หนี้สิบล้าน แรงผลัก Rosegold พันล้าน พายุคำด่า "เราใช้ความจริงใจทำธุรกิจ" Rosegold Thailand

Business & Marketing

Marketing & Trends

Content Partnership

Content Partnership

Tag

หนี้สิบล้าน แรงผลัก Rosegold พันล้าน พายุคำด่า "เราใช้ความจริงใจทำธุรกิจ" Rosegold Thailand

Date Time: 29 เม.ย. 2565 06:00 น.
Content Partnership

Summary

  • พูดคุย แวววรรณ และ ธันย์ธานิท กันต์นันท์ธร เจ้าของ Rosegold Thailand Group กว่าจะเป็นธุรกิจพันล้าน วิกฤติคำด่า แชร์ลูกโซ่ ขายฝัน ขี้อวด ตอบทุกคำถามใน Thairath Talk

"เด็กสมัยนี้ไม่ธรรมดา" เราได้ยินประโยคชื่นชมแบบนี้มาหลายครั้ง แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจมากนัก จนเราได้มาพูดคุยกับคู่สามีภรรยา แวววรรณ กันต์นันท์ธร CEO Rosegold Thailand และธันย์ธานิท กันต์นันท์ธร CXO Rosegold Thailand ก็พิสูจน์แล้วว่า ทั้งคู่คือเด็กรุ่นใหม่ที่ไม่ธรรมดา ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย มีจุดหมายชีวิตชัดเจน กล้าเผชิญปัญหาครอบครัวอย่างไม่ย่อท้อ

เราอยากให้คุณเสพความสำเร็จของคู่รักอายุน้อยคู่นี้ให้ดี ฟังแล้วเหมือนง่าย แต่ลองจินตนาการตาม กว่าเขาจะผ่านมาถึงวันนี้ ต้องแลกด้วยประสบการณ์ชีวิตวัยรุ่น ชื่นชมหลักธุรกิจ Make It Simple ที่สร้างรายได้ไม่ Simple และคำครหาที่เขาต้องผ่านมันไปให้ได้ 

กว่าจะเป็น Rosegold Thailand

Thairath Talk : Rosegold คืออะไร

วาวน้ำ CEO Rosegold Thailand : ต้องย้อนไปจุดเริ่มต้นก่อนที่มี Rosegold ตอนนั้นวาวอายุ 13-14 ปี วาวเป็นแค่เด็กคนหนึ่งที่เจอสิ่งรอบข้างผลักดันให้ทำเช่นนี้ มันก็ต้องมีสาเหตุค่ะที่วัยรุ่นคนหนึ่งจะยอมทิ้งชีวิตวัยของตัวเองออกมา คือวาวยอมที่จะไม่เรียนมัธยม 3 ถึง มัธยม 6 เลย วาวยอมแลกกับช่วงเวลาตรงนั้น

วาวก็มองเพื่อนๆ ที่ได้ใช้ชีวิตช่วงมัธยมปลาย มันได้มากกว่าการเรียน หรือช่วงชีวิตวัยสนุกสนาน แต่เราก็ยอมที่จะออกจากโรงเรียน แล้วก็เริ่มต้นขายของ ดูว่าเรามีเงินเก็บจากอะไร มีต้นทุนจากอะไร เลยเริ่มต้นจากไปซื้อของจากสำเพ็ง ซื้อของราคาหลักสิบบาท สินค้าประเภทกิฟต์ช็อป แล้วก็เริ่มไปขายออนไลน์ เปลี่ยนสินค้าขายไปเรื่อยๆ 

