เวลาล่วงเลยมาแล้วกว่า 13 เดือน “รัฐบาล” ประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ควบคุมเชื้อโควิด-19 แต่สถานการณ์ยังไม่มีวี่แววคลี่คลายลง ยังคงมีผู้ป่วยรายใหม่ และผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นรายวัน
สาเหตุจากการระบาดรอบนี้ “เป็นสายพันธุ์อังกฤษ” กระจายเชื้อได้เร็วกว่าสายพันธุ์ดั้งเดิม ทำให้รูปแบบ “การติดเชื้อมักเกิดจากการใช้ชีวิตประจำวัน” นำพาเชื้อโรคเข้าไปติดคนในบ้าน “กระจายการติดเชื้อ” ตั้งแต่เด็ก วัยทำงาน และวัยสูงอายุ เช่นนี้ “หลายองค์กร” ต่างให้พนักงานทำงานที่บ้าน หรือเวิร์กฟรอมโฮม
เพื่อลดโอกาสเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 ในส่วน “ประชาชน” ก็ระมัดระวังตัว ออกจากบ้านเท่าที่จำเป็น ถ้าต้องซื้อของบางอย่างก็ “ใช้วิธีสั่งออนไลน์” ที่มักเน้นเอาสะดวกส่งถึงหน้าบ้าน
ยุคโรคระบาดนี้ “การขายออนไลน์” เป็นอาชีพที่หลายคนนึกถึงกันมากเป็นอันดับแรกๆที่เริ่มจับช่องทางผันตัวมาเป็น “พ่อค้า แม่ค้าออนไลน์” ด้วยเพราะ “เปิดร้านง่ายไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้าน” สามารถขายผ่าน E-Marketplace เว็บไซต์สื่อกลางรวบรวมข้อมูลสินค้าบริการติดต่อซื้อขายกันได้อย่างกว้างขวาง
ทั้งผ่านโลกโซเชียลฯในรูปแบบต่างๆ เช่น เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม ไลน์ และเว็บไซต์มากมายที่ไม่ใช่ลูกค้าเฉพาะกลุ่มเท่านั้นที่ซื้อขายได้ แต่ยังหมายถึงลูกค้าจากทั่วประเทศอีกด้วย
แม้แต่ “ผู้ประกอบการ และเจ้าของธุรกิจ” ก็ต้องปรับตัวขยายช่องทางการขายขยับเข้ามา “ตลาดออนไลน์” เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด นั่นหมายความว่า “คู่แข่งการค้า” ย่อมเกิดขึ้นบน “ตลาดออนไลน์” อย่างมากด้วย ทำให้แต่ละคนต่าง “งัดกลยุทธ์การขาย” ให้ตอบโจทย์ลูกค้าหลากหลายรูปแบบ
ฉะนั้น “คนขายของออนไลน์” ต้องรับมือคู่แข่ง ปรับตัวให้ธุรกิจตัวเองไปได้อย่างไรนี้ ชไมพร กรีเซ็บเนอร์ ผู้ก่อตั้งเพจพลิกชีวิตกับ Mrs.Wow ในการสอนเทคนิคการสร้างอาชีพขายของออนไลน์ฟรีๆ บอกว่า
ตั้งแต่การระบาดระลอกแรก ส่งผลกระทบ “เศรษฐกิจไทยตกต่ำ” อันเป็นห่วงโซ่มาสู่ “คนไทย” ต้องเจอกับการตกงานกะทันหัน และขาดรายได้ค่อนข้างเยอะมาตลอด 1 ปีนี้ เมื่อมี “การระบาดระลอกสอง” หลายคนเริ่มปรับวิถีการทำมาหากินผันตัวมาเป็น “พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์หน้าใหม่กว่า 70%” เพื่อหารายได้
สังเกตเห็นว่า “ใน 1-2 ปีมานี้เทรนด์ขายของออนไลน์” มีแนวโน้มเติบโตค่อนข้างชัดเจนสูงขึ้น แม้แต่ “ผู้ประกอบการ” เคยเปิดขายเฉพาะตลาดแบบออฟไลน์ ก็ต้องปรับตัวหันมาหยิบจับ “สื่อออนไลน์” ช่วยส่งเสริมการขายสินค้าอีกทางด้วย เพราะไม่สามารถออกขายของตามตลาดนัดทั่วไปได้เป็นปกติแล้ว
