
นายวสุเชษฐ์ โสภณเสถียร นายกสมาคมผู้ประกอบการรถขนส่งทั่วไทย (สปข.) กล่าวว่า สมาคมฯได้ยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 9 ก.พ.64 โดยมีนายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับมอบหนังสือพร้อมรับทราบปัญหา และจะเร่งนำส่งถึงนายกรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาต่อไป โดยกลุ่มธุรกิจรถโดยสารไม่ประจำทาง เดือดร้อนอย่างหนักจากวิกฤติโควิด-19 และยังไม่ได้รับความช่วยเหลือจากภาครัฐโดยตรง จึงมีข้อเรียกร้องให้ช่วย 3 เรื่องได้แก่ ช่วยลดรายจ่าย ช่วยเสริมสภาพคล่อง และช่วยเพิ่มรายได้แก่ผู้ประกอบการ สำหรับการลดรายจ่ายต้องการให้รัฐช่วยเรื่องหนี้สินของผู้ประกอบการกับธนาคารและไฟแนนซ์ รวมถึงให้รัฐร่วมจ่ายเงินเดือนให้ลูกจ้าง 50% ของเพดาน 15,000 บาท หรือคนละ 7,500 บาท จำนวน 3 เดือน ราว 50,000 คน รวมถึงขอให้ช่วยเรื่องการยกเว้นภาษีประจำปีรถโดยสาร และค่าปรับต่างๆ ของรถและสถานประกอบการที่ค้างชำระ
ส่วนเรื่องเสริมสภาพคล่อง ขอให้รัฐให้เงินช่วยเหลือรถรับจ้างไม่ประจำทาง 40,000 คัน คันละ 5,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือน เท่ากับคันละ 15,000 บาท รวมเป็นเงิน 600 ล้านบาท และต้องการแหล่งเงินทุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟท์โลน) เพื่อให้ธุรกิจอยู่รอด โดยขอให้ตั้งกองทุนที่ไม่ต้องผ่านระบบไฟแนนซ์หรือธนาคาร เพื่อนำมาปรับปรุงฟื้นสภาพรถคันละ 300,000 บาท โดยใช้ทะเบียนรถเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันด้วยการของบฯจากกองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน (กปถ.) นำมาใช้กับโครงการนี้ในดอกเบี้ยอัตราพิเศษ นอกจากนี้ ขอให้ช่วยสร้างรายได้แก่ผู้ประกอบการ โดยให้รัฐบาลเร่งให้เกิดการเดินทางของหน่วยงานภาครัฐให้มากที่สุด หลังโควิด-19 ระลอกใหม่ลดลง และขอให้มีการจัดจ้างรถโดยสารไม่ประจำทางทั่วประเทศ จังหวัดละ 100 คัน พาประชาชนเดินทางท่องเที่ยวข้ามเขตจังหวัด เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวและสร้างรายได้ให้แต่ละพื้นที่ ซึ่งหากมีการเดินทางจังหวัดละ 4,000 คน รวมทั้งประเทศจะมีผู้เดินทาง 300,000 คน จะสร้างเงินหมุนเวียนได้กว่า 300 ล้านบาท จากการสนับสนุนงบเพียง 76 ล้านบาท โดยขอให้จัดจ้างกับผู้ประกอบการโดยตรง มิใช่ผ่านตัวแทนการท่องเที่ยว.