จนมาอายุ 17-18 ปี เห็นเพื่อนๆ ไปเข้าเรียนมหาวิทยาลัยกัน และเราก็มีเงินเก็บที่พอจะส่งเสียตัวเองได้ เลยเอาวุฒิมัธยม 6 ไปเข้าธรรมศาสตร์ คณะวารสารศาสตร์ เรียนไปได้ 1 ปี ใช้ชีวิตเฟรชชี่ ทำกิจกรรมรับน้องสนุกสนาน แล้วกลายเป็นว่าปัญหาที่บ้านมันหนักขึ้น และได้รับรู้ว่าที่บ้านเป็นหนี้ ยิ่งไปกว่านั้นเป็นหนี้นอกระบบด้วย หนี้ที่ว่านี้มันเป็นหนี้ที่ใหญ่มาก เป็นหลักสิบล้าน 

Thairath Talk : เจ้าหนี้มาทวงหนี้อย่างไร

วาวน้ำ CEO Rosegold Thailand : ตอนแม่ไปเจรจากับเจ้าหนี้ ให้วาวรออยู่บนรถ พอแม่ขึ้นรถมา มีรอยช้ำ ผมยุ่ง และร้องไห้ มันเหมือนสิ่งที่เราเห็นในละคร ดูแล้วมันสนุก แต่พอชีวิตจริง มันไม่สนุกเลย 

จากที่วาวตั้งใจหาเงินเพื่อดูแลตัวเอง เลยเปลี่ยนความคิดว่า จะกลับมาดูแลครอบครัวอย่างไรได้ เลยลุกขึ้นมาเป็นเสาหลักครอบครัว เลยดรอปเรียนเอาไว้ กลับมาตั้งใจทำธุรกิจ ซึ่ง ณ ช่วงเวลานั้น การตัดสินใจของเราที่จะเริ่มต้นทำ Rosegold และคิดแค่ว่าจะต้องทำให้ใหญ่เลย ทำให้สำเร็จเลย เพื่อที่มันจะเป็นเหมือนเสาหลักของครอบครัวเรา

Make It Simple แต่เสนอให้ต่าง

Thairath Talk : กระแสความนิยมของ Rosegold ยอดขายสวนทางกับภาวะเศรษฐกิจมาก ทำได้อย่างไรครับ

วาวน้ำ CEO Rosegold Thailand : มันเหมือนเราติดกระดุมเม็ดแรกมากกว่า มันสำคัญที่ว่าเรามีเป้าหมายอะไร ถ้าเราคิดที่จะทำตรงนี้ จะทำแบบนี้เราก็ติดกระดุมเม็ดแรกแบบนี้ สำหรับวาว Rosegold วาวคิดตั้งแต่วันที่ไม่มีใครรู้จัก Rosegold เลยว่าเราจะต้องมีพรีเซ็นเตอร์เป็นคนนี้ในอนาคต แต่ตอนนั้นยังไม่มีตังค์ (หัวเราะ) เราวางแผนไว้ ซึ่งถ้าเราอยากมีพรีเซ็นเตอร์ระดับนี้ อยากเป็นแบรนด์ที่เป็น Top Thai เป็นที่รู้จักของคนไทยและคนเอเชีย เราคิดถึงตรงนั้น เราก็ค่อยๆ ย้อนกลับมาว่า สิ่งที่เราต้องทำคือ เราต้องทำสินค้าแบบไหนที่จะเสิร์ฟลูกค้าและจะเข้าถึงลูกค้าได้

เอาจริงๆตอนนี้เหมือนเป็นยุค 5G เป็นยุคออนไลน์ที่ทุกอย่างรวดเร็วมาก ไม่ได้อยู่ในยุคที่เราจะทำอะไรแล้วปิดบังได้ วาวเลยคิดว่า ถ้าเราทำอะไรที่ Real เข้าถึงใจลูกค้าได้มากที่สุด อันนั้นเป็นจุดขายของ Rosegold

