“ลาบูบู้” ขุมทรัพย์พันล้าน ดัน Pop Mart ขึ้นแท่นธุรกิจของเล่นระดับโลก รายได้พุ่งสวนทางสงครามการค้า

Business & Marketing

Marketing & Trends

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

“ลาบูบู้” ขุมทรัพย์พันล้าน ดัน Pop Mart ขึ้นแท่นธุรกิจของเล่นระดับโลก รายได้พุ่งสวนทางสงครามการค้า

Date Time: 26 มิ.ย. 2568 17:23 น.

Video

จาก "รวยเงิน จนเวลา" สู่เกษียณ 35! ของพอล ภัทรพล? l Money Secret EP.13

Summary

"ลาบูบู้" (Labubu) ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ที่ห้อยอยู่บนกระเป๋า หรือเข็มขัดของวัยรุ่นทั่วโลก จนเรียกได้ว่าไม่ได้เป็นแค่ตุ๊กตาอีกต่อไป แต่กำลังกลายเป็นปรากฏการณ์ทั้งในเชิงวัฒนธรรมและการค้า ที่สร้างรายได้ระดับแสนล้านบาทให้กับบริษัท Pop Mart โดยบริษัทรายงานรายได้รวมกว่า 1,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือโตขึ้นมาแล้วกว่า 7 เท่าจากปี 2019 นอกจากนี้ ยอดขายลาบูบู้ในตลาดมือสองก็โตแรงตามมาเช่นกัน จากความต้องการที่เพิ่มขึ้นจนผู้คนต่างแย่งกันจับจองจนหมดสต็อก

Latest


“ลาบูบู้” (Labubu) ตุ๊กตาขนฟูที่มีรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ โชว์ฟันแหลมเล็ก ๆ ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ที่ห้อยอยู่บนกระเป๋า หรือเข็มขัดของวัยรุ่นในหัวเมืองต่าง ๆ ทั่วโลก จนเรียกได้ว่าทุกวันนี้ “ลาบูบู้” ไม่ใช่แค่ตุ๊กตาอีกต่อไป แต่กำลังกลายเป็นปรากฏการณ์ทั้งในเชิงวัฒนธรรมและการค้า ที่สร้างรายได้ระดับแสนล้านบาทให้กับบริษัท Pop Mart จากประเทศจีน

ลาบูบู้ คือหนึ่งในตัวละครจากซีรีส์ The Monsters ซึ่ง Pop Mart ได้นำเสนอออกมาในรูปแบบ “กล่องสุ่ม” หรือ “Blind Box” โดยที่ผู้ซื้อไม่สามารถรู้ล่วงหน้าได้เลยว่าเปิดกล่องมาแล้วจะเจอตัวได้แบบไหน สิ่งนี้เองที่ทำให้เกิดความตื่นเต้น และเพิ่มความอยากได้แบบสุดขีดในหมู่นักสะสม จนทำให้เกิดปรากฏการณ์ “จุ่ม” ทั่วโลก และก็ทำให้รายได้ของ Pop Mart เติบโตอย่างก้าวกระโดดเช่นกัน

รายได้ Pop Mart ทะลุ 1,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ปี 2024 ที่ผ่านมา นับว่าเป็นปีทองของ Pop Mart อย่างแท้จริง โดยบริษัทรายงานรายได้รวมกว่า 1,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 58,200 ล้านบาท จากยอดขายทั่วโลก โดยพบว่ารายได้กว่า 420 ล้านดอลลาร์สหรัฐนั้นมาจากนอกประเทศจีน

โดยตัวเลขรายได้ของ Pop Mart เติบโตขึ้นต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 2017 และก้าวกระโดดอย่างเห็นได้ชัดตั้งแต่ช่วง 2019 เป็นต้นมา โดยพบว่าโตขึ้นมาแล้วกว่า 7 เท่า และในปี 2024 ที่ผ่านมา รายได้ก็ขยับขึ้นมาจากปีก่อนหน้ากว่า 2 เท่า

ซึ่งลาบูบู้ถือเป็นหนึ่งในตัวขับเคลื่อนสำคัญของยอดขายที่พุ่งกระฉูดนี้ เพราะความน่ารักปนแปลก และรูปแบบของสะสมจากกล่องสุ่มที่ทำให้อาร์ตทอยไม่ได้เป็นแค่ของเล่น แต่กลายเป็นสิ่งมีมูลค่าทางจิตใจที่ผู้คนพร้อมจ่ายเพื่อให้ได้มาครอบครอง

เมื่อกระแสความนิยมของลาบูบู้พุ่งแรงแบบไม่มีทีท่าว่าจะตก จำนวนสินค้าภายใต้ซีรีส์ “The Monsters” ซึ่งรวมถึงลาบูบู้เองก็เติบโตตามไปด้วย โดยในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา จำนวนสินค้าที่วางขายในซีรีส์นี้เพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่า สะท้อนการขยายตัวของฐานแฟนคลับทั่วโลก และความสามารถของ Pop Mart ในการต่อยอดแบรนด์ให้กลายเป็นจักรวาลของสะสมที่ไม่มีที่สิ้นสุด