ดังนั้น “ตลาดออนไลน์” กำลังมีคู่แข่งเกิดขึ้นทุกวัน “การขายของ” จำเป็นต้องปรับตัวให้ทันตามกระแสอยู่เสมอ ด้วยการหา “ตัวช่วยการขายของออนไลน์” เพิ่มช่องทางการตลาดโอกาสสร้างยอดขายที่ดี
จริงๆแล้ว... “มือใหม่หัดขายของออนไลน์” ในการขายผ่าน “เฟซบุ๊ก หรือเพจร้านค้า” ก็ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะมีเทคนิคง่ายๆแนะนำอยู่ทั่วไปมากมาย แต่ข้อสำคัญมีอยู่ว่า “ผู้คิดจะเป็นพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์” ต้องกล้าเปิดเผยความเป็นตัวตนของผู้ขายเสมอ ทั้งตั้งชื่อ นามสกุลจริง ใช้รูปบุคลิกการแต่งกายดูดีชัดเจน
ในการสร้างความน่าเชื่อถือดึงดูดให้คนเข้ามา “กดไลค์เพจ” และกล้าเปิดใจยอมซื้อสินค้ากับ “คนแปลกหน้า” ที่ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะ “ลูกค้า” มักไม่ยินยอมซื้อสินค้ากับคนไร้ตัวตนแน่นอน
เมื่อเปิดเพจเฟซบุ๊กแล้ว “ต้องหมั่นโพสต์อย่างสม่ำเสมอ” เน้นการโพสต์รูปข้อความเกี่ยวกับสินค้าขายดี การแพ็กสินค้า ส่งสินค้า ไม่ต่ำกว่า 4 โพสต์ต่อวัน ตั้งแต่โพสต์แรก 07.00-09.00 น. โพสต์สอง 12.00-13.00 น. โพสต์สาม 16.00-18.00 น. โพสต์สี่ 20.00-22.00 น. เพราะเป็นช่วงเวลาทองการใช้งานโซเชียลฯมากที่สุด
สิ่งนี้จะช่วยเพิ่มโอกาสให้โพสต์โชว์บนหน้า Newsfeed ของคนอื่น ที่มีโอกาสให้ “คนจะกดไลค์” แต่ถ้าโพสต์เยอะมากเกินไป “ผิดกฎเฟซบุ๊ก” ก็จะถูกปิดกั้นลูกค้ามองไม่เห็นได้ แต่อาจใช้วิธีให้ “เพื่อนๆคอมเมนต์” เพื่อเปิดการมองเห็นข้อความโพสต์นั้นบนหน้าเพจเฟซบุ๊กอยู่ตลอดทั้งวันก็ได้
แต่ว่าบางครั้งควร “สร้างกิจกรรม” ให้เกิดการแชร์เพจในการแจกของรางวัล หรือเป็นการมอบสิทธิพิเศษก็ได้ เพราะการแชร์เพจเยอะจำนวนคนเห็นเพจ และเพิ่มยอดไลค์ตามมา สุดท้าย “ยอมเสียเงินลงโฆษณากับเฟซบุ๊ก” ช่วยให้คนเห็นเพจเพิ่มขึ้น แต่ก็ “ไม่การันตีลูกค้า” เพิ่มตามการเห็นเพจนี้ด้วย
ส่วน “ไลฟ์สดขายของ” เบื้องต้นต้องตกแต่งฉากหลังให้เป็นธีมตรงสินค้า และไลฟ์สไตล์ของแม่ค้าแต่ละคนก็เป็นตัวดึงดูดลูกค้ารสนิยมเดียวกัน ลักษณะลีลาการพูดคุยเป็นเอกลักษณ์ส่วนตัว แต่ต้องทักทายคนเข้ามาดู อ่านชื่อ ตอบคำถาม ทำให้ผู้ดูรู้สึกมีความสำคัญอยากติดตามไลฟ์นั้นเสมอ
สิ่งสำคัญ “ขายของออนไลน์” จำเป็นต้องใช้เวลาให้ “ลูกค้า” มีความเชื่อมั่น “ตัดสินใจซื้อสินค้า” ที่ต้องใช้ความอดทนหมั่น “โพสต์รูปพร้อมข้อความประจำ” สร้างการจดจำต่อบุคคลอื่น แต่บางคนสร้างความแตกต่างได้ดีก็ใช้เวลาไม่นาน จนเกิดการตอบรับประสบความสำเร็จกันอยู่มากมายก็มี...
