รอบรั้วการตลาด : BRAND’S ชวนคนรุ่นใหม่โชว์พลังแห่งการให้ผ่านการบริจาคเลือด

Business & Marketing

Marketing & Trends

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

รอบรั้วการตลาด : BRAND’S ชวนคนรุ่นใหม่โชว์พลังแห่งการให้ผ่านการบริจาคเลือด

Date Time: 24 ม.ค. 2568 07:00 น.

Video

“Bulgari” ไทยโอกาสใหม่ Luxury | Brand Story Exclusive EP.5

Summary

  • บริษัท ซันโทรี่ เบเวอเรจ แอนด์ ฟู้ด (ประเทศไทย) จำกัด ภายใต้ตราผลิตภัณฑ์แบรนด์ในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชีย เดินหน้ารณรงค์ปลูกจิตสำนึกและสร้างกระแสนิยมให้เยาวชนไทยผ่านการบริจาคโลหิตภายใต้โครงการแบรนด์ พลังเลือดใหม่ ต่อพลังชีวิต

Latest


นางมธุวลี สถิตยุทธการ ผู้อำนวยการฝ่ายรัฐกิจและองค์กรสัมพันธ์ บริษัท ซันโทรี่ เบเวอเรจ แอนด์ ฟู้ด (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า จากค่านิยมของบริษัทฯ ที่ให้ความสำคัญกับการตอบแทนกลับคืนสู่สังคม หรือ Giving Back to Society จึงนำไปสู่การริเริ่มโครงการแบรนด์…พลังเลือดใหม่ ต่อพลังชีวิต ซึ่งดำเนินการจนก้าวสู่ปีที่ 25 นับเป็นความสำเร็จที่สะท้อนถึงความตั้งใจของบริษัทฯ ในการเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยขับเคลื่อนสังคมแห่งการให้ โดยร่วมกับศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ปลูกฝังหัวใจแห่งการเป็นผู้ให้แก่เยาวชน คนรุ่นใหม่ รณรงค์ให้ร่วมบริจาคโลหิตครั้งแรก และบริจาคโลหิตต่อเนื่องเป็นประจำทุก 3 เดือน เพื่อช่วยชีวิตผู้ป่วยด้วยความสมัครใจ ไม่หวังสิ่งตอบแทน

รวมถึงเพื่อเพิ่มจำนวนโลหิตสำรองไว้ใช้ในกรณีฉุกเฉิน ซึ่งในทุก ๆ ปี ได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดี มีคนรุ่นใหม่เข้าร่วมบริจาคโลหิตผ่านโครงการฯ เป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ นอกจากนี้ ยังจัดกิจกรรมการประกวดที่ให้น้อง ๆ นิสิต นักศึกษา ได้แสดงออกถึงความคิดสร้างสรรค์ ออกแบบผลงานเพื่อสร้างจิตสำนึกและให้ความรู้เกี่ยวกับการเตรียมตัวเพื่อบริจาคโลหิตในวงกว้าง อาทิ การประกวดสื่อภาพนิ่ง (Infographic), การประกวดแต่งเพลงสั้น การประกวดเต้น และการประกวดออกแบบลายเสื้อยืด เป็นต้น

สำหรับ BRAND’S Young Blood เป็นอีกหนึ่งโครงการที่ตอกย้ำถึงค่านิยมขององค์กรด้านการตอบแทนสังคม สำหรับโครงการ BRAND’S Young Blood 2024 มีผู้เข้าร่วมบริจาคโลหิตรวมทั้งสิ้น 122,792 ยูนิต จากเป้าที่ตั้งไว้ 100,000 ยูนิต สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จในการรณรงค์หัวใจแห่งการเป็นผู้ให้แก่น้อง ๆ นักศึกษา ซึ่งเป็นพลังสำคัญที่จะขับเคลื่อนประเทศไทยในอนาคต เพราะเราเชื่อว่าจิตสำนึกของการเป็นผู้ให้เป็นพื้นฐานสำคัญที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้กับสังคมอย่างยั่งยืน

