MTCH ธุรกิจที่เริ่มต้นจากความหลงใหลในมัทฉะ "สรวิศ พันธ์เกษม" นักชงชาผู้คร่ำเคร่งกับคุณภาพ

แฟนๆมัทฉะ (Matcha) ชาเขียวเกรดพรีเมียมที่ผ่านขั้นตอนการปลูก กล่อมเกลี้ยงเลี้ยงดูอย่างพิถีพิถัน ย่อมไม่ควรพลาดที่จะลิ้มลองมัทฉะระดับลักชัวรีของคนไทย ที่ร้าน MTCH ซึ่งคุณจิว-สรวิศ พันธ์เกษม และคุณจ๊ะเอ๋-เชฐธิดา เนตรมุกดา คู่สามี-ภรรยาร่วมกันก่อตั้ง

MTCH ออกเสียงว่า เอ็ม-ที-ซี-เอช (M-T-C-H) มาจากคำว่า MATCHA ที่ตัดสระ A ออก เป็นความตั้งใจหยิบเฉพาะโครงสร้างของคำว่า MATCHA มาใช้ให้เกิดความสนุก สร้างสรรค์ แม้อาจออกเสียงยากไปนิด แต่คิดมาดีแล้ว

ความชื่นชอบในมัทฉะของคุณจิว-สรวิศ ไม่ต่างกับ Matcha Lovers คนอื่น แต่เขากล้าที่จะต่อยอดความหลงใหลนั้น ศึกษารสชาติที่แตกต่าง ค้นคว้า และสร้างธุรกิจ หวังให้เกิดชุมชนคนรักมัทฉะเล็กๆขึ้นมา

....เริ่มต้นด้วยมัทฉะ ลาเต้ แก้วแรกในชีวิต เมนูสุดฮิตจากร้านสตาร์บัค ที่ยอมอดเล่นเกม เก็บเงินซื้อสมัยเรียนมัธยมปลายในราคาแก้วละ 145 บาท เพราะความอร่อยและความเท่

....สู่ร้าน MTCH ทั้ง 3 สาขา ได้แก่ สาขาอารีย์ ซอยพหลโยธิน 5, สาขาสุขุมวิท 23 และ The Circle ราชพฤกษ์ ที่ซึ่งมีผู้แวะเวียนมาเยี่ยมเยือนไม่ขาดสาย ทั้งคนไทยและทั่วโลก แถมยังเพิ่งได้รับรางวัล Best Specialty Matcha 2024–2025 จาก Grab แอปพลิเคชันฟู้ดดีลิเวอรีเจ้าใหญ่

คุณจิว-สรวิศ ชายวัย 36 ปี เริ่มต้นธุรกิจเมื่อปี 2563 ก่อนหน้านั้นเขาเคยทำงานด้านแฟชั่น รีเทล หลังเรียนจบปริญญาโทจากอังกฤษ แต่ความชื่นชอบในเครื่องดื่มมัทฉะเริ่มขึ้นก่อนหน้านั้น

ยิ่งดื่มคุณจิวยิ่งหลงใหลในความหลากหลาย ซับซ้อนทั้งกลิ่นและรสมัทฉะที่ผลิตแต่ละที่ไม่เหมือนกัน ทำให้ยิ่งอยากรู้ เคยตระเวนดื่มมัทฉะไปจนถึงเมืองอูอิ ประเทศญี่ปุ่น แหล่งกำเนิดมัทฉะชั้นดี “10 ปีก่อนเปิดร้าน นอกจากดื่มแล้ว ผมยังศึกษาและหัดชงชามาตลอด จนอิ่มตัวกับงานประจำ ชวนจ๊ะเอ๋หาทำเลเปิดร้าน เลือกที่ใกล้บ้านไว้ก่อน (แถบซอยอารีย์) ตั้งใจสร้างเป็นชุมชนเล็กๆสำหรับคนชอบมัทฉะ ใช้เงินทุนเริ่มต้นที่ 600,000 บาท”

เปิดร้านแรกในซอยพหลโยธิน 2 เมื่อ 9 ม.ค.2563 มีคนมารอคิว 20 คน ตั้งแต่ร้านยังไม่เปิด จากพลังโซเชียลที่เพื่อนๆ ช่วยกระจายข่าว ตอนนั้นคุณจิว ภรรยา และพนักงาน 1 คน วิ่งวุ่นทั้งร้าน ปิดยอดวันแรกเกิน 100 แก้ว “เพื่อนไม่ใช่อินฟลูเอนเซอร์หรือคนดัง แต่น่าจะมีการบอกต่อๆกัน ทำให้รู้ว่ามีคนชื่นชอบมัทฉะไม่น้อย”