วาวขอย้อนไปช่วงที่ Rosegold เปิดตัว เป็นตัวที่แบรนด์อาหารเสริม สกินแคร์ของไทยกำลังตกเลย กำลังเจอวิกฤติ มีข่าวว่าคนใช้ผลิตภัณฑ์ที่ซื้อทางออนไลน์ กินแล้วตาย ใช้แล้วหน้าพัง เราก็คิดแค่ว่าทำไมไม่พลิกวิกฤตินี้ให้เป็นโอกาส ด้วยการเป็นแบรนด์สีขาวออกมาสวนกระแส เน้นโปรโมตจุดนี้ เพื่อให้คนที่เจ็บช้ำให้มามองว่า Rosegold มา Rosegold คืออะไร นั่นเลยเป็นจุดเริ่มต้นที่วาวบินไปผลิตสินค้าที่เกาหลีค่ะ 

ตอนนั้น เจ้าของสกินแคร์ของไทยยังมีน้อยที่ไปทำสินค้าต่างประเทศ วาวเลยลุยไปทำเลย เราเลยเอาสินค้าที่เป็น Counter Brand มาทำในราคาที่เอื้อมถึง ไม่ถึงหลักพัน นี่เป็นจุดที่เราตีต่างตรงนี้

Thairath Talk : ทำไม Rosegold ต้องไปผลิตที่ต่างประเทศ

วาวน้ำ CEO Rosegold Thailand : Mindset การทำสินค้าของ ไม่ได้กำหนดชัดเจนว่าต้องทำที่ประเทศไหน แต่มันขึ้นอยู่กับการ Research ข้อมูลว่าเราจะทำสินค้าอะไรให้ลูกค้า เช่น เราอยากทำอาหารเสริม เราก็ต้องรู้ว่าอาหารเสริมตัวนี้มีอะไรเจ๋งๆ อยู่ที่ไหน ถ้าวาวพูดถึง Sakana Collagen X10 ที่มีคุณชมพู่ อารยา เป็นพรีเซ็นเตอร์ ตอนเริ่มทำ วาวคิดแค่ว่าเมื่อคนนึกถึงคอลลาเจน อาหารเสริม เวลาไปต่างประเทศก็จะไปหา ฝากซื้อจากประเทศไหน นี่เป็นหลักการคิดง่ายๆ Make It Simple

วาวก็มาคิดได้ว่าคนชอบอาหารเสริมที่ Made In Japan เราก็ลุยเลย เริ่มต้นด้วยการ Research ต่อว่าที่ประเทศญี่ปุ่นมีแล็บเฉพาะทางที่ไหน และมีอาหารเสริมตัวไหนน่าสนใจบ้าง หรือที่ประเทศเกาหลี สกินแคร์เป็น Top 3 ของโลก ขนาด Counter Brand ฝั่งยุโรปยังต้องย้อนมาผลิตที่เกาหลี เราก็เลยรู้สึกว่าเกาหลีเวิร์ก สินค้าที่เราผลิตที่เกาหลีจึงมีทั้งตัวครีม เจลแต้มสิว เจลล้างหน้า

แต่เอาจริงๆ วาวไม่ได้ตายตัวว่าต้องผลิตที่ประเทศไทย แต่วาวคิดว่าสินค้าที่เราจะเสิร์ฟให้ลูกค้าต้องเด่นที่ประเทศอะไร มันเลยกลายเป็น Rosegold และตอนนี้วาวกำลังจะพัฒนาสินค้าที่สหรัฐอเมริกา และโปแลนด์ด้วย

เรารวบรวมจากแหล่งที่ดีที่สุดทั่วทุกมุมโลกเอามาให้ลูกค้าคนไทย ซึ่งวาวมองว่าตรงนี้ยังไม่เคยมีใครทำ และวาวอยากจะเป็นเจ้าของคนไทยอยากทำมันได้ และมาเสิร์ฟให้กับลูกค้าคนไทยได้
วาวว่าการตลาดที่ดีที่สุดคือสินค้าค่ะ ทำอย่างไรเวลาที่เราวางสินค้าแล้วรู้สึกว่าต่าง อยากใช้ อยากซื้อซ้ำ