สำหรับโครงการ BRAND’S Young Blood 2025 เราตั้งเป้ายอดบริจาคโลหิตจำนวน 125,000 ยูนิต เพิ่มขึ้น 25,000 ยูนิตจากเป้าหมาย 100,000 ยูนิตของปีที่แล้ว เพื่อฉลองการครบรอบ 25 ปีของโครงการฯ โดยมีการจัดกิจกรรมหลัก 2 กิจกรรม ได้แก่

1. กิจกรรมเพื่อสนับสนุนการบริจาคโลหิตของหน่วยรับเคลื่อนที่ ผ่านโรดโชว์รณรงค์บริจาคโลหิตในสถาบันการศึกษา และการออกหน่วยรับบริจาคโลหิตเคลื่อนที่ตามสถาบันการศึกษาต่าง ๆ ทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมถึงภูมิภาคต่าง ๆ

2. กิจกรรมการแข่งขันเพื่อประชาสัมพันธ์โครงการ และนำเสนอไอเดียสร้างสรรค์เพื่อสร้างจิตสำนึกในการบริจาคโลหิตในหมู่เยาวชนในวงกว้าง โดยทั้งสองกิจกรรมจะส่งเสริมซึ่งกันและกัน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายด้านการสร้างจิตสำนึกของผู้ให้ที่นำไปสู่การบริจาคโลหิตอย่างยั่งยืนในหมู่เยาวชนได้อย่างแท้จริง

รองศาสตราจารย์แพทย์หญิงดุจใจ ชัยวานิชศิริ ผู้อำนวยการศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย กล่าวว่า ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ เป็นหน่วยงานหลักที่มีหน้าที่ในการจัดหาโลหิตให้มีปริมาณเพียงพอ มีคุณภาพสูงสุดตามมาตรฐานสากล ปลอดภัยทั้งผู้ให้และผู้รับ และเป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ภาคเอกชน อย่างบริษัท ซันโทรี่ เบเวอเรจ แอนด์ ฟู้ด (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายแบรนด์ซุปไก่สกัด เล็งเห็นความสำคัญของการรณรงค์ให้คนรุ่นใหม่หันมาบริจาคโลหิตกับสภากาชาดไทย

เนื่องจากการบริจาคโลหิตเป็นเรื่องจำเป็น และยังไม่มีสิ่งใดทดแทนได้ ขณะที่ความต้องการใช้โลหิตของโรงพยาบาลต่าง ๆ ทั่วประเทศ มีการเบิกใช้โลหิตเฉลี่ยวันละ 7,500 – 8,500 ยูนิต แต่สามารถจ่ายโลหิตได้เฉลี่ยวันละ 3,200 – 3,800 ยูนิต หรือ 42.67 – 44.71 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ส่วนการบริจาคโลหิตของกลุ่มเยาวชนในปัจจุบันมีการบริจาคเพียง 11% จากจำนวนผู้บริจาคโลหิตทั้งหมด

โดยก่อนการแพร่ระบาดของโรคโควิด มีจำนวนเยาวชนบริจาคโลหิตมากถึง 24 เปอร์เซ็นต์ จะเห็นได้ว่าภาคเอกชนนั้นเป็นพลังสำคัญที่ช่วยส่งเสริมให้เยาวชนเห็นความสำคัญในการช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์ที่ต้องการเลือดเพื่อรักษา เพราะผู้ป่วยต้องการโลหิตทุกวินาที

ยิ่งไปกว่านั้น การบริจาคโลหิตไม่ได้เป็นอันตรายต่อผู้บริจาค โดยการบริจาคโลหิตครั้งละ 350 – 450 ซีซี คิดเป็น 10 – 12% ของปริมาณโลหิตทั้งหมดในร่างกาย โดยหลังบริจาคโลหิต ไขกระดูกในร่างกายจะสร้างเม็ดเลือดใหม่ขึ้นมาทดแทนอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ผู้บริจาคควรรับประทานยาเสริมธาตุเหล็ก วันละ 1 เม็ดหลังอาหาร จนหมดตามจำนวนที่ทางสภากาชาดมอบให้ เป็นการชดเชยธาตุเหล็กที่สูญเสียไปจากการบริจาคโลหิต เพื่อให้สามารถบริจาคโลหิตได้อย่างสม่ำเสมอและยั่งยืนต่อไปในอนาคต

