บรรทัดทอง ถนนการค้า ปมค่าเช่า ทำผู้ค้าปรับแผนธุรกิจ ใครรอด ใครร่วง เพราะอะไร?

ในช่วงไตรมาส 1/2568 ที่ผ่านมา เกิดกระแสในโซเชียลมีเดีย เรื่อง “ค่าเช่าร้านสตรีทฟู้ด” ย่านถนนบรรทัดทอง และมีข่าวคราวเรื่องผู้ค้าบางรายสู้ราคาค่าเช่าที่ไม่ไหว และต้องถอดใจโยกย้ายหรือปิดให้บริการ

สำหรับผู้ที่เคยผ่านไปผ่านมา หรือไปเดินเล่นบนถนนเส้นนี้ ต่างเกิดคำถามว่า ถนนที่เคยรถติดมากแห่งหนึ่งในช่วงยามค่ำโดยเฉพาะสุดสัปดาห์ เหตุใดจึงมีเรื่องนี้เกิดขึ้นในโลกโซเชียล

“บรรทัดทอง” สตรีทฟู้ด ในร่มเงา PMCU

สำหรับย่านบรรทัดทอง ที่กล่าวถึงนี้ คือโซนพื้นที่ให้เช่า “สวนหลวง - บรรทัดทอง” ตามที่สำนักงานจัดการทรัพย์สิน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หรือ PMCU จัดพื้นที่ทรัพย์สินเชิงพาณิชย์ เป็นย่านที่ตั้งบนถนนบรรทัดทองที่มีความยาว 1.5 กิโลเมตร จากแยกพระราม 4 - แยกเจริญผล

ตามข้อมูลจาก PMCU ระบุว่า นโยบายการกำหนดค่าเช่าพื้นที่ในย่านบรรทัดทอง กำหนดราคาตามความต้องการของตลาด ซึ่งปัจจุบัน พื้นที่ดังกล่าวมีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง ทำให้มีดีมานด์ของผู้เช่าใหม่ๆ เข้ามาเปิดร้าน

อย่างไรก็ตาม พื้นที่ในปัจจุบันมีผู้เช่าเต็ม ทำให้เกิดปัญหาตามมา เหมือนที่หลายๆ พื้นที่พบ คือการเช่าช่วงต่อและการเซ้งร้านในราคาที่สูงเกินจริง โดยไม่แจ้งให้ทาง PMCU รับรู้ ทำให้เกิดปัญหาค่าเช่าที่สูงมาก โดยปัญหานี้ทาง PMCU ไม่ได้นิ่งนอนใจ และกำลังวางมาตรการควบคุม เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของผู้เช่าปัจจุบันและในอนาคต

PMCU แจงดราม่า ค่าเช่าแพง ทำผู้ประกอบการแบกต้นทุนไม่ไหว

จากกรณีกระแสข่าวบนโลกออนไลน์เรื่อง “การขึ้นค่าเช่าที่มากเกินเหตุ” ในช่วงกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ทาง PMCU ชี้แจงว่า กระแสข่าวจากที่มีร้านค้าบางแห่งถูกขึ้นค่าเช่าจาก 24,000 บาท เป็น 110,000 บาท นั้น ร้านค้าดังกล่าวให้ข้อมูลที่ยังไม่ครบถ้วนกับสาธารณะ โดยแบ่งเป็น 2 ประเด็น คือ

หนึ่ง ค่าเช่าแรกที่ทางร้านจ่ายให้ทาง PMCU คือ 24,000 บาท จริง แต่เป็นค่าเช่าของระยะเวลาครึ่งเดือนแรกเท่านั้น โดยในเดือนต่อไปทางร้านชำระด้วยอัตราเต็มเดือน ซึ่งไม่ใช่ยอด 24,000 บาท

สอง ค่าเช่าในปัจจุบัน ตามที่ทางร้านแจ้งเป็นค่าเช่าสำหรับสองห้อง ซึ่งทางร้านได้ขอขยายพื้นที่ในช่วงที่ขายดีมาก