Thairath Talk : Rosegold มี Product Journey อย่างไร

วาวน้ำ CEO Rosegold Thailand CEO Rosegold Thailand : เรามีทีมวิจัยว่าสินค้าที่เราจะทำต่อลูกค้าต้องการอะไร สิ่งสำคัญที่สุดคือเราต้องทำให้สินค้าครองใจลูกค้าตั้งแต่แรกๆ เหมือนช่วงแรกที่แบรนด์ยังไม่เป็นที่รู้จัก ลูกค้าก็จะลองก่อนว่าแบรนด์นี้ดีไหม แล้วถ้าเขาลองใช้ไปก่อนสัก 2 ตัวแล้วรู้สึกว่ารักเลย ต่อให้เราทำอะไรออกมา เขาก็พร้อมจะซื้อเรา เพราะฉะนั้นเรื่องนี้เป็นสิ่งสำคัญที่เราจะพลาดไม่ได้

กลับมาถึงขั้นตอนการ Research เสร็จเราก็มองเห็นแล้วว่าสินค้าตัวนี้กับประเทศนี้ปัง เวิร์ก เด็ด มีจุดขายเยอะ เราก็คัดสรร Lab ที่ประเทศนั้น วาวแค่รู้สึกว่า Lab ทุกที่จะมีความเชี่ยวชาญไม่เหมือนกัน ไม่มีใครเก่งทุกเรื่อง วาวไม่ได้เลือก Lab นี้แล้วจะทำที่นี่ 100% เช่น Lab นี้เก่งสกินแคร์ ที่นั่นเก่งเรื่อง Soft Gel เราเลยต้องทำการบ้านตรงจุดนี้เยอะมาก และพอเราไปที่ Lab เราก็พัฒนากับทีม R&D (Research and Development ทีมวิจัยและพัฒนา) ของเขา พอพัฒนาสินค้าออกมาเป็นรูปเป็นร่าง เราก็นำ Tester มาให้ทำ Testimonial (ใบรับรอง) ของเรา เมื่อผ่านคำรับรอง เราก็ผลิตสินค้าออกมาจากต่างประเทศ และส่งมาที่ประเทศไทย

และสิ่งที่ Rosegold มีก็คือระบบแพ็กของ ส่งของให้กับพาร์ตเนอร์หรือตัวแทนจำหน่าย พอสินค้าส่งจากทางเครื่องบินหรือทางเรือมาถึงประเทศไทย ก็จะต้องเข้าโกดังที่เราควบคุมอุณหภูมิสินค้า เนื่องจากสินค้าเราเป็นสกินแคร์ หรืออาหารเสริม การควบคุมอุณหภูมิจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก และเราก็จะมีอีกโกดังหนึ่งเพื่อจัดการเรื่องแพ็กของส่งของตามที่ลูกค้าสั่งมา

เราจะส่งของจากโกดังควบคุมอุณหภูมิทุกๆ 3 วัน ซึ่งเราพาร์ตเนอร์กับทางขนส่งในทุกๆ แบรนด์ บอกตรงๆ ว่ากว่าจะมาเป็น Product Journey แบบนี้เราลองผิดลองถูกกันมาเยอะมาก เรารับฟังทุกคำติชมของลูกค้าในวันแรก เพราะมันทำให้เราเป็นในวันนี้

หลักธุรกิจ 'ใจสู่ใจ'

Thairath Talk : ปัจจัยอะไรที่สนับสนุนให้พาร์ตเนอร์ของ Rosegold ประสบความสำเร็จบ้าง

หนึ่ง CXO Rosegold Thailand : ก่อนที่เราจะมาเป็นเจ้าของ เราเป็นตัวแทนมาก่อนเหมือนกัน คือถ้าเราไม่ได้เป็นตัวแทนมาก่อนเราก็จะไม่เข้าใจพวกเขา ก็เหมือนกับที่คนเขาพูดกันว่า ถ้าเราจะเป็นเจ้าของกิจการ เราต้องเป็นลูกน้องมาก่อน เราถึงจะเข้าใจว่าลูกน้องต้องการอะไร พอเราเข้าใจทุกคนที่เป็นพาร์ตเนอร์ของเรา เราก็เลยออกแบบธุรกิจของเราให้ตรงใจพาร์ตเนอร์ของเราด้วย