จริงๆแล้วส่วนตัวเริ่มเข้ามา “ขายของออนไลน์” เมื่อราว 10 ปีก่อนนี้ในช่วงนั้นทำงาน “แม่บ้าน ล้างจาน ทำความสะอาด ในประเทศออสเตรีย” แต่ว่า “รายได้ไม่พอ” ต้องเพิ่มช่องหาเงินด้วยการผันตัวมา “ขายของออนไลน์สินค้าแฟชั่น” ตั้งแต่อาหารเสริม เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า และของเล่นของใช้มากมาย
ตอนนั้นความนิยม “ขายของออนไลน์ผ่านเฟซบุ๊ก” ไม่มากเท่าทุกวันนี้ แต่ว่า “ผู้บริโภค” กลับสนใจซื้อเยอะมาก “ลูกค้าแรก” มักเป็นกลุ่มเพื่อนช่วยอุดหนุน แต่บางครั้งยิงแอดโฆษณาไปยังกลุ่มเป้าหมายให้เกิดโอกาสปิดการขายได้มากยิ่งขึ้น ส่งผลให้มียอดผู้ติดตามขยายออกไปรวดเร็วใน 2-3 เดือน
เช่นนี้แล้ว “สินค้าประเภทใด” โพสต์ขายไม่นานก็มักมี “คนซื้อ” จนสามารถทำยอดขายสูงสุดมากกว่า 100 คู่ต่อเดือน สามารถเห็นผลกำไรไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นบาทต่อเดือน
อีกทั้งยังเป็น “ตัวแทนจำหน่ายเครื่องสำอาง” ที่มีแม่ข่ายตัวแทนจำหน่ายจัดอบรมกลยุทธ์การขายสินค้าทั้งแบบ “ออฟไลน์ และออนไลน์” จึงเห็นโอกาสใน “ธุรกิจทางออนไลน์” จนประสบความสำเร็จ
กระทั่งผันมา “ทำธุรกิจตัวเอง” นำเข้า “เสื้อผ้าจากจีน” โพสต์ขายผ่านเพจ มีผลกำไรสูงสุด 1 ล้านบาท แต่มักเจอปัญหาคุณภาพไม่ตรงตามออเดอร์ที่ “สอดไส้สินค้าเกรดต่ำ” ทำให้ลูกค้าไม่พอใจตามราคาขายนั้น และเลิกขายเสื้อผ้านำเงินกำไรมา “ลงทุนผลิตภัณฑ์ครีมกันแดด” ในช่วงแรกมียอดขายดี แต่ด้วยไม่มีประสบการณ์เกี่ยวกับการติดต่อขายสินค้าต้องจ่ายผลกำไรให้ “ตัวแทนจำหน่าย” ไม่สามารถควบคุมต้นทุนได้
เมื่อไม่เห็นกำไรแล้วยิ่งบริหาร “ยิ่งขาดทุน” ขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายเหลือลงทุน 1 พันบาท และหันมาสนใจศึกษา “ฟองน้ำทำความสะอาดไม่ใช้น้ำยา” ที่ใช้ในบ้านทุกวัน ก่อน “กู้ยืมเงินพี่สาวมาลงทุน ทำแบรนด์เอง” วางแผนการตลาด โพสต์ขายผ่านออนไลน์ และรับตัวแทนจำหน่ายประสบความสำเร็จมาถึงวันนี้
ตอกย้ำว่า...“การระบาดโควิด-19” เช่นนี้ส่งผลให้ “ตลาดออนไลน์” มีการแข่งขันค่อนข้างสูงมาก...“สินค้าทุกยี่ห้อ” ต่างต้องการจำหน่ายกันอยู่มากมาย ในส่วน “ผู้บริโภค” กลับแทบไม่มีกำลังพร้อมซื้อได้ด้วยซ้ำ ทำให้กระแส “ซื้อขายของออนไลน์ไม่หวือหวา” อย่างเคยเป็นมาก่อนหน้านี้ แต่ก็ยังพอขายได้เรื่อยๆ
สถานการณ์เช่นนี้ “ลูกค้า” มักเลือกซื้อสิ่งของจำเป็นก่อน ในส่วน “สิ่งของฟุ่มเฟือย” ต้องชะลอการซื้อชั่วคราว เพราะไม่มีใครรู้เลยว่า “โรคระบาดจะจบลงเมื่อใด” แม้แต่ “ฟองน้ำไร้น้ำยาตัวเอง” ก็กระทบยอดขายลดลงราว 40% ทำให้พยายามกระตุ้นตัวแทนจำหน่ายช่วยกัน “โพสต์ขายบนออนไลน์” เพิ่มมากขึ้น
โรคระบาดโควิด-19 มีผลกระทบต่อ “คนทั่วโลก” เช่นนี้แล้ว “ทุกคน” ต้องอดทนให้ผ่านอุปสรรคไปด้วยกันให้ได้ “คนอยู่บ้าน” ต้องพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสก้าวเข้ามา “ขายของออนไลน์” เพื่อประคองให้อยู่รอด
ขอย้ำว่าคนไทยช่วยชาติได้ด้วยการออกจากบ้านเท่าที่จำเป็น เพื่อลดความเสี่ยงติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่อาจกลายเป็นปัญหาภาระต่อสังคม “อยู่บ้านกักตัวอยู่กับครอบครัว” ปลอดภัยที่สุดนะจ๊ะ.