แฟนละครอวยยศ “พรหมลิขิต” ภาคต่อ บุพเพสันนิวาส สมการรอคอย คาดปลุกรายได้-โฆษณาช่อง 3 พีก!

Business & Marketing

Marketing & Trends

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

    แฟนละครอวยยศ “พรหมลิขิต” ภาคต่อ บุพเพสันนิวาส สมการรอคอย คาดปลุกรายได้-โฆษณาช่อง 3 พีก!

    Date Time: 19 ต.ค. 2566 11:14 น.

    Video

    อย่ากลัว! วิกฤติใหญ่ยังไม่เกิด หาโอกาสลงทุน กับ กวี ชูกิจเกษม | Thairath Money Night Stand EP.21

    Summary

    สมการรอคอย แฟนละครช่อง 3 อวยยศ “พรหมลิขิต” ภาคต่อ บุพเพสันนิวาส หลังออนแอร์ EP.1 โกยยอดคนดูล้นทั้งสดและย้อนหลังใน Netflix ‘โป๊บ-เบลล่า’ ฝีมือไม่ตก บ่าวบนเรือนแก๊งฮา ยังอยู่ครบ ขณะเรื่องราวประวัติศาสตร์สมัยอยุธยา ยังชวนติดตาม

    Latest


    เรียกได้ว่า กลับมาปลุกความคึกคัก ของอุตสาหกรรมละครไทยอีกครั้ง สำหรับ “พรหมลิขิต” ละคร ภาคต่อของ “บุพเพสันนิวาส” ที่นำแสดงโดย คู่ขวัญพาฟิน อย่าง ‘โป๊บ’ และ ‘เบลล่า’ ที่รอบนี้ ทำงานอย่างหนัก คูณสาม เพราะต้องสวมบทบาท เล่นเป็นทั้งรุ่นพ่อ-แม่ และ รุ่นลูก พร้อมกับนักแสดงมากฝีมือจำนวนมาก ที่มาร่วมถ่ายทอดเป็นตัวละครทางประวัติศาสตร์อย่างคับคั่ง

    สำหรับ พรหมลิขิต ตอนแรก (EP.1) ที่ออนแอร์ไปช่วงค่ำวานนี้ แผลงฤทธิ์ ด้วยยอดคนเข้าชม ผ่านสดออนไลน์ ทะลุ 1 ล้านคน และยังมีเหล่าออเจ้า กด Netflix เข้าชม “พรหมลิขิต” หลังออกอากาศจบ อีกเป็นจำนวนมาก จนดันให้คอนเทนต์ดังกล่าว ติดเทรนด์ TOP 10 ใน Netflix ไปเรียบร้อยแล้ว ในรอบไม่ถึง 24 ชั่วโมง

    “พรหมลิขิต” ตอนแรก เปิดฉากร้อยเรื่องราวสำคัญ

    โดยกระแส พรหมลิขิต หรือ ชื่อในภาษาอังกฤษ ว่า Love Destiny 2 ซึ่งเป็น ละครไทยแนวย้อนยุค จากบทประพันธ์ของรอมแพง ผลิตโดยบรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น นำแสดงโดยพระนางจากภาคแรก ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ และ ราณี แคมเปน และ ยังคงได้ศัลยา สุขะนิวัตติ์ ผู้เขียนบทจากภาคแรก มาเขียนบทให้ในภาคนี้ ถูกพูดถึง ออกมาในทิศทางเดียวกัน ว่า “สนุกและฟิน” ไม่แพ้ เมื่อครั้งดู “บุพเพสันนิวาส” แม้ก่อนหน้า จะยังประเมินไม่ออก ว่า ภาคต่อของละครดังข้ามประเทศ เรื่องนี้ จะปัง หรือ แป้ก? 

    เนื่องจาก พุดตาน (การะเกดกลับชาติมาเกิด) ยังถูกสวมบทบาท ด้วยนักแสดงเดิม ราณี แคมเปน หรือ พ่อริด-พ่อเรือง (ลูกแฝดของพ่อเดชและแม่การะเกด) ก็มี ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ รับบท ความไม่สดใหม่ของนักแสดง ทำให้บางส่วนมอง อาจทำให้กระแสละครพรหมลิขิต ไม่ปังอย่างที่คิด รวมถึง การอคอยที่นานมากกว่า 4 ปี อาจทำให้อรรถรส หรือความเข้าใจเรื่องราว ทิ้งห่างไปมากพอสมควร

