5 แฟรนไชส์ยอดฮิต ปี 2566 ที่ใครๆ ก็อยากเป็นเจ้าของ

Business & Marketing

Marketing & Trends

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

5 แฟรนไชส์ยอดฮิต ปี 2566 ที่ใครๆ ก็อยากเป็นเจ้าของ

Date Time: 14 ส.ค. 2566 10:21 น.

Video

กลาง ธ.ค.ลุ้น! ฝนถล่มภาคใต้รอบใหม่ น้ำลดรอบนี้ต้องรีบทำอะไร? | Thairath Money Night Stand EP.26

Summary

หากคุณเป็นคนที่ต้องการจะทำธุรกิจ แต่ยังไม่รู้จะทำอะไรดี หรือ พูดกันง่ายๆ คือ จะขายอะไรให้โดนใจผู้บริโภค ดังนั้นการเริ่มต้นธุรกิจที่มาพร้อมกับแบรนด์และโมเดลที่เป็นที่ยอมรับ หรือที่เรียกว่า การลงทุนใน “ธุรกิจแฟรนไชส์” ก็นับเป็นทางเลือกหนึ่งที่ได้รับความนิยมและน่าลงทุนอยู่ไม่น้อย

Latest


เพราะนอกจากจะไม่ต้องคิดคอนเซปต์แบรนด์ให้มากความแล้วนั้น การเป็นที่รู้จักในตลาด และคุ้นหูคุ้นตาของผู้บริโภคก็เหมือนจะเป็นดับเบิ้ลโชคหลายชั้นเลยก็ว่าได้ แต่ก็นั่นแหละภายใต้ “โชค” ที่จะได้มาก็ต้องเจอกับ “ความเสี่ยง” อยู่ดี 

โคลนนิ่งธุรกิจหรือร้านค้า เพื่อเป้าหมายสู่การเติบโตทางธุรกิจ 

โดย ธุรกิจแฟรนไชส์ หากจะให้อธิบายง่ายๆ ก็คือ ธุรกิจที่เจ้าของได้ให้สิทธิผู้อื่นในการประกอบธุรกิจขายสินค้าหรือบริการได้ โดยที่ “แฟรนไชส์ซอร์” (ผู้ให้สิทธิในการประกอบธุรกิจ) ทำข้อตกลงให้บุคคลอีกคนหนึ่งที่เรียกว่า “แฟรนไชส์ซี” (ผู้รับสิทธิในการประกอบธุรกิจ) 

โดยใช้ รูปแบบ ขั้นตอน รวมไปถึงสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาของตนหรือที่แฟรนไชส์ซอร์ มีสิทธิที่จะให้ผู้อื่นใช้เพื่อประกอบธุรกิจภายในระยะเวลา หรือภายในเขตพื้นที่ที่กำหนด ซึ่งการประกอบธุรกิจนั้นจะอยู่ภายใต้การส่งเสริม และควบคุมตามแผนการดำเนินธุรกิจของแฟรนไชส์ซอร์ โดยที่แฟรนไชส์ซีมีหน้าที่ต้องจ่ายค่าตอบแทนแก่แฟรนไชส์ซอร์นั่นเอง

  • เจ้าของแฟรนไชส์ (Franchisor) เจ้าของแฟรนไชส์ หรือ แฟรนไชส์ซอร์ คือผู้ให้สิทธิในการประกอบธุรกิจกับผู้ที่จะมาขอซื้อแฟรนไชส์

  • ผู้ลงทุนแฟรนไชส์ (Franchisee) ผู้ลงทุนแฟรนไชส์ หรือ แฟรนไชส์ซี คือผู้รับสิทธิในการประกอบธุรกิจ ซึ่งจะเป็นผู้ที่ไปขอซื้อแฟรนไชส์จากเจ้าของแฟรนส์

ดังนั้น ธุรกิจแฟรนไชส์ จะเหมือนการโคลนนิ่งธุรกิจหรือร้านค้า เพื่อที่จะขยายตลาดให้เติบโต แต่อยู่ภายใต้ข้อกำหนดที่แฟรนไชส์ซอร์กำหนดเอาไว้นั่นเอง แน่นอนว่าของฟรีไม่มีในโลก ภายใต้การดำเนินธุรกิจต่างๆ จะตามมาด้วยสัญญา และค่าใช้จ่ายนั่นเอง 

