
“แน่นอนการเปลี่ยนแปลงทุกครั้งต้องโดนคนด่า ก็ไม่เป็นไร เรารู้ว่าทำอะไรอยู่” สุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย กล่าวประโยคนี้ขณะให้สัมภาษณ์กับรายการ Thairath Talk ซึ่งไม่ใช่คำพูดที่แสดงความน้อยใจ แต่เป็นการยอมรับในพันธะหน้าที่ที่มีต่อองค์กร ที่มีต่อหน้าที่ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย หน้าที่เพื่อประชาชน บทสัมภาษณ์ที่ทำให้เรารู้จักตัวตนของผู้บริหารที่มีวิสัยทัศน์ไม่หยุดนิ่งต่อความเดือดร้อนของผู้ใช้รถใช้ถนน พร้อมปรับองค์กรอายุครึ่งศตวรรษก้าวเดินล้อไปกับนวัตกรรมของยุคดิจิทัลได้อย่างแนบเนียน
Thairath Talk : ภารกิจหลักในการเลือกเส้นทางของการทางพิเศษ เรามีเกณฑ์อะไรในการเลือกก่อสร้างทางพิเศษ
สุรเชษฐ์ : การทางพิเศษแห่งประเทศไทยเป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ หน้าที่คือทำธุรกิจ มีปริมาณรถพอเพียงที่จะลงทุนแล้วไม่ขาดทุน เพราะฉะนั้นเส้นทางที่อยู่ในเมืองและมีการจราจรติดขัดมาก การทางพิเศษแห่งประเทศไทยจะเข้าไปมีบทบาทเพื่อแก้ปัญหาให้กับประชาชน โดยเน้นเรื่องของผลตอบแทนทางเศรษฐกิจด้วยครับว่าต้องดี
โครงการที่เราอยู่ระหว่างดำเนินการ คือ ทางพิเศษสายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกด้านตะวันตก เราเริ่มก่อสร้างในทุกสัญญาให้ทันต้นปี 2565 ที่ผ่านมา แต่เราก็พยายามบริหารจัดการให้ทั้ง 4 สัญญาไม่เป็นทางด่วนฟันหลอ พยายามขยับช่องว่างของระยะเวลาจาก 2 ปีที่ตั้งไว้ จะบีบระยะเวลาก่อสร้างให้สั้นลงเหลือ 6 เดือน และคาดว่าภายในปี 2567 ประชาชนที่จะเดินทางจากกรุงเทพฯ ออกไปถนนพระราม 2 ถนนสาย 35 เพชรเกษม จะได้ใช้เส้นทางนี้
Thairath Talk : เมื่อหลายเดือนที่ผ่านมา มีเหตุการณ์อุบัติเหตุสะพานกลับรถบนถนนพระราม 2 ถล่ม ค่อนข้างสะเทือนขวัญประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนเป็นอย่างมาก สำหรับการทางพิเศษแห่งประเทศไทยมีมาตรการความปลอดภัย และแนวปฏิบัติการจัดการสถานที่โครงการก่อสร้างอย่างไรบ้าง
สุรเชษฐ์ : สำหรับงานของการทางพิเศษแห่งประเทศไทยเรามีกระบวนการคัดเลือกผู้รับเหมา เราคัดเลือกที่มีประสบการณ์ในการสร้างทางบนถนนที่มีการจราจรติดขัด จะเห็นได้ว่าการก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่โดยหลักการต้องปิดถนน เราก็ไม่ปิด ป้องกันความเดือดร้อนของประชาชน เราเลือกปิดแค่เลนครึ่งแล้วก็ก่อสร้างไป
ดังนั้นเรื่องมาตรการป้องกันความปลอดภัย และกระบวนการตรวจสอบความปลอดภัยเราเข้มข้นมาก ทำให้ค่าก่อสร้างของโครงการการทางพิเศษค่อนข้างจะแพง อัตราการเกิดอุบัติเหตุของการทางพิเศษ ณ ปัจจุบันมีบ้าง แต่หากเทียบกับ fatality (ผู้เสียชีวิต) ปัจจุบันเราไม่มีนะครับ อัตราของเราเป็นศูนย์ ตลอด 7 ล้านชั่วโมงของการทำงานไม่มีเลยครับ เพราะว่าเราคัดคนที่มีคุณภาพมาทำงานกับเรา
แต่หากสมมติว่าเกิดขึ้นจริง เรามีผู้รับเหมาที่มีประสบการณ์ในการทำงาน เรามีผู้บริหารโครงการที่เชี่ยวชาญในการบริหารโครงการขนาดใหญ่ เรามีมาตรการดูแลความปลอดภัยในการก่อสร้างและตอบสนองต่อเหตุการณ์ฉุกเฉิน เพราะฉะนั้นเรามีการซ้อมกันตลอด ดังนั้นเราจึงมั่นใจต่อการตอบสนองต่อเหตุฉุกเฉินและการแก้ปัญหาที่หน้างานทำได้ครับ ในเวลาไม่เกิน 24 ชั่วโมงก็จบ
