
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 19 มี.ค.2568 บริษัทแกร็บ ประเทศไทย ได้จัดแถลงข่าวกลยุทธ์และทิศทางการดำเนินธุรกิจของแกร็บในปี 2568 รวมทั้งได้มีการเปิดตัวนางสาวจันต์สุดา ธนานิตยะอุดม กรรมการผู้จัดการใหญ่แกร็บ ประเทศไทย คนใหม่ ซึ่งกำลังจะเข้ารับตำแหน่งใหม่อย่างเป็นทางการ ในวันที่ 1 เม.ย.2568 แทนนายวรฉัตร ลักขณาโรจน์ ซึ่งกำลังจะพ้นจากตำแหน่งในวันที่ 31 มี.ค.2568
โดยนางสาวจันต์สุดากล่าวว่า ปี 2567 ถือเป็นอีก 1 ปีที่ยอดเยี่ยมของแกร็บประเทศไทย โดยสามารถทำการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งใน 4 กลุ่มธุรกิจหลัก อันได้แก่ 1.บริการเรียกรถรับส่ง (Mobility) 2.บริการรับส่งอาหาร (Food Delivery) 3.บริการด้านการเงิน4.บริการสำหรับองค์กรธุรกิจ (B2B) “รอบปีที่ผ่านมา แม้มีความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจแต่แกร็บถือว่าโชคดีรายได้ของแกร็บใน 8 ประเทศที่เข้าไปทำธุรกิจยังเติบโตด้วยตัวเลข 2 หลัก เช่นเดียวกับประเทศไทย ยังมีการเติบโตน่าพอใจ ตลาดของแกร็บยังไม่อิ่มตัว”
ส่วนในปี 2568 มองว่าเศรษฐกิจยังจะทรงๆ แต่แกร็บต้องเป็นที่ 1 ทั้งในบริการรถรับส่งและฟู้ดดีลิเวอรี ภายใต้ 2 กลยุทธ์คือ 1.ราคาที่จับต้องได้ 2.สนับสนุนนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวของรัฐบาล
โดยในส่วนของฟู้ดดีลิเวอรีนั้น ตลาดในไทยเมื่อปี 2567 เติบโต 12% มูลค่ารวมประมาณ 140,000 ล้านบาท เแกร็บเป็นเจ้าตลาดในสัดส่วน 46% ส่วนธุรกิจบริการเรียกรถรับส่งนั้น หลังจากที่สามารถเข้าไปให้บริการได้ใน 4 สนามบิน ได้แก่ สนามบินสุวรรณภูมิ ดอนเมืองภูเก็ตและเชียงใหม่ รวมทั้งการทำแคมเปญโปรโมตการท่องเที่ยวตลอดปี โดยเฉพาะในเมืองรองควบคู่ไปกับการขยายบริการไปยังพื้นที่ใหม่ๆรองรับนักท่องเที่ยว ทำให้ปี 2567 ยอดใช้บริการเรียกรถในกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติเติบโตขึ้น 138% ขณะที่ยอดใช้บริการในเมืองรอง เพิ่มขึ้น90%
“ตลอดระยะเวลาเกือบ 12 ปีของการดำเนินธุรกิจในไทยผ่านผลการศึกษาของสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ที่ระบุว่ากิจกรรมทางธุรกิจต่างๆที่เกิดขึ้นในวงจรธุรกิจของแกร็บในปี 2566 สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้ประเทศสูง 179,000ล้านบาท คิดเป็น 1% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี)”.
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่