แม้กระทั่งคำว่าพาร์ตเนอร์ เราเริ่มต้นเรียกพาร์ตเนอร์จากแนวคิดที่ว่าทำไมเราถึงเรียกเขาว่าตัวแทน ทั้งที่วันนี้เราผลิตสินค้ามาแสนชิ้น สามแสนชิ้น ห้าแสนชิ้น แล้วพาร์ตเนอร์คนนี้เขาช่วยเราขาย เขาคือพาร์ตเนอร์ เราเลยเริ่มต้นเรียกเขาว่าพาร์ตเนอร์ 

การเทรนนิ่งก็สำคัญ บางคนเข้ามาไม่รู้จะเริ่มต้นขายอย่างไร ไม่เคยขายของมาก่อนเลย ไม่รู้อะไรเลย เพราะเราเองก็เคยผ่านจุดที่ไม่รู้มาเหมือนกัน เราก็เลยออกแบบการเทรนนิ่งที่เหมาะกับเขา และเรื่องของระบบ ยิ่งแบรนด์โต ระบบยิ่งสำคัญ เริ่มแรกเราอาจจะมีพาร์ตเนอร์จำนวนหนึ่ง เข้าถึงง่ายพูดคุยกันตัวต่อตัว แต่วันหนึ่งเมื่อเราโตมากขึ้น เราก็ต้องมีระบบเพื่อดูแลพาร์ตเนอร์ให้ทั่วถึงเหมือนเดิม โดยมีระบบช่วยดูแล

Thairath Talk : พาร์ตเนอร์ของ Rosegold ได้รายได้จากอะไร

หนึ่ง CXO Rosegold Thailand : มาจากการขายปลีกและขายส่งครับ 

1. รายได้จากการขายปลีก คือพาร์ตเนอร์รับสินค้าจากเราในราคาขายส่ง แล้วเอาไปขายในราคาขายปลีก 

2. พาร์ตเนอร์รับสินค้าในราคาขายส่ง และไปขายส่งต่ออีกทีหนึ่ง 




วิกฤติคำด่า ขายฝัน แชร์ลูกโซ่

Thairath Talk : เวลาเราอยู่ในสปอตไลต์มันจะโดนกระแสวิพากษ์วิจารณ์มาก พวกคุณโดนต่อว่าเรื่องแชร์ลูกโซ่บ้าง เป็นบริษัทขายฝันบ้าง อยากอธิบายคำครหาเหล่านี้อย่างไร

หนึ่ง CXO Rosegold Thailand : บริษัท Rosegold ไม่ใช่แชร์ลูกโซ่ อธิบายคำว่าแชร์ลูกโซ่นะครับ มันคือธุรกิจที่มีสินค้าหรือไม่มีสินค้าก็ได้ และสินค้าก็อาจจะมีราคาแพงเกินจริง โดยที่สินค้าไม่ได้มีที่มาที่ไป และผลตอบแทนที่มันเว่อร์เกินจริง แต่สำหรับ Rosegold เราเป็นแบรนด์ออนไลน์ปกติที่มีการขายส่งขายปลีกปกติ และสามารถตรวจสอบได้ 

และถามว่าจริงๆ แล้วอย่างที่ผมบอก มันเป็นยุคของความรวดเร็วของข้อมูลเวลาที่ได้ยินข้อมูลมา ก็มักจะตัดสินเร็วไปนิดหนึ่ง จริงๆ แบรนด์ Rosegold ไม่ใช่ธุรกิจที่หาข้อมูลยาก ถ้าอยากจะรู้ว่าเราเป็นแชร์ลูกโซ่ไหม ขายฝันไหม เราหลอกล่อล่อลวงมาทำหรือเปล่า ซึ่งทั้งหมดสามารถสืบได้เหมือนกัน