    แต่กลับผิดคาด เพราะแม้ “พรหมลิขิต” ตอนแรก แฟนๆ ละคร ยังไม่ได้ฟินกับพระ-นาง ด้วยบทบาทรุ่นลูก แต่เป็นการเชื่อมต่อ ปูเรื่องราว สู่จักรวาล พรหมลิขิต ด้วยเหตุการณ์ต่างๆ โดยเฉพาะ จุดเปลี่ยนทางประวัติศาสตร์ ซึ่งละครได้ถ่ายทอดออกมาได้อย่างดีเยี่ยม ไม่ทิ้งตัวละครหลักสำคัญๆ ออกไป แม้สักคนเดียว 

    โดยเฉพาะ ชะตากรรมตกอับ ของ “ท้าวทองกีบม้า” หรือ มารี กีมาร์ หลัง “พระยาวิไชเยนทร์” ผู้เป็นสามี ถูกตัดสินประหารชีวิต ก็เป็นฉากที่เรียกความสงสารจากคนดูได้อย่างดี หรือจะเป็นเรื่องราวของ ของ “พระปีย์” ที่จบชีวิต โดยการถูกฆ่าอย่างน่าอนาถ ก็ตาม 

    ฉากฟิน ละครพรหมลิขิต กรี๊ดขำสนั่นเมือง 

    ขณะ ความสนุก สีสันของตัวละคร ที่มาจากทั้งตัวละครหลัก และบ่าวในเรือน ยังคงมาครบแก๊ง เช่น ฉากเชียร์แม่การะเกดคลอดลูก, ฉากแม่นายออกกำลังกายบนลู่วิ่งประดิษฐ์ และชวนพาบ่าว 2 คน เต้นลดหน้าท้อง หรือจะเป็นฉากรักแบบโรแมนติก ปนขำ ของพี่หมื่นกับการะเกด ก็ยังฟินจิกขาไม่ต่างจากภาคแรก ไม่ว่าจะเป็น ซีนคุณพี่ไม่ทำการบ้าน, ซีนจุ๊บปิดปาก จนเรียกเสียงกรี๊ดคนดูได้ทั้งประเทศ จนเกิดคำแซว “แม่การะเกด รุกหนักมาก” 

    บ้างบอก นี่เป็นละครที่มาฮีลใจคนดูได้ดี ในรอบหลายๆ เดือน, ประทับใจมาก สมการรอคอยนานหลายปี, ดังห้างแตก รอ 5 ปี สมการรอคอย ตอนแรกก็สมบูรณ์แบบแล้วจริงๆ ค่ะ คิดถึงโป๊ป ชอบโป๊ปเล่นละครที่สุดจริงๆ, วันแรกก็พาขำจนปวดท้อง, ความฟิตเนส ขำลั่นเลย, วันแรก ก็ฮากระจายแล้วว สมการรอคอย, สมกับที่รอคอยมากค่ะ ขอชื่นชมนักแสดงทั้งทีมงาน ฯลฯ

    เรียกได้ว่า ถ้าทีมงานได้ผ่านมาอ่าน ก็คงหายเหนื่อย จากจุดเริ่มต้น การถ่ายทำ ฟิตติ้งนักแสดง 30 กันยายน ปี 2564 และทำพิธีบวงสรวงเปิดกล้องเมื่อ 4 พฤศจิกายน ปี 2564 ผู้กำกับละคร เคยออกมาให้สัมภาษณ์ต่อสื่อว่า มีความท้าทาย สำหรับการสร้าง ละครเรื่อง พรหมลิขิต ทั้งความคาดหวังของคนชม และการถ่ายทำ ยังต้องหยุดเป็นพักๆ เนื่องด้วยสถานการณ์โรคโควิด-19

    สำหรับตารางออกอากาศ ของละครพรหมลิขิตนั้น เริ่ม พุธ 18 ต.ค./ พฤหัสบดี 19 ต.ค./พุธ 25 ต.ค./พฤหัสบดี 26 ต.ค./จันทร์ 30 ต.ค./อังคาร 31 ต.ค./ขณะ เดือน พ.ย. เริ่ม พุธ ที่ 1 พ.ย./จันทร์ 6 พ.ย./อังคาร 7 พ.ย./พุธ 8 พ.ย. และ ออกอากาศ ทุกวันจันทร์ ถึง พุธ ตลอดช่วงเดือน พ.ย.

