เดอะมอลล์กรุ๊ปมุ่งสู่ “ฟิวเจอร์ รีเทล”

เดอะมอลล์กรุ๊ป หลังจากรีแบรนดิ้งด้วยการพลิกโฉมศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าชานเมืองย่านงามวงศ์วานสมัยกว่า 30 ปีก่อน จากเป็นศูนย์ในเมืองที่สร้างบรรยากาศให้ผู้คนเข้ามาใช้ชีวิตได้ตลอดทั้งวันอย่างมีความสุข

ไม่จำกัดเฉพาะโลกแห่งการช็อปปิ้ง แต่การใส่ใจในบรรยากาศตบแต่งตั้งแต่ห้องน้ำที่นั่งพักผ่อนสะดวกสบาย มีปลั๊กไฟให้บริการ มีร้านอาหารให้เลือกหลากหลาย ไปจนถึงสีสันของศูนย์โดยรวมที่เติมความทันสมัยเข้าไป สร้างความรู้สึกประทับใจและบอกต่อๆกันไป นับเป็นสิ่งใหม่ที่เกิดขึ้นในธุรกิจศูนย์การค้าสมัยใหม่สลัดคราบความเป็นศูนย์เก่าโบราณออกไปอย่างสิ้นเชิง

แม้จะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาด เริ่มต้นตั้งแต่ปีที่ผ่านมาแต่ก็ได้ใช้จังหวะนี้ลงมือรีโนเวท เดอะมอลล์ ไลฟ์ สโตร์ งามวงศ์วานเพื่อเป็นการตอบโจทย์โมเดลใหม่เพื่อสร้างการเติบโตให้ธุรกิจต่อไป โดยเฉพาะกระแสของการช็อปปิ้งออนไลน์ที่นิยมกันในยุคนี้ ที่ศูนย์การค้าในรูปแบบดั้งเดิมได้รับผลกระทบมาต่อเนื่อง

ล่าสุด เป็นเครื่องยืนยันของความสำเร็จก็คือการได้รับรางวัล Retail Asia Award 2021 จำนวน 3 รางวัลด้วยกันก็คือ 1.Mall of The Year 2.Brand Transformation of The Year และ 3.Store Design of The Year จากนิตยสาร Retail Asia จากสิงคโปร์ แถมอีกหนึ่งรางวัล Supermarket of The Year จากการปรับโฉม กูร์เมต์ มาร์เก็ต สยามพารากอน

โดยในปีนี้มีผู้ประกอบการในเอเชียส่งเข้าประกวดกว่า 200 โครงการจาก 15 ประเทศในเอเชีย ได้แก่ ออสเตรเลีย, ญี่ปุ่น, จีน, ฮ่องกง, สิงคโปร์, ไทย, มาเลเซีย, อินเดีย, อินโดนีเซีย, ศรีลังกา, ฟิลิปปินส์, ปากีสถาน, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, อาเซอร์ไบจาน และอุซเบกิสถาน ซึ่งแต่ละประเทศล้วนแต่มีความโดดเด่นด้านศูนย์การค้าแทบทั้งสิ้น

“อัจฉรา อัมพุช” รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า นับเป็นการฉลองการก้าวสู่ทศวรรษที่ 4 สู่ภาพลักษณ์การเป็น “ฟิวเจอร์ รีเทล” ที่ครบครันทุกช่องทาง ภายใต้แนวคิด

“A Happy Place to Live Life :ชีวิตที่มีความสุข

ทุกครอบครัว” โดยเริ่มที่งามวงศ์วานเป็นสาขาแรก ในฐานะผู้นำธุรกิจค้าปลีก และเป็นกำลังใจสำคัญสำหรับชาวเดอะ มอลล์ทุกคน ให้มุ่งมั่น ทุ่มเท และไม่หยุดนิ่งที่จะพัฒนาธุรกิจรีเทลอย่างต่อเนื่องในทุกๆ ด้าน ทั้งในเรื่องของสินค้าและบริการ รวมถึงสถานที่ เพื่อมอบประสบการณ์ช็อปปิ้งที่ดีที่สุด ตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าให้มากที่สุด

สำหรับโรดแม็ป ยุทธศาสตร์สำหรับ

รีแบรนดิ้งของเดอะ มอลล์กรุ๊ป 5 ปีข้างหน้าซึ่งจะต้องใช้งบประมาณกว่า 20,000 ล้านบาท สำหรับท่าพระจะเป็นสาขาโฉมใหม่ต่อไปที่มีแผนจะเปิดให้บริการ วันที่ 2 ธ.ค. จะดำเนินการต่อไปภายใน 2–3 ปี รวมทั้งกูร์เมต์ มาร์เก็ต โฉมใหม่ และโซนหลัก อาทิ เพาเวอร์มอลล์, สปอร์ตมอลล์ และบิวตี้ฮอลล์

“อัจฉรา” กล่าวว่า สถานการณ์โควิดในปีนี้ส่งผลกระทบกับธุรกิจศูนย์การค้าที่ต้องปิดศูนย์เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด และยังส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ลดลงเป็นอย่างมาก ในปีนี้ต้องประคองตัวเอาไว้ก่อนและหากสถานการณ์ดีขึ้นตามลำดับ ในปีหน้าจะเห็นการฟื้นตัวและจะโหมกิจกรรมการตลาดอย่างเต็มที่ตลอดทั้งปี

“ทิศทางธุรกิจต่อไปจะต้องดูพฤติกรรมของผู้บริโภคเป็นหลัก ซึ่งปัจจุบันนิยมช็อปปิ้งออนไลน์กันมาก แต่เราจะต้องสร้างความสมดุลจะต้องทำศูนย์การค้าให้ดีก่อนและออนไลน์ตามมา ดำเนินไปควบคู่กัน แต่ทุกสิ่งทุกอย่างจะต้องทำให้ลูกค้ามีความสะดวกที่สุด และมีความสุขในการมาใช้ชีวิตและช็อปปิ้งในศูนย์การค้า”

เพื่อมอบประสบการณ์ช็อปปิ้งที่ดีที่สุด ตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าตอกย้ำการเป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกสู่ “ฟิวเจอร์ รีเทล” ต่อไป.

วานิชหนุ่ม
wanich@thairath.co.th