เกมการตลาด ที่ขายมากกว่าความน่ารัก

Pop Mart ไม่ได้ขายแค่ตุ๊กตา แต่กำลังขาย “ประสบการณ์” โดยการใช้กลยุทธ์ Blind Box ทำให้การซื้อแต่ละครั้งมีความลุ้นเหมือนเล่นเกม ซึ่งเป็นจิตวิทยาสำคัญในพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ ตัวอย่างเช่น กล่องสุ่มลาบูบู้ส่วนใหญ่จะมี 6 แบบหลัก และจะมี “ตัวซีเครต” (Secret Variant) ซ่อนอยู่ 1 ตัว ที่บริษัทโฆษณาว่ามีโอกาสเจอเพียง 1 ใน 72 กล่อง

นั่นหมายความว่า โอกาสที่ผู้ซื้อจะได้ตัวซีเครตนั้นไม่ง่ายเลย และความตื่นเต้นนี้ทำให้หลายคนซื้อวนซ้ำไปซ้ำมาโดยไม่รู้ตัว

จากรายงานของ CNN ที่ได้ทำการทดสอบจำลองพฤติกรรมของผู้ซื้อ 10,000 ราย โดยให้แต่ละคนซื้อกล่องสุ่มในราคา 27.99 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 900 บาท) ไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะได้ตัวซีเครต โดยผลลัพธ์พบว่า บางคนโชคดี ได้ตัวลับตั้งแต่กล่องแรก ๆ แต่หลายคนต้องซื้อหลายสิบหรือหลายร้อยกล่อง โดยค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนอยู่ที่ราว 2,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 64,000 บาท

นอกจากนี้ ในช่วงที่ผ่านมาในประเทศจีนได้มีการเปิดตัวฟิกเกอร์ลาบูบู้รุ่นแรกขนาดใหญ่ ขนาด 131 เซนติเมตร สีเขียวมิ้นต์ และเกิดกระแสให้ผู้คนได้ติดตาม เมื่อลาบูบู้ตัวดังกล่าวถูกประมูลไปด้วยราคาสูงถึง 1.08 ล้านหยวน หรือราว 150,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 4.8 ล้านบาท) ที่กรุงปักกิ่ง

ในการประมูลพิเศษครั้งนี้ มีลาบูบู้รุ่นสะสมถูกนำมาประมูลทั้งหมด 48 ตัว โดยถูกจัดเป็นงานระดับโลกครั้งแรกสำหรับของเล่นรุ่น First Gen นี้โดยเฉพาะ และฟิกเกอร์ที่ทำราคาสูงสุดอันดับสอง คือ ลาบูบู้สีน้ำตาล ขนาด 160 เซนติเมตร ซึ่งปิดประมูลไปที่ราคา 114,086 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.7 ล้านบาท) โดย Pop Mart ระบุว่าทั่วโลกมีเพียง 15 ตัวเท่านั้น

ลาบูบู้ในตลาดมือสองราคาก็พุ่ง

แม้ว่าแฟนคลับทั่วโลกจะมีความต้องการเพิ่มสูงขึ้น และ Pop Mart เองก็เพิ่มคอลเลกชันออกมาต่อเนื่อง แต่กลับมีสินค้าในสต็อกไม่เพียงพอ โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา ซึ่งบริษัทมีสินค้าในซีรีส์ The Monsters เกือบ 100 แบบ แต่ในช่วงเวลาที่ CNN ตรวจสอบ มีเพียงไม่กี่รายการเท่านั้นที่ยังมีของอยู่

และหากมีการจัด Flash Sale สำหรับลาบูบู้รุ่นยอดนิยม 2 แบบ ของก็จะขายหมดภายในไม่กี่นาทีเท่านั้น เป็นอีกหนึ่งสัญญาณว่าตลาดนี้ยังเติบโตได้อีกมาก

เมื่อของเริ่มหายากในเว็บหลัก ตลาดมือสองจึงกลายเป็นพื้นที่สำคัญ โดยบน eBay เพียงแห่งเดียว มีลาบูบู้วางขายมากกว่า 19,000 รายการ ซึ่งหลายชิ้นมีราคาสูงกว่าราคาหน้ากล่องหลายเท่า ในจีนเองความต้องการที่ถาโถมทำให้ราคาตลาดรีเซลของลาบูบู้ก็สูงขึ้นอย่างมาก ยกตัวอย่างเช่น กล่องสุ่มลาบูบู้ 3.0 ซึ่งวางขายในราคาประมาณ 81 ดอลลาร์สหรัฐ (หรือราว 2,600 บาท) แต่ในตลาดมือสองกลับมีการขายกันสูงถึง 278 ดอลลาร์ หรือทะลุหลักหมื่นต่อกล่องเลยทีเดียว

ยิ่งไปกว่านั้น Google Trends ยังพบว่าความสนใจต่อคำว่า “Labubu” เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในรัฐแคลิฟอร์เนีย, เนวาดา, เท็กซัส และฮาวาย

ที่มา: CNN [1][2], BBC

ติดตามเพจ Facebook: Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