เปิดเส้นทางซีพีเอฟ ร่วมพัฒนาเศรษฐกิจอินเดีย

Business & Marketing

Marketing & Trends

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

เปิดเส้นทางซีพีเอฟ ร่วมพัฒนาเศรษฐกิจอินเดีย

Date Time: 2 พ.ค. 2566 05:30 น.

Summary

เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) และกลุ่มบริษัทเจริญโภคภัณฑ์อาหาร (ซีพีเอฟ) มีปรัชญา “3 ประโยชน์” เป็นหลักการพื้นฐานในการดำเนินธุรกิจ

Latest

“MELAND” สยามพารากอน สวนสนุกในร่มแห่งแรกนอกจีน แลนด์มาร์กใหม่ งบลงทุน 400 ล้าน ค่าเข้าหลักพันบาท

เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) และกลุ่มบริษัทเจริญโภคภัณฑ์อาหาร (ซีพีเอฟ) มีปรัชญา “3 ประโยชน์” เป็นหลักการพื้นฐานในการดำเนินธุรกิจ

กล่าวคือ ธุรกิจที่ทำ ต้องก่อให้เกิดประโยชน์ ต่อประเทศ ที่เข้าไปลงทุน ต่อประชาชนในประเทศนั้น อันจะส่งผลให้ก่อประโยชน์ต่อองค์กรตามมา ดังปรากฏผลแล้วในหลายๆประเทศที่ซีพี-ซีพีเอฟเข้าไปลงทุน

“อินเดีย” เป็นอีกหนึ่งประเทศที่ซีพีเอฟภาคภูมิใจด้วยตลอดระยะเวลา 3 ทศวรรษที่ผ่านมา (1993-2023) บริษัทมีส่วนร่วมในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศอินเดียอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ธุรกิจสัตว์น้ำ” ที่มี
จุดเริ่มต้นจากการเยือนประเทศไทยของอดีตนายกรัฐมนตรีอินเดีย P.V. Narasimha Rao ในปี 1992 ซึ่งได้เชื้อเชิญให้เครือเจริญโภคภัณฑ์ เข้าลงทุนในประเทศอินเดียด้วยเป้าประสงค์ 2 ประการคือ

1.) ต้องการพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิต “อาหารสัตว์น้ำ” ในอินเดียให้เข้าสู่มาตรการสากล โดยใช้วัตถุดิบในประเทศเป็นหลัก เพื่อให้เกษตรกรชาวอินเดียมีอาหารสัตว์น้ำที่มีคุณภาพใช้ในการประกอบอาชีพต่อไป

2.) ต้องการ “องค์ความรู้” ด้านเทคโนโลยีการเพาะเลี้ยง “กุ้ง” เพื่อให้เกิดความก้าวหน้าในอุตสาหกรรมสัตว์น้ำ ซึ่งในที่สุดเครือเจริญโภคภัณฑ์และซีพีเอฟก็เป็นหนึ่งในฟันเฟืองสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนให้อินเดียกลายเป็นผู้ส่งออกกุ้งรายใหญ่ ระดับ Top 3 ของโลกในปัจจุบัน

การลงทุนในประเทศอินเดียของซีพีเอฟ เริ่มต้นขึ้นด้วย “ธุรกิจสัตว์น้ำ” โดยประธาน “ธนินท์ เจียรวนนท์” ประธานอาวุโสเครือเจริญโภคภัณฑ์ มอบหมายให้ ดร.ชิงชัย โลหะวัฒนะกุล และ ดร.พงษ์ วิเศษไพฑูรย์ นำทีมเข้าบุกเบิกธุรกิจในปี 1993

ด้วยรูปแบบธุรกิจครบวงจร ครอบคลุมตั้งแต่การผลิตอาหารสัตว์ การพัฒนาเทคโนโลยีการเพาะเลี้ยงไปจนถึงการผลิตเป็นอาหารมนุษย์ (Feed-Farm-Food) ก่อนขยายการลงทุนไปยัง “ธุรกิจสัตว์บก” ในเวลาต่อมา

