แก๊งถุงมือยางปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และขอชี้แจงภายใน 15 วันตามสิทธิ์

Business & Marketing

Marketing & Trends

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

แก๊งถุงมือยางปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และขอชี้แจงภายใน 15 วันตามสิทธิ์

Date Time: 4 มี.ค. 2564 08:07 น.

Summary

การจัดซื้อถุงมือยาง 500 ล้านกล่อง มูลค่า 112,500 ล้านบาท ที่ พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ พุทธิยาวัฒน์ อดีตรักษาการผู้อำนวยการ อคส. และพวก ที่เป็นเจ้าหน้าที่ อคส. ระดับบริหาร 8 อีก 2 ราย ร่วมกันจัดซื้อ

Latest

“MELAND” สยามพารากอน สวนสนุกในร่มแห่งแรกนอกจีน แลนด์มาร์กใหม่ งบลงทุน 400 ล้าน ค่าเข้าหลักพันบาท

พ.ต.อ.สุรพงศ์ เปล่งขำ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ องค์การคลังสินค้า (อคส.) ในฐานะประธานคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง กรณีการจัดซื้อถุงมือยาง 500 ล้านกล่อง มูลค่า 112,500 ล้านบาท ที่ พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ พุทธิยาวัฒน์ อดีตรักษาการผู้อำนวยการ อคส. และพวก ที่เป็นเจ้าหน้าที่ อคส. ระดับบริหาร 8 อีก 2 ราย ร่วมกันจัดซื้อโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 3 มี.ค. ได้เชิญผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 3 ราย มารับฟังข้อกล่าวหา แต่มีเพียง 1 ราย คือ นายเกียรติขจร แซ่ไต่ และได้ปฏิเสธข้อกล่าวหา และขอชี้แจงภายใน 15 วันตามสิทธิ์ อีก 2 ราย คือ พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ และนายมูรธาธร คำบุศย์ ไม่มารับฟังข้อกล่าวหา จึงจะส่งข้อกล่าวหาไปทางไปรษณีย์ต่อไป

“คณะกรรมการได้แจ้ง 3 ข้อกล่าวหา คือ 1.ไม่รักษาและไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย อันเกี่ยวกับองค์การ ข้อบังคับ ระเบียบ คำสั่ง คู่มือการปฏิบัติงานขององค์การ และมติคณะกรรมการอันเป็นเหตุให้เสียหายอย่างร้ายแรง 2.ปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่การงานโดยมิชอบ เพื่อให้ตนเอง หรือผู้อื่นได้รับประโยชน์ที่มิควรได้ 3.ไม่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ข้อกล่าวหาทั้งหมด เป็นความผิดวินัยร้ายแรง ตามระเบียบ อคส.ว่าด้วยการดำเนินการทางวินัย พ.ศ.2561”

ดังนั้น ทั้ง 3 รายมีเวลา 15 วันแก้ข้อกล่าวหาเมื่อครบ 15 วันแล้วคณะกรรมการจะนำเอกสารหลักฐานที่ได้แก้ข้อกล่าวหามาพิจารณา ถ้าไม่สามารถหักล้างได้ก็จะเสนอให้นายเกรียงศักดิ์ ประทีปวิศรุต ผู้อำนวยการ อคส.ตั้งคณะกรรมการสอบวินัย เพื่อลงโทษทางวินัยร้ายแรง คือ ให้ออก หรือไล่ออก และคณะกรรมการความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อพิจารณามูลค่าความเสียหายที่จะต้องชดใช้ให้ อคส. ซึ่งทั้ง 3 ราย นอกจากมีความผิดทางวินัย และต้องชดใช้ความเสียหายให้กับอคส.แล้ว ยังมีความทางคดีอาญาที่ต้องรอผลการไต่สวนข้อเท็จจริงของ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่คาดว่าจะสรุปผลและชี้มูลความผิดเร็วๆนี้ เมื่อป.ป.ช.ชี้มูลความผิด ก็จะส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดส่งฟ้องคดีอาญา และ อคส.จะฟ้องร้องคดีแพ่งที่เกี่ยวกับคดีอาญาต่อไป.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