ประกัน Unit Linked มาแรง ครึ่งปีแรกของ 64 เติบโตสูงถึง 96.05%

Business & Marketing

Marketing & Trends

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

ประกัน Unit Linked มาแรง ครึ่งปีแรกของ 64 เติบโตสูงถึง 96.05%

Date Time: 3 ส.ค. 2564 19:00 น.

Video

วิเคราะห์อนาคต Google เจ้าแห่งเสิร์ชเอนจิน จะอยู่ยังไง ถ้าไม่ได้ผูกขาด | Digital Frontiers

Summary

  • ประกันชีวิตควบการลงทุน หรือ Unit Linked มาแรง ครึ่งปีแรกของ 64 เติบโตสูงถึง 96.05% มีเบี้ยประกันรับรวม 21,598.72 ล้านบาท ส่วนภาพรวมธุรกิจประกันชีวิตมีเบี้ยรับรวมเติบโตเพิ่มขึ้น 3%

Latest


ประกันชีวิตควบการลงทุน หรือ Unit Linked มาแรง ครึ่งปีแรกของ 64 เติบโตสูงถึง 96.05% มีเบี้ยประกันรับรวม 21,598.72 ล้านบาท ส่วนภาพรวมธุรกิจประกันชีวิตมีเบี้ยรับรวมเติบโตเพิ่มขึ้น 3%

เมื่อวันที่ 3 ส.ค. 64 นายสาระ ล่ำซำ นายกสมาคมประกันชีวิตไทย กล่าวว่า ในช่วง 6 เดือนแรกปี 2564 (ม.ค.-มิ.ย.) ธุรกิจประกันชีวิตมีผลงานเบี้ยประกันภัยรับรวมทั้งสิ้น 294,896.57 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 3.13% เมื่อเทียบกับระยะเวลาเดียวกันในปี 63 ที่ผ่านมา

โดยจำแนกเป็นเบี้ยประกันภัยรับรายใหม่ จำนวน 83,745.52 ล้านบาท อัตราเติบโตเพิ่มขึ้น 9.88% และเบี้ยประกันภัยรับปีต่อไปจำนวน 211,151.05 ล้านบาท อัตราเติบโตเพิ่มขึ้น 0.68% และมีอัตราความคงอยู่ของกรมธรรม์ประกันชีวิต 81% สำหรับเบี้ยประกันภัยรับรายใหม่ ประกอบด้วย

1. เบี้ยประกันภัยรับปีแรก จำนวน 45,851.44 บาท อัตราการเติบโตลดลง 7.52%

2. เบี้ยประกันภัยรับชำระครั้งเดียว จำนวน 37,894.08 ล้านบาท อัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 42.26%

โดยจำแนกเป็นเบี้ยประกันภัยรับรวมตามช่องทางการจำหน่าย ดังนี้

1. การขายผ่านตัวแทนประกันชีวิต จำนวน 142,804.21 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 0.39% มีสัดส่วน 48.43%

2. การขายผ่านธนาคาร จำนวน 124,101.47 ล้านบาท หรือเติบโตเพิ่มขึ้น 6.45% มีสัดส่วน 42.08%

3. การขายผ่านช่องทางนายหน้า จำนวน 13,824.71 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 2.81% มีสัดส่วน 4.69%

4. การขายผ่านช่องทางโทรศัพท์ จำนวน 7,133.99 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 2.75% มีสัดส่วน 2.42%

5. การขายผ่านช่องทางดิจิทัล จำนวน 370.07 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 12.63% มีสัดส่วน 0.13%

6. การขายผ่านช่องทางไปรษณีย์ จำนวน 19.64 ล้านบาท เติบโตลดลง 15.55% มีสัดส่วน 0.01%

7. การขายผ่านช่องทางอื่นๆ จำนวน 6,642.47 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 4.20% สัดส่วน 2.25%

ส่วนผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่ได้รับความนิยมและมีการเติบโตสูงเป็น ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตควบการลงทุน หรือ Universal Life และ Unit Linked ซึ่งมีเบี้ยประกันภัยรับรวม 21,598.72 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตที่สูงถึง 96.05% เนื่องมาจากแบบประกันดังกล่าวสามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้เอาประกันภัยได้ครบทุกช่วงวัย ทั้งเรื่องผลตอบแทนจากการลงทุนที่มีโอกาสได้รับอัตราผลตอบแทนที่สูงขึ้นกว่าการลงทุนในรูปแบบอื่น และเรื่องความคุ้มครองของประกันชีวิต

ส่วนผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตประเภทสัญญาเพิ่มเติมการประกันสุขภาพและโรคร้ายแรง (Health & CI) มีเบี้ยประกันภัยรับรวมประมาณ 46,549 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 7.54% ซึ่งการอัตราการเติบโตที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากค่ารักษาพยาบาลมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี รวมถึงสถานการณ์การระบาดโควิด-19 และสถานการณ์การเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรงอื่นๆ ทำให้ประชาชนต้องตระหนักถึงความสำคัญของการวางแผนบริหารความเสี่ยงด้านสุขภาพเพิ่มมากขึ้น

สำหรับผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตแบบบำนาญที่มีเบี้ยประกันภัยรับรวม 4,243.93 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 5.74% แต่มีสัดส่วนการขายอยู่ในระดับค่อนข้างน้อย