อย่างไรก็ตาม PMCU ชี้แจงว่า เนื่องจากพื้นที่บรรทัดทอง เป็นพื้นที่ที่มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด ทำให้มีผู้เช่ารายใหม่เข้ามาเปิดกิจการในพื้นที่เป็นจำนวนมาก ซึ่งทาง PMCU เล็งเห็นว่าจากการแข่งขันที่สูงขึ้นมากของพื้นที่ ทำให้ผู้ประกอบการบางรายอาจประสบปัญหาในการแข่งขันที่สูง ซึ่งมีบางรายปรับตัวต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปไม่ทัน ทำให้ประสบปัญหาด้านผลประกอบการ

ทาง PMCU ไม่นิ่งนอนใจเรื่องนี้ จึงได้เริ่มมีการจัดทำแผนช่วยเหลือผู้ประกอบการในหลายๆ ด้าน อาทิ

• จัดกิจกรรมอีเวนต์ และงานแฟร์ในพื้นที่ และดึงผู้ประกอบการเข้ามาร่วมด้วย เพื่อเป็นการสร้างการรับรู้ และเพิ่มการเข้าถึงร้านค้าที่อยู่ในโซนด้านในมากขึ้น เช่นงานตรุษจีน
• ผสานความร่วมมือหน่วยงานเอกชน และแพลตฟอร์มต่างๆ เข้ามาร่วมทำแคมเปญการตลาดของย่านบรรทัดทอง เพื่อสนับสนุนร้านค้าผู้เช่า
• นำองค์ความรู้จากจุฬาฯ โดยเฉพาะในด้านธุรกิจเข้ามาช่วยเหลือทางร้าน ทั้งในเรื่องของการให้ความรู้ และเข้าไปช่วยปรับ Business Model ให้กับร้านผู้เช่าที่เริ่มมีปัญหา และเข้ามาขอคำปรึกษา เช่นร้าน ยักกะโจน
• ขยายความเจริญ และคึกคักจากเส้นหลักเข้าสู่เส้นด้านใน โดยเริ่มทำโมเดล Walking Street และปิดถนนให้ผู้เช่าด้านในสามารถลงมาวางขายของบนทางเท้าได้ โดยจะมีการร่วมกับผู้เช่าในการตกแต่งถนนให้มีเอกลักษณ์ และดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยว และคนที่มาย่านบรรทัดทอง ให้เดินเข้ามาด้านในมากขึ้น

นอกจากนี้ PMCU ย้ำว่า จะมุ่งเน้นการดูแลผู้เช่ามากขึ้น และมีแผนที่จะพัฒนาย่านบรรทัดทอง-สวนหลวง ให้เป็นย่านที่มีความน่าอยู่น่าเดินมากขึ้น โดยได้ริเริ่มปรับทางเท้าโดยร่วมกับ กทม. เพิ่มไฟในซอยที่เคยมืดให้สว่างขึ้น เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับลูกค้าที่มาเดินและเอาสายเคเบิลที่รกลงใต้ดิน พร้อมเดินหน้าพัฒนาคลองด้านหลังให้สะอาด ไปพร้อมๆ กับการจัดการการทิ้งขยะในพื้นที่ให้ดียิ่งขึ้น

เอ๋ ซีฟู้ด-ถ้วยถัง เปิดใจสู้ แม้ยอดขายลดลงตามภาวะเศรษฐกิจ

ด้านผู้ประกอบการในย่านบรรทัดทอง “สุพจน์ สิริปฐมวงศ์” เจ้าของร้าน “เอ๋ ซีฟู้ด” เปิดเผยกับ Thairath Money ว่า เขาเปิดร้านขายอาหารซีฟู้ดบนถนนบรรทัดทองมากว่า 20 ปี ประสบหลายวิกฤติที่เกิดขึ้นตั้งแต่ชุมนุมทางการเมือง, น้ำท่วม, โควิด บางช่วงยอดขายรายได้ดี บางช่วงรายได้ซบ แต่ช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ยอมรับว่า ยอดขายลดลงมากจริงประมาณ 30-50% และประเมินว่าน่าจะมาจากภาวะเศรษฐกิจและจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาประเทศไทยที่ลดลง

“ตอนโควิด เรารู้ว่า วันหนึ่งสถานการณ์นี้มันต้องจบ แต่ตอนนี้คือ ตั้งแต่ต้นปียอดขายเราก็ลดลง และยังไม่รู้ว่ามันจะไปสิ้นสุดตรงไหน การค้าขายตอนนี้มันก็เลยซึมๆ”

