรือทั่วโลก ที่คนเห็นก็รู้ทันทีว่าเป็นสินค้าไทย หรือนักท่องเที่ยวต่างชาติสามารถซื้อกลับไปเป็นของฝากที่มีคุณค่าและมีเรื่องเล่าความเป็นไทยได้
จนเมื่อได้มารู้จักกับ “นักปรุงน้ำหอม” ทั้งคู่จึงตัดสินใจทำน้ำหอมแบรนด์ไทย โดยพุ่งเป้าขายให้ต่างชาติเป็นหลัก จึงเน้นน้ำหอมคุณภาพสูงเทียบเท่าหรือสูงกว่าเคาน์เตอร์แบรนด์ ที่มีความหอมติดทนนาน โดยเน้นปรุงน้ำหอมกลิ่นที่มีเสน่ห์และเอกลักษณ์แบบไทย ขณะที่ชื่อน้ำหอมแต่ละกลิ่นจะมี story เรื่องราวที่ยึดโยงกับความเป็นไทย โดยใช้ชื่อแบรนด์ JOURNAL ถือเป็นสมุดที่บันทึกการเดินทางของน้ำหอมแต่ละกลิ่น
“คุณฟ้า” อธิบายให้เห็นภาพชัดว่า เช่น กลิ่น “นางรำ” เรามองว่านางรำในยุคก่อนมีความสวยเซ็กซี่ มั่นใจ จึงปรุงน้ำหอมให้ Top Note นำด้วยกลิ่นหอมของเชอร์รี ตัวแทนความมีชีวิตชีวามีเสน่ห์น่าดึงดูด ตามมาด้วยกลิ่นกุหลาบตัวแทนความงาม ปิดท้ายด้วยกลิ่นไม้กฤษณา เป็นตัวแทนของเรือนไทย หรือ “แม่นาค” เพราะอยากสื่อถึงรักแท้ของแม่นาค จึงให้สัมผัสแรกเป็นกลิ่นกุหลาบ ตามด้วยกลิ่นมะนาว ซึ่งมาจากฉากสำคัญของเรื่องที่ “แม่นาคเอื้อมมือไปหยิบมะนาว” และสุดท้ายเป็นไม้กฤษณา ซึ่งเป็นส่วนผสมในน้ำหอมทุกตัวของเรา
อย่างกลิ่น “สงกรานต์” สัมผัสแรกเป็นกลิ่นหอมสดชื่นจากมะลิและดอกพุด ที่สะท้อนถึงบรรยากาศวันสงกรานต์ที่เต็มไปด้วยความสดใสชุ่มฉ่ำ และมีกลิ่นมิ้นต์ โป๊ยกั๊กและกระวานเข้ามาสร้างความสดชื่น เสมือนน้ำที่สาดใส่กันสนุกสนาน ตามด้วยกลิ่นหอมจากไม้จันทน์และกำยาน สร้างความสงบอบอุ่น เหมือนความสุขที่คงอยู่หลังการเฉลิมฉลอง เป็นต้น
โดยเธอตัดสินใจเปิดช็อปที่ ONE NIMMARN และศูนย์การค้าเมญ่า ศูนย์รวมที่นักท่องเที่ยวทุกคนต้องไปเยือนเมื่อมาถึงเชียงใหม่ เธอทุ่มเทตกแต่งร้านที่สวยทันสมัย สะดุดตา ใครเห็นต้องอยากเดินเข้า และเทรนพนักงานขายให้ยิ้มแย้มต้อนรับลูกค้าอย่างดีที่สุด เชิญชวนให้ทดลองสินค้าและเล่าเรื่องที่มาของน้ำหอมแต่ละกลิ่น เพื่อทำให้ลูกค้าประทับใจ แม้ไม่ตั้งใจซื้อ แต่เมื่อได้ทดลองใช้ JOURNAL แล้ว แทบทุกรายต้องกลับมาซื้อ โดยเธอตั้งราคาขายขวดละหลักพันกว่าบาทขึ้นไป เพราะมั่นใจในคุณภาพน้ำหอมชั้นสูง