ที ไลฟ์ ประกันชีวิต ขานรับกฎหมายสมรสเท่าเทียม พร้อมยืนยันการให้ความคุ้มครองและสิทธิประโยชน์ด้านการประกันชีวิตแก่ผู้เอาประกันและคู่สมรสทุกเพศอย่างครอบคลุมและเท่าเทียม สามารถรับรองสิทธิ์ในการระบุผู้รับผลประโยชน์ที่เป็นคู่สมรสเพศเดียวกัน โดยระบุเป็นคู่ชีวิตได้

นายวุฒิเลิศ สุวรรณศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ที ไลฟ์ ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า T Life ยึดมั่นในหลักความเท่าเทียมและความหลากหลายทางเพศมาโดยตลอด โดยเชื่อว่าทุกคนมีสิทธิที่จะได้รับการดูแลและความคุ้มครองชีวิตอย่างเท่าเทียม ไม่ว่าจะเป็นเพศใดหรือมีรูปแบบครอบครัวแบบใดก็ตาม การขานรับนโยบายสมรสเท่าเทียมในครั้งนี้จึงไม่ใช่เพียงการปฏิบัติตามกฎหมาย แต่เป็นการยืนยันถึงค่านิยมหลักขององค์กรในการสนับสนุนสิทธิมนุษยชนและความเท่าเทียมในทุกมิติ

"เราเชื่อว่าการประกันชีวิตเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่ทุกคนควรได้รับอย่างเท่าเทียม ไม่ว่าจะเป็นเพศใดก็ตาม ลูกค้าทุกท่านมั่นใจได้ว่าจะได้รับความคุ้มครองและการดูแลจาก T Life อย่างเต็มที่ สามารถวางแผนการเงินและความคุ้มครองให้กับคนที่คุณรักได้อย่างอุ่นใจ เพราะ T Life เรารับประกันความสุข พร้อมใส่ใจในทุก Lifestyle"

บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด (AWN) บริษัทในกลุ่ม AIS เข้าชำระค่าคลื่นความถี่ 700 MHz งวดที่ 5 เป็นเงิน 1,881,488,000 บาท (หนึ่งพันแปดร้อยแปดสิบเอ็ดล้านสี่แสนแปดหมื่นแปดพันบาท) ให้แก่ กสทช. โดยมี นายสุทธิศักดิ์ ตันตะโยธิน รองเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เป็นผู้แทนรับมอบ เพื่อนำส่งเงินเป็นรายได้ของแผ่นดินในการพัฒนากิจการโทรคมนาคมของประเทศต่อไป

บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ผู้นำเบอร์หนึ่งอสังหาริมทรัพย์ไทยเพื่อความยั่งยืน ในฐานะ The Pioneer of Equality ที่สร้างพื้นที่สำหรับ All Global Citizen และ LGBTQIAN+ ตอกย้ำบทบาทองค์กรแห่งความหลากหลายและเท่าเทียม ร่วมฉลองและแสดงความยินดีกับก้าวสำคัญของประเทศไทย ประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ประกาศใช้กฎหมายสมรสเท่าเทียม ตามที่เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่กฎหมายสมรสเท่าเทียม ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 23 มกราคม 2568 เป็นต้นไป ถือเป็นก้าวสำคัญของสังคมไทย ที่สร้างประวัติศาสตร์ให้ความเสมอภาคและความเท่าเทียมเกิดขึ้นได้อย่างเป็นรูปธรรม และความหลากหลายทางเพศสภาพจะได้รับการยอมรับอย่างเต็มที่

เซ็น กรุ๊ป นำทีมโดย ZEN, AKA และ On the Table ตระหนักถึงความเสมอภาคและความเท่าเทียม และพร้อมร่วมส่งเสริมค่านิยมความหลากหลายในสังคม เพื่อการเปลี่ยนผ่านไปสู่ความเสมอภาคที่แท้จริง พร้อมร่วมแสดงความยินดีผ่าน 3 แบรนด์เรือธง ด้วยการมอบโปรโมชั่นพิเศษให้กับคู่รัก LGBTQ+ ทุกคู่ที่จดทะเบียนสมรสในระหว่างวันที่ 23 – 31 มกราคม 2568 เพียงโชว์ทะเบียนสมรสและบัตรประชาชนของทั้งคู่ ณ สาขาที่ร่วมรายการ


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