แนวโน้มธุรกิจประกันชีวิตไทยในครึ่งหลังของปี 2564

นายสาระ กล่าวอีกว่า สำหรับแนวโน้มธุรกิจประกันชีวิตไทยในครึ่งหลังของปี 2564 ภาคธุรกิจประกันชีวิตยังคงมองว่าธุรกิจจะเติบโตได้ตามที่คาดการณ์การเติบโตไว้ในระดับที่ใกล้เคียงกับเมื่อต้นปี 2564 ด้วยเบี้ยประกันภัยรับรวมอยู่ระหว่าง 590,000-610,000 ล้านบาท หรือเติบโตร้อยละ -1 ถึง +1

โดยเป็นการคาดการณ์แบบระมัดระวัง หรือ Conservative เนื่องจากทิศทางของสถานการณ์ของโควิด-19 ยังไม่มีแนวโน้มดีขึ้น เพราะจำนวนผู้ติดเชื้อมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นจากการระบาดระลอกใหม่ตั้งแต่ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ซึ่งการคาดการณ์ครั้งนี้ก็ยังสอดคล้องกับการคาดการณ์ GDP ของประเทศที่มีการขยายตัวร้อยละ 1.5-2.5 ซึ่งอยู่ในระดับฟื้นตัวช้า (ข้อมูล ณ เดือน พ.ค. 64 ของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ)

ส่วนทิศทางผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตนั้น ภาคธุรกิจมองว่าผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่จะได้รับความนิยมและมีศักยภาพในการเติบโตสูง คือ ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตควบการลงทุน เนื่องจากสถานการณ์อัตราดอกเบี้ยที่ยังอยู่ในระดับต่ำในปัจจุบัน ทำให้ได้รับการตอบรับจากผู้ที่มีความสนใจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์นี้มากขึ้น พร้อมได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนภายใต้ระดับความเสี่ยงที่พอรับได้

รวมถึงได้รับความคุ้มครองจากการประกันชีวิตรวมอยู่ด้วย ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตควบการลงทุนจึงถือว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ แต่อย่างไรก็ดี ก็ต้องมีการสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง เนื่องจากแบบประกันดังกล่าวมีความซับซ้อนระดับหนึ่ง

ขณะเดียวกันธุรกิจประกันชีวิตมีการพัฒนาความคุ้มครองด้านสุขภาพและโรคร้ายแรงอย่างต่อเนื่อง และมีการบริการหลังการขายที่ครบวงจรทั้งระบบ online และ off line เช่น telemedicine, บริการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยฉุกเฉิน ฯลฯ โดยได้เชื่อมต่อกับระบบของโรงพยาบาลทำให้เกิดความสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าได้ครบทุกความต้องการและทุกกลุ่มเป้าหมาย

ในขณะที่ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตแบบบำนาญ เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีแนวโน้มเป็นที่ต้องการของประชาชนมากขึ้น เพราะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยตอบเทรนด์สังคมผู้สูงอายุของไทยในปัจจุบัน รวมถึงเพราะเป็นเครื่องมือทางการเงินหนึ่งที่สำคัญที่เสริมสร้างวินัยทางการออมของประชาชนให้อยู่ในระดับที่เพียงพอต่อความเป็นอยู่หลังเกษียณอายุ

ปัจจุบันทางสมาคมประกันชีวิตไทยและสำนักงาน คปภ. ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในประเด็นดังกล่าวและอยู่ระหว่างการหารือร่วมกับบริษัทประกันชีวิตในการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตแบบบำนาญ ที่สามารถตอบโจทย์เพื่อวัยเกษียณได้อย่างเหมาะสมมากขึ้น

ทั้งนี้ ภาคธุรกิจประกันชีวิตไทยมีความมุ่งมั่นเพื่อตอบสนองความต้องการ ตอบโจทย์ได้ทุกกลุ่มเป้าหมาย และสอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน โดยได้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตให้มีความหลากหลาย มีการพัฒนาคุณภาพการบริการหลังการขาย ตลอดจนมีการพัฒนาช่องทางการขายในรูปแบบดิจิทัลและการบริการผ่านระบบออนไลน์

โดยมีการเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัยผ่านระบบดิจิทัล (Digital Face to Face) และมีการพัฒนาบุคลากร โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวแทนและนายหน้าประกันชีวิตให้มีความรู้ความสามารถรวมถึงการบริการที่เป็นมืออาชีพ มีจรรยาบรรณและจริยธรรมในการประกอบอาชีพอย่างต่อเนื่อง

ปัจจุบันทางภาคธุรกิจประกันชีวิตไทย ได้รับการอนุโลมแนวทางการให้ความคุ้มครองการบริการรักษาพยาบาล ณ หอผู้ป่วยเฉพาะกิจนอกสถานพยาบาล (Hospital) โรงพยาบาลสนาม และล่าสุดรวมถึงการอนุโลมให้ความคุ้มครองไปยัง Home Isolation และ Community Isolation ซึ่งเป็นไปตามคำสั่งนายทะเบียนที่ 43/2564 ของ คปภ. ลงวันที่ 29 ก.ค. 64 ซึ่งเงื่อนไขจะเป็นไปตามที่แต่ละบริษัทประกันชีวิตกำหนด เพื่อให้แบบประกันชีวิตสามารถให้ความคุ้มครองผู้เอาประกันภัยได้อย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้เรายังอยู่ระหว่างการหารือถึงแนวทางและรูปแบบการสอบออนไลน์ (E-Exam) ที่เหมาะสม มีความโปร่งใสและรัดกุม ทั้งนี้เพื่อตอบโจทย์ความต้องการและพฤติกรรม วิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างต่อเนื่อง รวมถึงเป็นการสร้างความเชื่อมั่นและภาพลักษณ์ธุรกิจประกันชีวิตให้เป็นที่น่าเชื่อถือ ไว้วางใจ และมีความยั่งยืนต่อไป.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