ธุรกิจประกันชีวิตยังคงแข่งขันกันดุเดือดเพื่อมัดใจผู้บริโภค ล่าสุด หนึ่งในผู้นำธุรกิจนี้ คือ บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ MTL ได้เปิดเกมรุกรบตั้งแต่ต้นปี ด้วยการชูกลยุทธ์ “Boost Your Happiness by Our People” “เดินหน้าบูสท์ความสุขของคุณด้วยคนของเมืองไทยประกันชีวิต”
ผ่านความคุ้มครองที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ในทุกช่วงชีวิต และประสบการณ์การบริการแบบไร้รอยต่อ ด้วยความมุ่งมั่นในการพัฒนารอบด้านอย่างมั่นคง ยั่งยืน โดยคำนึงถึงลูกค้าเป็นสำคัญ
ตอกย้ำผู้นำแบรนด์แห่งการสร้างความสุขและรอยยิ้มอย่างยั่งยืนต่อเนื่อง
นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) แถลงลั่นว่า ในปี 2568 เมืองไทยประกันชีวิตยังคงตอกย้ำตัวตนในการเป็นแบรนด์แห่งการสร้างความสุขและรอยยิ้มที่ยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง พร้อมยกระดับการส่งมอบความสุขผ่านกลยุทธ์ “Boost Your Happiness by Our People” บูสท์ความสุขของคุณด้วยคนของเมืองไทยประกันชีวิต ด้วยการเดินหน้าพัฒนาองค์กรในทุกภาคส่วน
มีเป้าหมายร่วมกันคือการส่งมอบความสุขให้กับลูกค้าทุกท่านด้วยความเป็นมืออาชีพ ความโปร่งใสและความสะดวกสบาย และความไว้วางใจ ผ่านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ในทุกช่วงชีวิต ประสบการณ์การบริการแบบไร้รอยต่อ และคำมั่นสัญญาตลอดชีวิต ผสานกันอย่างลงตัวเพื่อตอบโจทย์ในทุกความเป็นคุณ
เมืองไทยประกันชีวิตพร้อมเดินหน้าพัฒนาองค์กรทุกภาคส่วน ด้วยการพัฒนาพนักงาน และฝ่ายขายให้มีความสามารถรอบด้าน เพิ่มทักษะการใช้ข้อมูลและปัญญาประดิษฐ์ผสมผสานอยู่ในทุกกระบวนการทำงาน ทักษะด้านการสื่อสารและการบริหาร ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน และความเชี่ยวชาญในหลายมิติ ควบคู่ไปกับสร้างความสุขจากภายในองค์กรให้กับ “คนของเรา” ที่มีความหลาก หลายให้ทำงานร่วมกันได้อย่างลงตัว โดยมีเป้าหมายร่วมกันคือ “การส่งมอบความสุขให้กับลูกค้าคนสำคัญ”
โดยคนของเรา... พร้อมส่งมอบความสุขให้แก่ลูกค้าผ่านการวางแผนสำหรับทุกช่วงของชีวิต ทั้งการวางแผนทางการเงิน การวางแผนเกษียณ การวางแผนสุขภาพ และการวางแผนมรดก ด้วยความคุ้มครองที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็นประกันชีวิต ประกันชีวิตแบบบำนาญ ประกันสุขภาพและโรคร้ายแรง ประกันอุบัติเหตุ และประกันชีวิตควบการลงทุน รวมถึงฟีเจอร์พิเศษทั้งความยืดหยุ่นด้วยรูปแบบความคุ้มครองที่ปรับแต่งได้ ความคุ้มครองที่ปรับได้ตามช่วงชีวิตของลูกค้า และการเติมเต็มความคุ้มครองที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น
คนของเรา...พร้อมส่งต่อประสบการณ์ไร้รอยต่อผ่านบริการในช่องทางต่างๆ ตั้งแต่การซื้อประกันภัยที่สามารถเข้าถึงได้ทุกคนได้ทุกที่ทุกเวลา ทั้งช่องทางตัวแทน ช่องทางธนาคาร ช่องทางการขายผ่านโทรศัพท์ ช่องทางออนไลน์ และพาร์ตเนอร์ต่างๆ รวมถึงการให้บริการที่ครบวงจรและเข้าถึงได้ง่ายไม่ว่าจะเป็นช่องทางสาขา Call Center 1766 แอปพลิเคชัน MTL Click เมืองไทยสไมล์คลับ และ MTL Fit เป็นต้น นอกจากนี้ ลูกค้ายังจะได้รับความสะดวกสบายด้วยการทำธุรกรรมทางกรมธรรม์ และบริการหลังการขายไม่ว่าจะเป็นระบบ e-Payment หรือ e-Document เป็นต้น
นายสาระกล่าวว่า ธุรกิจประกันชีวิตเป็นธุรกิจที่ให้ความคุ้มครองแก่ลูกค้าในระยะยาว ดังนั้น เมืองไทยประกันชีวิตจึงให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนในทุกก้าว ภายใต้การกำกับดูแลกิจการ และการบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสม โดยคำนึงถึงการสร้างสมดุลทั้งในมิติสิ่งแวดล้อม มิติสังคม และมิติบรรษัทภิบาล (ESG) โดยเฉพาะในส่วนของมิติสังคม บริษัทยังคงเดินหน้าในการพัฒนาแบบประกันภัยที่ช่วยตอบโจทย์การเข้าถึงได้ของประกันชีวิตให้กับทุกคน พร้อมสร้างความรู้ด้านการวางแผนการเงินและประกันภัยให้กับประชาชนทั่วไป และการสนับสนุนกิจกรรมเพื่อการดูแลสุขภาพให้แข็งแรงอย่างยั่งยืน
ด้านมิติสิ่งแวดล้อม เมืองไทยประกันชีวิตในฐานะเป็นส่วนหนึ่งของประชาคมโลก ได้ร่วมสนับสนุนการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและบรรเทาผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการเปลี่ยนผ่านโลกของเรา ประกาศความมุ่งมั่นในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Commitment) ด้วยเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์จากการดำเนินงานของบริษัท ภายในปี 2573 (2030) ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการดำเนินงานภายในบริษัท
“ในปีนี้เราตั้งเป้าหมายว่าจะเป็นปีที่สีบานเย็นจะบานสะพรั่งทั่วประเทศ โดยเมืองไทยประกันชีวิตจะยกระดับความสุขให้กับทุกคน ทั้งลูกค้า พาร์ตเนอร์ พนักงานและฝ่ายขายของเรา และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายผ่านผลิตภัณฑ์ บริการ และช่องทางการขายต่างๆ สีบานเย็นจะรวมพลังกันอย่างแข็งแกร่ง เพื่อส่งมอบความสุขและรอยยิ้มให้ลูกค้าคนสำคัญของเราทุกคน”.
เจริญสุข ลิมป์บรรจงกิจ
คลิกอ่านคอลัมน์ “The Issue” เพิ่มเติม