ทำให้ JOURNAL ได้การตอบรับอย่างดี โดยเฉพาะจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะจีน ที่กลับไปรีวิวความหอมประทับใจจนเป็นไวรัลในโลกโซเชียล ทำให้มีลูกค้ามาซื้อต่อเนื่อง โดยไม่ได้เสียเงินทำการตลาด ทำให้ปีแรกปี 61 ทำยอดขายได้ถึง 50 กว่าล้านบาท และปีต่อมา 113 ล้านบาท โดยเป็นยอดขายจากต่างชาติถึง 90% แต่หลังจากนั้น ปี 63 เมื่อเกิดวิกฤติโควิด ทำให้ร้านต้องปิดๆเปิดๆ
ระหว่างนั้นจึงพยายามเบนเข็มมาขายออนไลน์ เน้นลูกค้าคนไทยและได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่คือ Body oil ที่น่าจะขายให้คนไทยได้ง่ายกว่าน้ำหอม เน้นออยล์ที่เนื้อบางเบาซึมซาบเร็วแต่สร้างความชุ่มชื้นละมุนผิวพร้อมกลิ่นหอมอ่อนๆ ทำการตลาดผ่านอินฟลูเอนเซอร์ และ TIKTOK ทำให้ยอดขายฟื้นกลับมา โดยปี 63-64 ขายได้ปีละ 20 ล้านบาท พอปี 65 ขึ้นมา 50-60 ล้านบาท ก่อนกระโดดมา 189 ล้านบาทในปี 66 และปิดปี 67 ได้ถึง 324 ล้านบาท!!
เมื่อเห็นการเติบโตของ Body oil ในปี 68 นี้ เธอจึงตัดสินใจครั้งใหญ่จ้างศิลปินนักแสดงรุ่นใหม่ “พีพี กฤษฏ์” ซึ่งโด่งดังเป็นที่รู้จักจากแฟนๆทั้งในไทยและเอเชีย เป็นพรีเซนเตอร์ Body oil ส่งต่อความหอมเป็นพลังดึงดูดลูกค้า โดยตั้งเป้ายอดขายปีนี้แตะ 500 ล้านบาท และภายใน 3 ปีนี้ มีแผนนำบริษัทระดมทุนเข้าตลาดหุ้น นำเงินมาขยายช่องทางการขายทั้งในและต่างประเทศ ส่งแบรนด์ไทยโกอินเตอร์เต็มรูปแบบ!!
ถามว่าอะไรคือกุญแจความสำเร็จ “คุณฟ้า” บอกว่า ช่วงแรกคือหลัก 3P คุณภาพ Product ที่มั่นใจว่าไม่แพ้แบรนด์ไฮเอนด์ ต่อมาคือ สถานที่ PLACE ช็อปที่ ONE NIMMARN และเมญ่าถือเป็นหัวใจของนักท่องเที่ยวในเชียงใหม่ และ PRICE ราคาหลักพันกว่าบาท ถือว่าคุ้มค่าถูกกว่าเคาน์เตอร์แบรนด์เมื่อเทียบปริมาณและคุณภาพ อีกปัจจัยคือ TIMING ปีที่เราเปิดช็อป เป็นปีที่นักท่องเที่ยวบูมสุดๆ ก่อนโดนโควิดเล่นงาน
นอกจากนี้ ยังเป็นความมุ่งมั่นของเธอและสามี ที่แม้จะเผชิญปัญหาช่วงโควิด แต่ไม่ยอมแพ้ ยังเดินหน้าลุยทำสินค้าตัวใหม่ Body oil ที่ตอบโจทย์ความต้องการของคนไทยและเอเชีย ที่สำคัญคือการมี PASSION และมีเป้าหมายที่ชัดเจน ที่อยากสร้างแบรนด์ไทยไปตลาดโลก แผนต่อไปคือการนำบริษัทเข้าตลาดหุ้น เมื่อมีเงินทุนที่แข็งแกร่ง เราจะไปเปิดช็อปในต่างประเทศ ออกไปเป็นตัวแทนเล่าเรื่องความเป็นไทยผ่านกลิ่นและความหอมภายใต้ชื่อ JOURNAL!!
เลดี้แจน
คลิกอ่านคอลัมน์ “Business on my way” เพิ่มเติม