
ฟิวเจอร์เทลส์ แล็บ เผยอัตลักษณ์ของชาว Gen Z ให้ความสำคัญทางสิ่งแวดล้อม สนใจสังคมมากขึ้น ยืดหยุ่นในการทำงาน และเก่งเทคโนโลยี
นายคีรินทร์ ชูธรรมสถิตย์ ประธานผู้อำนวยการ กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และบริการ บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ MQDC กล่าวว่า ศูนย์วิจัยอนาคตศาสตร์ฟิวเจอร์เทลส์ แล็บ หรือ FutureTales Lab ภายใต้ MQDC ได้ร่วมกับ กองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติ (UNFPA) ประจำประเทศไทย
รวมถึงสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA ได้จัดงานเสวนา Future Generations and Their Impact on the Future of Living เพื่อสร้างความตระหนักรู้ และให้ความสำคัญกับอนาคตของเยาวชนคนเจเนอเรชั่นใหม่ เพื่อปรับปรุงคุณภาพชีวิตของผู้คนในสังคม และส่งเสริมให้ประชากรในประเทศไทยมีส่วนร่วมในการช่วยพัฒนาเศรษฐกิจ ชุมชน และสังคม
ดร.วาสนา อิ่มเอม หัวหน้าสำนักงานกองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติ (UNFPA) ประจำประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยเข้าสู่สภาวะสังคมผู้สูงวัยอย่างสมบูรณ์แล้ว เนื่องจากมีประชากรมีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป มีจำนวนมากกว่าประชากรวัยเด็ก ซึ่งการเข้าสู่สภาวะดังกล่าวมีผลกระทบต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตของประชาชนโดยรวม
อีกทั้งทำให้ความไม่เท่าเทียมกันในสังคมเพิ่มมากยิ่งขึ้น และเพื่อให้แน่ใจว่าความก้าวหน้าและการพัฒนาที่ยั่งยืนนั้นครอบคลุมสำหรับทุกคน เราควรมีการวางรากฐานไว้เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการใช้ชีวิตในอนาคตให้กับเด็กหรือเยาวชนรุ่นใหม่
ดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA กล่าวว่า การมองไปยังอนาคตมีความสำคัญมากต่อการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการขับเคลื่อนงานทางด้านนวัตกรรมที่ต้องอาศัยการมองภาพอนาคตในการกำหนดแผนงาน
อีกหนึ่งกุญแจสำคัญในการพัฒนางานด้านดังกล่าว คือ เยาวชนหรือคนรุ่นใหม่ที่จะเป็นจุดเชื่อมโยงกันระหว่างเจเนอเรชั่น และจะมาเป็นส่วนช่วยในการสร้างมุมมองต่างๆ พร้อมยกระดับภาพลักษณ์ด้านนวัตกรรมของประเทศไทยให้มีการพัฒนาต่อไป
NIA มองว่า ทุกภาคส่วนต้องให้ความสำคัญกับเยาวชนคนรุ่นใหม่ ทั้งในด้านการช่วยส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพของพวกเขาอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับทักษะและความสามารถทางนวัตกรรม เพราะทุกเจเนอเรชั่นนั้นมีวิธีคิด และแนวทางการพัฒนาที่มีความแตกต่างกัน แต่ไม่ได้เป็นความแตกต่างที่ขัดแย้ง เนื่องจากเป้าหมายหรือจุดยืนล้วนเป็นเป้าหมายที่ชัดเจน คือ เพื่อพัฒนาสังคมและสร้างอนาคตที่ดีร่วมกัน
โดยเป้าหมายที่แท้จริงของการสร้างนวัตกรรมต่างๆ นั้น คือการนำความรู้และเทคโนโลยีมาใช้อย่างสร้างสรรค์ เพื่อสร้างคุณค่าให้กับคนในทุกช่วงวัย พร้อมทั้งสร้างความกลมกลืนและปฏิสัมพันธ์ระหว่างกันได้อย่างยั่งยืน ซึ่งหากเราได้เปิดใจเรียนรู้และเข้าใจสังคมและคนรอบข้างแล้ว เราก็จะได้เห็นโอกาสที่หลากหลายของการเกิดนวัตกรรมใหม่ๆ มากยิ่งขึ้นในการสร้างสังคมที่มีการพัฒนาอย่างยั่งยืนในอนาคต
ดร.การดี เลียวไพโรจน์ หัวหน้าคณะที่ปรึกษาฟิวเจอร์เทลส์ แล็บ กล่าวว่า จากการศึกษาและวิจัยอนาคตกับกลุ่ม Gen Z ทางฟิวเจอร์เทลส์ แล็บ ได้ค้นพบว่ากลุ่มดังกล่าวจะมีการเปลี่ยนแปลงทั้งมุมมองความคิดและพฤติกรรมที่จะส่งผลถึงอนาคตความเป็นอยู่ในอนาคต
โดย Gen Z จะคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและประเด็นหลักเพื่อสังคมมากขึ้น มีอัตลักษณ์ตัวตนที่ชัดเจน ความยืดหยุ่นในการทำงาน ตลอดจนการก้าวขึ้นเป็นผู้นำที่เข้าใจในเรื่องความหลากหลายในอนาคต ซึ่งถือเป็นกุญแจสำคัญในการขับเคลื่อน และเป็นตัวแปรด้านเศรษฐกิจของประเทศและของโลกในอนาคต ดังนั้น พวกเราในฐานะตัวแทนภาคเอกชนควรให้ความสำคัญในหัวข้อเหล่านี้ เพื่อตอบโจทย์การเข้าถึงกลุ่มคนเจนใหม่ และสามารถนำมาพัฒนาเมืองและสังคมได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
สำหรับ Generation Z เกิดในช่วงปี ค.ศ. 1995 – 2010 ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีต่างๆ รอบตัว และสามารถนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้เป็นเครื่องมือที่สร้างความสะดวกสบายให้กับตัวเอง ในขณะเดียวกันคนใน Generation นี้ จะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงในอนาคตอย่างหลากหลาย ทั้งการเปลี่ยนแปลงของตลาดแรงงานครั้งใหญ่
โดยเฉพาะด้านทักษะตอบโจทย์การทำงาน และอาจจะส่งผลต่ออนาคตของตลาดงานใน 10 – 20 ปีข้างหน้าเช่นกัน โดยกลุ่มคนเหล่านี้จะเป็นตัวผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงโดยเฉพาะอย่างยิ่งการแสดงจุดยืนของความหลากหลายของพวกเขาผ่านช่องทางต่างๆ เพื่อต่อสู้กับความไม่เท่าเทียม และความอยุติธรรมที่จะส่งผลให้เกิดความเท่าเทียมในสังคมมากขึ้น รวมถึงการก้าวไปสู่การเป็นผู้นำการขับเคลื่อนของประเทศ และจะมีการพัฒนาทางเศรษฐกิจโลกที่ใหญ่ขึ้น