จากซอยพหลโยธิน 2 ที่คับแคบและไม่เชิงอยู่ในพื้นที่ทำเลการค้า 10 เดือนถัดมา คุณจิวขยับขยายสู่ร้าน MTCH ซอยพหลโยธิน 5 ร้านแฟล็กชิป 2 ชั้น ตกแต่งสบายตา เรียบง่าย ลูกค้าไม่เกร็งว่าต้องแต่งตัวมาแบบไหน ทำยอดขายก้าวกระโดด แต่เปิดได้ 1 เดือน เริ่มมีสัญญาณโควิดแพร่ระบาด โชคดีที่ร้านแรกอยู่ในพื้นที่ที่ลูกค้าไปมาไม่สะดวก จึงมีการสั่งดีลิเวอรีค่อนข้างมาก ตอนนั้นต้องทำการบ้านหนัก เพราะลูกค้าที่สั่งดีลิเวอรีต้องได้เครื่องดื่มคุณภาพเดียวกับดื่มที่ร้าน พอเจอโควิด MTCH จึงรองรับยอดสั่งออนไลน์ได้แบบไร้รอยต่อ

“ถ้าถามผม มัทฉะมีเสน่ห์ของมัน ทั้งสีเขียวมองสบายตา กลิ่น รสชาติ เป็นขมที่แซมหวาน มีความอูมามิ (อร่อย) และสารพัดประโยชน์ต่อสุขภาพ”

ด้วยจำนวนลูกค้าต่างชาติและผู้สนใจจากทั่วภูมิภาคติดต่อ MTCH ให้ไปเปิดสาขาหรือขอซื้อแฟรนไชส์ ทำให้คุณจิวมั่นใจว่า ขณะนี้ไทยคือศูนย์กลางมัทฉะในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งจากคุณภาพ ความหลากหลายของสินค้าและเมนู “นักท่องเที่ยวหลายคนมาที่ MTCH เพื่อมาลองเมนูหลากหลายที่บ้านเขาไม่มี”

อย่างไรก็ตาม MTCH ยังไม่มีแผนขยายสาขาเพิ่มทั้งในและต่างประเทศ เพราะเป้าหมายของ MTCH ไม่ใช่การเพิ่มยอดขายหรือเพิ่มรายได้ แต่เป็นการพัฒนาคุณภาพสินค้าให้ดียิ่งขึ้นไปอีก ที่สำคัญการเพิ่มสาขาทำให้ควบคุมคุณภาพได้ยาก ในจำนวน 3 สาขา คุณจิวและคุณจ๊ะเอ๋สามารถวิ่งรอกเข้าร้านได้เกือบทุกวัน

เมื่อถามว่าต้องดีขึ้นอีกอย่างไร คุณจิวบอกว่า ขณะนี้ MTCH กำลังทำงานร่วมกับเกษตรกรผู้ปลูกมัทฉะในญี่ปุ่น พัฒนาสายพันธุ์ให้ตรงตามความชอบของลูกค้า เพราะคนญี่ปุ่นกับคนไทยดื่มมัทฉะคนละแบบ

เมื่อปี 2566 ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ็มทีซีเอช คอนเทมโพรารี่ ซึ่งมีคุณจิวและคุณจ๊ะเอ๋ถือหุ้นร่วมกัน แจ้งมีรายได้ 4 ล้านบาท ลดลงจากปี 2565 ที่มีรายได้ 4.9 ล้านบาท และ 5 ล้านบาท ในปี 2564 “การกลับมาเดินทางของคน ทำให้ยอดขายลดลง ลูกค้าบินไปญี่ปุ่นและกินมัทฉะที่นั่น แต่หากไม่เดินทาง เวลาคิดถึงมัทฉะ เขาจะนึกถึงร้านเรา”

“ยอดของใบชาที่เอาไปผลิตมัทฉะต้องดูแลตั้งแต่ขั้นตอนการปลูก สร้างสแลนปกคลุมต้นชาเพื่อกรองแสงไม่ให้ผ่านกระทบต้นชามากนัก กระตุ้นให้ต้นชาสร้างสารคลอโรฟิลล์มากขึ้น เพิ่มระดับการสังเคราะห์แสง มัทฉะจึงมีใบสีเข้มกว่าชาเขียวทั่วไป รสชาติซับซ้อน”

ด้วยกรรมวิธีพิถีพิถัน คุณจิวบอกว่าเขากำลังขายสินค้าลักชัวรี ราคาระหว่างแก้วละ 140-250 บาท (ชาเกรดแข่งขัน) แต่ยืนยันว่า ด้วยคุณภาพของชา MTCH ในราคาเท่านี้ เป็นราคาที่สมเหตุสมผลมากที่สุดในประเทศไทยแล้ว ในทางธุรกิจ MTCH มั่นคงพอสมควร ก้าวข้ามรายได้และยอดขายไปเรียบร้อย เป้าหมายที่ยังคงอยู่คือการพัฒนาคุณภาพต่อไปให้ได้มากที่สุด.

เลดี้แจน

คลิกอ่านคอลัมน์ “Business on my way” เพิ่มเติม