ทั้งนี้ในช่วงปี 2565 ธุรกิจแฟรนไชส์ สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้ประเทศไทยเพิ่มขึ้นทุกปีเฉลี่ยร้อยละ 20 ต่อปี ในช่วงปี 2565 มูลค่าธุรกิจแฟรนไชส์ประมาณ 300,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10-15% เมื่อเทียบกับปี 2564 ที่มีมูลค่าประมาณ 280,000-300,000 ล้านบาท โดยหมวดหมู่ธุรกิจแฟรนไชส์ที่มีจำนวนสูงสุด 6 อันดับแรก ได้แก่ อันดับ 1 เครื่องดื่ม 24.68%, อันดับ 2 อาหาร 23.58%, อันดับ 3 การศึกษา 16.35%, อันดับ 4 บริการ 8.81%, อันดับ 5 เบเกอรี่ 8.33% และอันดับ 6 ค้าปลีก 6.57% - 

สำหรับเทรนด์แฟรนไชส์ที่คาดว่าจะมาแรงและได้รับความนิยมในปี 2566 จะเป็นในส่วนของแฟรนไชส์อาหารและเครื่องดื่มที่ยังคงมาแรง โดยมีสัดส่วนมากกว่า 50-60% ตามมาด้วยแฟรนไชส์บริการ ขนส่ง สะดวกซัก ค้าปลีก ความงาม สปา รวมถึงแฟรนไชส์ด้านการศึกษาด้วยเช่นกัน

5 แฟรนไชส์ยอดฮิต ปี 2566

สำหรับแฟรนไชส์ยอดนิยมในปี 2566 ควรเน้นไปที่การตอบโจทย์ความสะดวกให้กับลูกค้าซึ่งธุรกิจบริการมีหลายแฟรนไชส์ที่น่าสนใจ ได้แก่ 

1. เดอะ เลตเตอร์ โพสต์ เซอร์วิส แฟรนไชส์ธุรกิจร้านสารพัดบริการทั้งด้านขนส่ง การชำระเงินค่าสินค้า บริการขอสินเชื่อ ฯลฯ ค่าแฟรนไชส์ในการลงทุนเพียง 1,990 บาท โดยมีรูปแบบการลงทุนให้เลือกหลากหลาย 

2. ควิกวอช ธุรกิจแฟรนไชส์บริการล้างรถอัตโนมัติ เลือกรูปแบบการลงทุนได้ตามต้องการ ถือเป็นแฟรนไชส์ยอดฮิต งบในการลงทุนเริ่มต้นที่ 2.7 ล้านบาท

3. ชิปป๊อป แฟรนไชส์ธุรกิจขนส่งพัสดุที่กำลังมาแรงในยุค E-Commerce เริ่มต้นลงทุนเพียงแค่ 1,850 บาท

4. ไจแอ้นลูกชิ้นปลาระเบิด แฟรนไชส์อันดับ 1 ในวงการลูกชิ้น งบในการลงทุนเริ่มต้น 3,000 บาท

5. 24 Wash แฟรนไชส์ร้านสะดวกซัก ลงทุนเริ่มต้นเพียง 1,990,000 บาท

เคล็ดลับการเลือกแฟรนไชส์

1. เลือกจากความชอบและความถนัดของตัวเอง

2. เช็กความต้องการของตลาด

3. ดูงบประมาณในการลงทุน

4. ดูว่าธุรกิจจะคืนทุนเมื่อไร 

5. หาจุดเด่น-ด้อยของแบรนด์ 

6. ศึกษาข้อจำกัดของสัญญาและค่าธรรมเนียมของแฟรนไชส์

7. เปรียบเทียบแบรนด์ในกลุ่มเซกเตอร์เดียวกัน

8. ศึกษาทำเลที่ตั้ง

9. ทำความเข้าใจลักษณะกลุ่มลูกค้า และพฤติกรรมลูกค้า

10. ศึกษาตลาดไว้เป็นความรู้เบื้องต้น 


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