
ไทยยังเป็นผู้ตามด้านดิจิทัลไลฟ์ (Digital Life Follower) แต่คาดว่าอีกไม่นานจะขึ้นเป็นประเทศผู้นำ (Digital Life Leader) ได้ เมื่อรายได้เฉลี่ยต่อหัวประชากรปรับสูงขึ้น หลังผลสำรวจพบอายุ 21 ถึง 40 ปีเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญสู่ดิจิทัลไลฟ์
บริษัท ดีลอยท์ ทู้ช โธมัทสุ จำกัด เปิดเผยรายงาน “คลื่นลูกใหม่แนวโน้มดิจิทัลไลฟ์ในเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” ซึ่งออกสำรวจความคิดเห็นจากกลุ่มคนที่อายุต่างกันใน 8 ประเทศในภูมิภาค เอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ ไทย สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ อินเดีย บังกลาเทศ และปากีสถาน ระบุ จากปัจจัยชี้วัดความเป็นดิจิทัลไลฟ์ทั้ง 7 ข้อ ได้แก่ อัตราการใช้โทรศัพท์มือถือในประเทศ, ความเร็วอินเตอร์เน็ตบนโทรศัพท์มือถือ, การเติบโตของช่องทางชำระเงินดิจิทัลเพย์เมนต์, การเติบโตของการช็อปปิ้งออนไลน์, กิจกรรมโซเชียลมีเดีย และการสนับสนุนเชิงนโยบาย ประเทศไทยถูกจัดไว้ในฐานะผู้ตามในด้านดิจิทัลไลฟ์เช่นเดียวกับฟิลิปปินส์ ขณะที่ประเทศผู้นำได้แก่ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และสิงคโปร์
อย่างไรก็ตาม ดีลอยท์ประเมินว่าประเทศไทยจะก้าวสู่การเป็นประเทศผู้นำในอีกไม่ช้า เนื่องจากรายได้เฉลี่ยต่อหัวที่สูงขึ้น ทำให้อัตราการใช้โทรศัพท์มือถือสูงขึ้นตามไปด้วย ส่งผลให้ผู้คนใช้ชีวิตดิจิทัลได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโซเชียลมีเดีย, อีคอมเมิร์ซ, การชำระเงินแบบออนไลน์ หรือเล่นเกม
โดยเมื่อโฟกัสไปที่ผู้ใช้งานดิจิทัลเพย์เมนต์ (การชำระเงินออนไลน์) คาดว่า ในปี 2563 จะมีจำนวน 30 ล้านราย มีมูลค่าการทำธุรกรรมประมาณ 8,363 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 261,500 ล้านบาท โดยบริการ 2 อันดับแรกที่ผู้บริโภคชาวไทยเลือกใช้ ได้แก่ โอน
เงินระหว่างบุคคล (80%) และชำระเงินในร้านค้า (77%)
ผลสำรวจบ่งชี้ด้วยว่า ร้านคอนวีเนียนสโตร์ถือเป็นปลายทางของเศรษฐกิจดิจิทัล สำหรับในประเทศไทย ร้านสะดวกซื้อ 7-11 คือเครือข่ายที่ใหญ่ที่สุด มีหน้าร้านเกือบ 10,000 สาขา เป็นจุดเริ่มต้นของเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ ทำให้ทรูมันนี่ หนึ่งในผู้ให้บริการการชำระเงินซึ่งร่วมมือกับร้าน 7-11 ได้รับความนิยมไปด้วย
เมื่อโฟกัสที่สถานการณ์อีคอมเมิร์ซ พบว่า ไทยเป็นประเทศอันดับต้นๆในด้านอีคอมเมิร์ซผ่านการใช้โทรศัพท์มือถือ (75.3%) อินโดนิเซีย (64%) อินเดีย (80%) และเมื่อมองด้านโซเชียลมีเดีย ไทยถูกจัดอยู่ในสามประเทศแรก ที่มีผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียแอ็กทีฟมากที่สุด โดยคนไทยมักใช้เวลาท่องโลกโซเชียล 2 ชั่วโมง 55 นาที ตามหลังอินโดนีเซีย ที่มีสถิติการใช้งานอยู่ที่ 3 ชั่วโมง 26 นาที และ 3 ชั่วโมง 53 นาที ในฟิลิปปินส์ นอกจากนั้นนักช็อปออนไลน์ชาวไทย 51% ยังนิยมช็อปปิ้งผ่านโซเชียลมีเดีย ขณะที่ 92% ของผู้ใช้บริการ อีคอมเมิร์ซใช้โซเชียลมีเดียในการชม
นายเทย์เลอร์ แลม หัวหน้าฝ่ายอุตสาหกรรมเทคโนโลยี สื่อ และโทรคมนาคมของดีลอยท์ ไชน่า กล่าวว่า ภูมิภาคเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นคลื่นลูกใหม่ที่จะเป็นผู้นำด้านเศรษฐกิจดิจิทัลในอนาคต
“จากผลการศึกษาของเรา พบว่า เศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศเหล่านี้มีศักยภาพที่สูงมากในการพัฒนา และการให้บริการอย่างทั่วถึง รวมถึงความสะดวก ปลอดภัย และยั่งยืนมากขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยพลิกฟื้นเศรษฐกิจซึ่งได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 โดยผู้บริโภคอายุ 21 ถึง 40 ปีถือเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญในการปรับใช้รูปแบบการใช้ชีวิตดิจิทัลไลฟ์อย่างรวดเร็ว”.