เจมส์ ทีก ชวนรู้จัก AstraZeneca บริษัทยาที่อยู่กับคนไทยมาเกือบ 40 ปี

Business & Marketing

Marketing & Trends

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

เจมส์ ทีก ชวนรู้จัก AstraZeneca บริษัทยาที่อยู่กับคนไทยมาเกือบ 40 ปี

Date Time: 14 ส.ค. 2564 14:59 น.

Video

จาก "รวยเงิน จนเวลา" สู่เกษียณ 35! ของพอล ภัทรพล? l Money Secret EP.13

Summary

ทำความรู้จัก "AstraZeneca" ผู้ผลิตวัคซีนโควิด-19 ที่อยู่คู่เมืองไทยมาเกือบ 40 ปี ในฐานะ ผู้คิดค้น พัฒนา และจำหน่ายยาต่างๆ

Latest


ทำความรู้จัก "AstraZeneca" ผู้ผลิตวัคซีนโควิด-19 ที่อยู่คู่เมืองไทยมาเกือบ 40 ปี ในฐานะ ผู้คิดค้น พัฒนา และจำหน่ายยาต่างๆ 

เจมส์ ทีก ประธาน บริษัท แอสตร้าเซนเนก้า (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้ตอกย้ำให้เห็นถึงคุณค่าแห่งการค้นพบนวัตกรรมเพื่อสุขภาพอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยบริษัทฯ มีความภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในประวัติศาสตร์ความก้าวหน้าด้านวัคซีนของโลก

นอกจากนี้ เรายังพบความท้าทายด้านสุขภาพอื่นๆ ด้วยเหตุนี้เราจึงไม่เคยหยุดขยายขีดความสามารถของวิทยาศาสตร์ในการพัฒนายาและโซลูชั่นต่างๆ ที่จะช่วยเปลี่ยนชีวิตของผู้ป่วย ยกระดับระบบการดูแลสุขภาพ และส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีแก่สังคมทั่วโลก

ทั้งนี้ AstraZeneca อาจจะเป็นชื่อที่บุคลากรทางการแพทย์คุ้นเคยมายาวนาน และเริ่มเป็นที่รู้จักในวงกว้างขึ้นก็ช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ผู้พัฒนาวัคซีนป้องกันโควิด-19 ซึ่งเลือกให้ประเทศไทยเป็นหนึ่งในฐานการผลิตเพื่อส่งมอบวัคซีนให้แก่ประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

แต่จริงๆ แล้ว AstraZeneca เข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทยนับตั้งแต่สมัยยังเป็น Astra AB ตั้งแต่เมื่อปี 2526 ก่อนจะเปลี่ยนชื่อเป็น แอสตร้าเซนเนก้า ประเทศไทย ภายหลังการควบรวมกิจการกัน โดยในปัจจุบัน มีพนักงานจำนวนกว่า 270 คน เรียกได้ว่าดำเนินกิจการในไทยมาเกือบ 40 ปีแล้ว 

สำหรับ ชื่อ AstraZeneca เกิดขึ้นในปี 2542 จากการควบรวมกิจการของ Astra AB บริษัทยาเก่าแก่ของสวีเดน และ Zeneca Group บริษัทยาของสหราชอาณาจักร โดยปัจจุบันมีพนักงานกว่า 76,000 คน ประจำสำนักงาน 26 แห่งใน 16 ประเทศทั่วโลก

โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองเคมบริดจ์ สหราชอาณาจักร มีฐานการวิจัยและพัฒนา 3 แห่งคือในเคมบริดจ์ สหราชอาณาจักร กอเทนเบิร์ก สวีเดน และเมืองเกเธอร์สเบิร์ก รัฐแมริแลนด์ สหรัฐอเมริกา อีกทั้งมีห้องปฏิบัติการทดลองของตนเองในซานฟรานซิสโก และบอสตัน สหรัฐอเมริกา โอซาก้า ญี่ปุ่น และเซี่ยงไฮ้ จีน

ทั้งนี้ แอสตร้าเซนเนก้า มุ่งเน้นการวิจัยและการรักษาใน 3 กลุ่มโรค ได้แก่ 1. กลุ่มโรคมะเร็งวิทยา (Oncology) โดยเฉพาะชนิดที่ยากต่อการรักษา กลุ่มโรคหลอดเลือดหัวใจ 2. ไตและเมแทบอลิซึม (CVRM)

3. กลุ่มโรคระบบทางเดินหายใจ ภูมิคุ้มกันและโรคติดเชื้อ (Respiratory, Immunology and Infectious Disease หรือ RIID) รวมถึงวัคซีนป้องกันโควิด-19 ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนให้ใช้ในภาวะฉุกเฉินในกว่า 80 ประเทศ ครอบคลุม 6 ทวีปทั่วโลก และได้ถูกส่งมอบให้กว่า 170 ประเทศทั่วโลกแล้วเป็นจำนวนกว่าพันล้านโดส

สำหรับการพัฒนายาที่สามารถรักษาโรคได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นและอยู่ในระดับราคาที่จับต้องได้ยังเป็นเป้าหมายสำคัญที่แอสตร้าเซนเนก้าตั้งใจจะทำให้ดียิ่งขึ้น โดยในปัจจุบันแอสตร้าเซนเนก้า ประเทศไทย จำหน่ายยามากกว่า 20 รายการ

ปัจจุบัน เทคโนโลยีและดิจิทัลโซลูชันมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนานวัตกรรมเพื่อการรักษาที่ดีขึ้นโดยเฉพาะในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ปัจจุบันแอสตร้าเซนเนก้ามีโครงการมากกว่า 700 โครงการ ซึ่งเป็นความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนาระหว่างเครือข่ายทั่วโลก เพื่อยกระดับนวัตกรรมการดูแลและรักษาสุขภาพที่มีคุณภาพอย่างทั่วถึง

นอกจากนี้ แอสตร้าเซนเนก้าได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ depa เมื่อต้นปี 64 ที่ผ่านมา เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการเพิ่มขีดความสามารถ และการพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลในการช่วยอำนวยความสะดวกต่อการให้บริการด้านสาธารณสุขในประเทศไทย

ทั้งนี้ ด้วยเครือข่าย Health Innovation Hubs ของแอสตร้าเซนเนก้าทั่วโลก จึงทำให้มีการเชื่อมประสานและต่อยอดข้อมูลที่เกิดขึ้นจากปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้ป่วย ยา เทคโนโลยี บุคลากรทางการแพทย์ และผู้กำหนดนโยบาย เพื่อพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการด้านสุขภาพของคนในสังคม

ขณะเดียวกัน แอสตร้าเซนเนก้า ส่งเสริมการเข้าถึงระบบการดูแลสุขภาพที่มีคุณภาพ เพื่อผลักดันให้เกิดความเป็นอยู่ที่ดีของคนทุกเพศทุกวัยอย่างยั่งยืน โดยได้พัฒนาโครงการต่างๆ และประสานงานร่วมกับภาครัฐและพันธมิตรอีกด้วย 


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