บนเส้นทางการบุกเบิกธุรกิจของบริษัทต่างชาติในดินแดนต่างถิ่นมิได้ราบรื่นง่ายดาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในประเทศอินเดียที่มีอุปสรรคและข้อจำกัดบางประการ อันเป็นลักษณะเฉพาะสำหรับประเทศที่มีสัดส่วนจำนวนประชากรกับทรัพยากรภายในประเทศที่ไม่สอดคล้องกัน

เช่น “พลังงานไฟฟ้า” หนึ่งในทรัพยากรที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนภายในประเทศ ขณะเดียวกันก็มีความสำคัญอย่างยิ่งยวดต่อการดำเนินธุรกิจของภาคอุตสาหกรรม ซึ่งกรณีนี้ภาครัฐของประเทศอินเดีย ได้แสดงบทบาทสะท้อนถึงการส่งเสริมและให้ความสำคัญต่อภาคอุตสาหกรรมและการลงทุนภายในประเทศ โดยดำเนินการจัดหาและจัดสรรทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดได้อย่างเหมาะสม

นอกเหนือจากการได้รับการสนับสนุนเชิงนโยบายที่ส่งเสริมการลงทุนของภาครัฐประเทศอินเดียแล้ว “สถานเอกอัครราชทูตไทยและสถานกงสุลใหญ่ไทยในประเทศอินเดีย” ในฐานะตัวแทนภาครัฐบาลไทย เป็นอีกหนึ่งในปัจจัยเสริมสำคัญที่สนับสนุนความสำเร็จและการก้าวข้ามอุปสรรค ตลอดเส้นทางการดำเนินธุรกิจสัตว์น้ำในประเทศอินเดียของซีพีเอฟ

โดยแสดงบทบาทเชิงสัญลักษณ์ที่สำคัญในการ เป็นตัวแทนประเทศไทย อยู่เคียงข้างและพร้อมให้การ สนับสนุนแก่ผู้ประกอบกา ไทยที่มาลงทุน และดำเนินกิจการอยู่ในประเทศอินเดียด้วยดีเรื่อยมาเช่นเดียวกันกับบริษัท/ผู้ประกอบการไทยรายอื่นๆในประเทศอินเดีย

เครือเจริญโภคภัณฑ์และซีพีเอฟเป็นหนึ่งในหลายบริษัทที่ได้รับการดูแลและสนับสนุนอย่างดียิ่ง จากสถานเอกอัครราชทูตไทยและสถานกงสุลใหญ่ไทย ล่าสุด นายนิธิรุจน์ โผนประเสริฐ กงสุลใหญ่ ณ เมืองเจนไน ได้นำคณะผู้บริหารของบริษัท เข้าพบ Dr.Jawahar Reddy, Chief Secretariat (ปลัดสำนักมุขมนตรี หรือเทียบเท่าปลัดกระทรวงมหาดไทย) ณ เมืองวิเจยาวารา รัฐอานธรประเทศ เมื่อวันที่ 15 ก.พ. 2023 เพื่อหารือประเด็นการใช้พลังงานไฟฟ้าของโรงงานผลิตอาหารสัตว์น้ำ สาขาเมืองราชมันดี โดยได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี สะท้อนให้เห็นบทบาทภาครัฐของอินเดียที่ให้ความสำคัญต่อผู้ประกอบการต่างชาติด้วยดีเสมอมา

ปัจจุบัน ธุรกิจสัตว์น้ำของ CPF India มีโรงงานผลิตอาหารสัตว์น้ำและเวชภัณฑ์สัตว์น้ำจำนวน 4 แห่ง ตั้งอยู่ใน 4 เมืองทางตอนใต้ของประเทศ ได้แก่ เมือง Chennai, เมือง Viziana garam, เมือง Bhimavaram และเมือง Rajahmundry

นอกจากนี้ยังมี โรงงานผลิตเวชภัณฑ์สัตว์น้ำ จำนวน 1 แห่ง และโรงเพาะฟักลูกพันธุ์กุ้ง จำนวน 9 แห่ง โดยว่าจ้างพนักงานประจำซึ่งเป็นคนท้องถิ่น จำนวน 1,870 คน!!!

เจริญสุข ลิมป์บรรจงกิจ

(ภาพประกอบจาก : https://www.wearecp.com/)


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