สำหรับร้านเอ๋ซีฟู้ด เช่าห้องแถวทำกิจการจากสำนักงานจัดการทรัพย์สิน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย บนถนนบรรทัดทอง จำนวน 2 คูหา อยู่มาตั้งแต่ค่าเช่าที่ราคาคูหาละ 20,000 บาทต่อเดือน จนปัจจุบันราคาค่าเช่าอยู่ที่ 50,000 บาทต่อเดือน ทำให้ต้นทุนเรื่องค่าเช่าที่ประกอบกิจการของร้านอยู่ที่เดือนละ 100,000 บาท

“เราอยู่ตรงนี้มา 20 ปี มีสาขาเดียว เราก็รู้ว่า ค่าเช่ามันขึ้นตามระยะต่อสัญญา คือ ต่อสัญญาทุกๆ 3 ปี ช่วงขายดีเราก็ดูแลได้ บางปีมีพีคๆ รายได้เดือนละหลายแสนบาท แต่ช่วงขายไม่ดี เราก็ปรับแผนธุรกิจกันไป อย่างช่วงนี้มันเป็นสถานการณ์เศรษฐกิจ ไปที่ไหนก็เหนื่อยเหมือนกัน ผมก็เลยอยู่ตรงนี้ ไม่คิดขึ้นห้าง เพราะอาหารร้านเรา มีลูกค้ากลุ่มหลักคือกลุ่มครอบครัว ราคาเข้าถึงได้ ถ้าขึ้นห้างเราก็ต้องบวกค่าที่และปรับราคาอาหารสูงกว่านี้ เราก็ไม่ไหว” สุพจน์บอกเล่า

ด้านภควัต สาริกานนท์ ผู้ร่วมก่อตั้งร้านไอศกรีม “ถ้วยถัง” เล่ากับ Thairath Money ว่า ปัจจุบันร้านถ้วยถังไอติม มีทั้งหมด 3 สาขา คือ ห้วยขวาง, รังสิต และบรรทัดทอง ซึ่งยอมรับว่าตั้งแต่ต้นปีนี้ ยอดขายก็ลดลงไป 40-50% สิ่งที่ทำได้คือ ปรับตัวปรับกลยุทธ์การตลาด เช่น ออกสินค้าตัวใหม่อย่างช่วงเดือนนี้มะยงชิด มีมะม่วงหาวมะนาวโห่, ทำการตลาดออนไลน์ และมีเกมให้ลูกค้าร่วมสนุกบ้าง เป็นต้น

“ผมเปิดสาขาที่บรรทัดทองมานานแล้ว เรียกว่าเป็นเจ้าแรกๆ บนถนนเส้นนี้เมื่อ 5-6 ปีก่อน ซึ่งก็ยอมรับว่าใน 3 สาขา สาขาที่มีค่าเช่าสูงคือห้วยขวางและบรรทัดทอง แต่ก็คิดว่า อยู่ตรงนี้ถ้าเทียบกับขึ้นห้าง ตรงนี้ก็ราคายังพอไหว ที่ผ่านมา จุฬาฯ ก็เคยขึ้นค่าเช่าสูงอยู่ช่วงหนึ่ง แต่หลังๆ ก็ไม่ได้ปรับมาก และอย่างตอนโควิดเขาก็ยกเว้นให้ หรือ ลดราคาให้บ้าง” ภควัต กล่าว

สถานการณ์เศรษฐกิจและพฤติกรรมของผู้บริโภค รวมถึงอีกหลายปัจจัย ทำให้ผู้ค้าย่านนี้ ต้องเผชิญกับรายได้ที่ลดลง และมีบางรายจำเป็นต้องโยกย้าย แต่ก็มีอีกหลายรายที่ยังอยู่ต่อเพราะยังเห็นโอกาสในการสร้างธุรกิจ ขณะที่เจ้าของพื้นที่เช่าอย่าง PMCU ก็มีแผนเพื่อสนับสนุนการตลาดให้ผู้เช่าในพื้นที่เช่นกัน

ติดตามข่าวสารด้านการตลาด กับ Thairath Money ได้ที่
https://www.thairath.co.th/money/business_marketing 

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้  https://www.facebook.com/ThairathMoney