Thairath Talk : อีกหนึ่งประเด็น คนค่อนข้างถามกันมากในโซเชียลมีเดีย ทำไมตัวแทน Rosegold ขี้อวดมาก

หนึ่ง CXO Rosegold Thailand : เข้าใจครับ (ยิ้ม) อย่างเวลาที่ผมกับวาวเลื่อน TikTok พอเห็นว่าเป็นโพสต์ของตัวแทนเรา เราก็มีความสุขไง อีกสองโพสต์ของตัวแทนเราอีก แต่ในมุมของคนอื่นอาจจะไม่ได้ชอบ เป็นการรบกวนหรือเปล่า 

ตอนแรกถ้าเราเสพข่าวตรงๆ ก็มองว่าคอนเทนต์มันแย่หรือเปล่า แต่พอเราเปิดใจดูคอนเทนต์ของพาร์ตเนอร์ มันก็เข้าใจได้ว่ารายได้ของพาร์ตเนอร์ Rosegold รายได้มาจากสองทางคือ การขายปลีกและการขายส่ง 

การขายปลีกก็ต้องอธิบายสรรพคุณของสินค้า ซึ่งถามว่าพาร์ตเนอร์ที่ขายสินค้าทาง TikTok เยอะไหม ก็มีเยอะมาก ส่วนการขายส่ง พาร์ตเนอร์เราก็ต้องโปรโมตว่าทำ Rosegold แล้วดียังไง ก็ต้องพูดถึงความสำเร็จและการขายดีของเขา ลักษณะคอนเทนต์จะเป็นประมาณนี้ แต่ปรากฏว่า Tiktok ดันเลือกให้คอนเทนต์แบบนี้ผ่านตาคนเยอะมาก เป็นเรื่องของ อัลกอริทึม เคยได้ยินคำนี้ไหมครับ 'TikTok รู้งาน' (หัวเราะ) ซึ่งถ้าเรามานั่งดูโดยถอดวิญญาณเจ้าของออก เราก็เข้าใจเขา เราเข้าใจว่ามันอาจจะไม่สบายใจ เราก็เก็บเสียงแบบนี้ไปพัฒนาพาร์ตเนอร์เรา

Thairath Talk : หลักความสำเร็จของ Rosegold Thailand คืออะไรครับ

วาวน้ำ CEO Rosegold Thailand : ณ วันนี้ วาวมีมาตลอดคือ 'ความจริง' บวก 'ใจ' กลายเป็นความจริงใจ เมื่อเราใส่ความจริงใจไปในทุกส่วนขององค์กร ภาพลักษณ์ทุกอย่างก็จะออกมาเป็นความจริงใจ ลูกค้า พาร์ตเนอร์ ก็จะเชื่อมั่นในเรา ทีมงานหลังบ้านที่เขาเห็นเรา ถ้าเรามีแต่ความจริงในวันที่เขาอยู่กับเรา เขาก็จะพูดถึงเราในทางที่เป็นเรื่องจริง 

เพราะฉะนั้นวาวเชื่อว่าเมื่อเรายึดความจริงในการทำทุกอย่างตลอดมา ต่อให้เราบอกว่าเราจริงใจ แต่ถ้าเรามองกระจก เราจะรู้ตัวเองว่าเราไม่จริง เราหลอกคนอื่นได้นะ แต่เราหลอกตัวเองไม่ได้ วาวยึดข้อนี้มาตลอด การทำธุรกิจก็มีพายุเข้ามาตลอด แต่ถ้าเรายึดความจริงเป็นหลักของการทำธุรกิจ ไม่ว่าเราจะเจอพายุแค่ไหน เจอขวานคมแค่ไหน เจอแรงฝนแค่ไหน ความจริงก็คือความจริง และความจริงนี่แหละจะกลับมาปกป้องตัวเราในทุกสถานการณ์.


Author

Content Partnership

Content Partnership