Thairath Talk : มีช่องทางติดต่อสำหรับประชาชนไหมครับ
เราก็มี EXAT Call Center 1543 บริการตลอด 24 ชั่วโมง และช่องทางออนไลน์ facebook.com/ExpresswayThailand และ EXAT Portal Application เรามีช่องทางที่สามารถติดต่อได้ทุกช่องทาง และทุกโครงการก่อสร้าง เรามีเจ้าหน้าที่โครงการประจำ 24 ชั่วโมงเช่นเดียวกัน ทั้งเจ้าหน้าที่ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย เจ้าหน้าที่ของบริษัทที่ปรึกษา และเจ้าหน้าที่ของบริษัทผู้รับเหมา
สุรเชษฐ์ : การทางพิเศษไม่เคยปฏิเสธเรื่องการเปลี่ยนแปลงนะครับ เพราะฉะนั้นเราเอาเรื่องของดิจิทัลมาใช้ ปี 2553 เริ่มมีการใช้โครงการเติมเงินบัตร Easy Pass การชำระค่าผ่านทางพิเศษอัตโนมัติ ทางการพิเศษโดยด่าเต็มเลยครับ (ยิ้ม) ทั้งปัญหาไม่โชว์ยอดเงิน ไม้กั้นไม่ยก แต่เราไม่เคยกลัว เพราะแน่นอนการเปลี่ยนแปลงทุกครั้งต้องโดนคนด่า ก็ไม่เป็นไร เรารู้ว่าทำอะไรอยู่ ก็โดนมาเกือบ 2 ปีก็เริ่มอยู่ตัว (หัวเราะ) โครงการเริ่มนิ่งแล้ว และคนเริ่มเข้าใจ
พอประมาณปี 2563 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ‘ศักดิ์สยาม ชิดชอบ’ มีความกังวลเรื่องไม้กั้น Easy Pass บางครั้งก็ไม่ยก ท่านจึงบอกมาว่า จะเป็นไปได้ไหมถ้าไม่มีไม้กั้น จึงเกิดเป็นเทคโนโลยี M-Flow ประชาชนไม่ต้องเตรียมเงินมาเพื่อเป็นค่าผ่านทางแล้ว กรมทางหลวงและการทางพิเศษแห่งประเทศไทยจะเก็บเงินให้
โดยปกติบัตร Easy Pass จะมี OBU หรือ Tag ทำหน้าที่สื่อสารกับเสาอากาศในช่องเก็บค่าผ่านทางอัตโนมัติเพื่ออ่านค่าพร้อมตัดยอดเงินในบัญชีของผู้ใช้บริการตามอัตราค่าผ่านทาง หลังจากนั้นไม้กั้นก็จะเปิดทางให้เดินทางต่อ แต่หลังจากนี้ไม่ต้องแล้ว เครื่องจะไม่อ่านที่ OBU อีกต่อไป แต่จะไปอ่านที่ป้ายทะเบียนรถแทน เดี๋ยวจะตามไปเก็บเงินเอง
เราตั้งเป้าหมายไว้ว่า ภายในปี 2565 -2570 จะเปลี่ยนเป็น M-Flow 100% ซึ่งแน่นอนว่าช่วงแรกการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี มีคนไม่เข้าใจ ก็โดนต่อว่ามาพอสมควร ตามที่เห็นข่าวอยู่ครับ
สุรเชษฐ์ : การทางพิเศษแห่งประเทศไทยได้ออกแคมเปญใหม่เรียกว่าเป็นโครงการ Easy Pass Plus หรือ Easy Pass Plus M-Flow หนึ่งบัตรใช้ได้ทั้ง Easy Pass และ M-Flow แค่ต้องมาอัปเดตทะเบียนรถกับการทางพิเศษแห่งประเทศไทยก่อน เพื่อต้องการทราบว่าบัตรใบนี้ใช้กับทะเบียนรถอะไร พอคุณเป็นสมาชิกของ Easy Pass Plus แล้ว จะสามารถวิ่งผ่านด่านเก็บเงินของทั้ง Easy Pass และ M-Flow ได้หมด
สมัครบัตร Easy Pass Plus ได้ฟรี มีสิทธิ์ลุ้นรางวัลด้วยครับ เพราะในก้อน OBU จะมีหมายเลข 19 หลัก โดยเลข 6 หลักสุดท้าย สามารถลุ้นรางวัล หากเลขตรงกับสลากกินแบ่งรัฐบาลงวด 30 ธันวาคม 2565 รางวัลที่ 1 มีสิทธิ์ขึ้นทางด่วนฟรี 3 ปี ย้ำทุกคนครับว่า สามารถสมัครได้ฟรีตั้งแต่วันนี้จนถึงสิ้นปี 2565 ก็อยากให้มาใช้ Easy Pass Plus กันเยอะๆ ครับ