    คาด ละครฟอร์มยักษ์ หนุนรายได้โฆษณาช่อง 3

    อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าจับตา ต่อการกลับมา ของละครดัง ฟอร์มยักษ์ “พรหมลิขิต” ก็คือ การช่อง 3 หรือ บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) ได้คาดหวังไว้ ว่า ละครเรื่องนี้ จะเป็นส่วนผลักดันสำคัญ ทางรายได้ของช่อง 3 ปีนี้ ด้วยเลขการเติบโต 2 หลัก ต่อเนื่องจาก กระแสบวก จาก ละครเรื่อง “หมอหลวง” ในช่วงไตรมาสที่ 2 ที่สามารถทำเรตติ้งเฉลี่ย 6.7-6.8 และมีความนิยมสูง นำมาซึ่งรายได้อื่นๆ รวมถึงรายได้จากแพลตฟอร์มอื่นๆ ด้วย 

    ซึ่งนอกจาก พรหมลิขิต ที่เริ่มออนแอร์ ต้นเดือนตุลาคม พบช่อง 3 ยังคาดหวังรายได้จาก เกมรักทรยศ ว่าจะทำเรตติ้งและเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้ภาพรวมรายได้ทั้งปีกลับมาโตตามแผนที่วางไว้ จากเม็ดเงินโฆษณา ภายใต้ช่อง 3 ประกาศเดินหน้าสู่ความเป็น Total Entertainment Company ในการเป็นผู้นำด้านการผลิตคอนเทนต์ ที่ไม่ได้ ลงทุนผลิตคอนเทนต์เพียงครั้งเดียว แต่สามารถหารายได้หลายแพลตฟอร์มและหลายช่องทาง และส่งขายต่างประเทศ โดยปีนี้ เผยว่า ยังคงใช้งบ 2,000-3,000 ล้านบาท เท่าปีก่อนๆ สำหรับผลิตละครกว่า 25 เรื่อง

    เจาะการประกาศงบของ บีอีซี เวิลด์ จํากัด (มหาชน) ณ สิ้นไตรมาส 2 เริ่มมีสัญญาณบวก โดยมีผลกําไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัท อยู่ที่ 74.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,901% จากไตรมาสที่ 1/2566 โดยแจงว่า เป็นผลมาจากเม็ดเงินโฆษณาในสื่อโทรทัศน์ ที่มีการทยอยฟื้นตัวแบบค่อยเป็น และบริษัทมีรายได้จากธุรกิจการจัดจําหน่ายละครไปต่างประเทศ มากกว่า 125 ล้านบาท สัดส่วน 10.4% ของรายได้ทั้งหมดในกลุ่ม BEC 

    ขณะ ช่วงที่ผ่านมา เริ่มเห็นบริษัทข้ามชาติต่างๆ หรือ แบรนด์ข้ามชาติที่เป็นผู้ใช้เม็ดเงินโฆษณาหลักๆ ในอุตสาหกรรม เริ่มกลับมาลงทุนและใช้จ่ายเม็ดเงินโฆษณามากกว่าช่วงต้นปี 

    BEC กับกลยุทธ์ พาละครช่อง 3 ไปต่างประเทศ 

    ทั้งนี้ รายได้จากการขายเวลาโฆษณาของกลุ่ม BEC ในไตรมาสที่ 2/2566 อยู่ที่ 1,071.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 164.5 ล้านบาทหรือ 18.1% จากไตรมาสที่ 1/2566 ที่ 907.3 ล้านบาท แต่ลดลง 107.6 ล้านบาทหรือ 9.1% จากไตรมาสที่ 2/2565 ที่ 1,179.4 ล้านบาท 

    โดยการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายเวลาโฆษณาในไตรมาสที่ 2/2566 จากไตรมาสที่ 1/2566 นั้น เป็นไปใน ทิศทางเดียวกันกับที่ นีลเส็น มีเดียเผยมูลค่าประมาณการเม็ดเงินโฆษณารวมของกลุ่มโทรทัศน์ จากการ ขยายตัวของภาคการท่องเที่ยวและการบริโภคภาคเอกชน ที่ส่งผลให้ผู้ใช้โฆษณา ใช้งบโฆษณามากขึ้นกว่าช่วงก่อนหน้า  

    ขณะ รายได้จากธุรกิจการขายลิขสทธิ์ละครไปต่างประเทศ ในไตรมาสที่ 2/2566 อยู่ที่ 49.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.8 ล้านบาท 

    โดยที่น่าจับตามอง ก็คือ แผนการขายลิขสทธิ์ละครไปต่างประเทศในปีนี้ของช่อง 3 ที่ส่วนใหญ่จะอยู่ในครึ่งปีหลัง รวมไปถึง การจัดจําหน่ายละครในพอร์ต ไปยังประเทศที่เป็นลูกค้าเดิม ที่มีฐานผู้ชมละครของช่อง 3 อยู่แล้ว ยังได้มีเป้าหมายในการบุกขยายตลาดในประเทศใหม่ๆ มาก จากละครดังๆ ได้แก่ 

    • พรหมลิขิต
    • หมอหลวง
    • แค้น
    • สืบลับหมอระบาด 
    • มาตาลดา
    • กรงดอกสร้อย 
    • จนกว่าจะได้รักกัน 
    • นางนาค 

    Author

    กองบรรณาธิการ

    กองบรรณาธิการ