ค้าขาย-คอนเทนต์ออนไลน์เดือด “ไป่ตู้” ส่ง “อ้ายฉีอี้” บุกตลาดไทยสู้ “เน็ตฟลิกซ์”

ศึกโลกออนไลน์ไทยเดือด! “พาณิชย์” เผยผลสำรวจคนไทยกว่า 70% นิยมซื้อสินค้าออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มซื้อขายออนไลน์เป็นอันดับ 1 เชื่อมั่นยังมีโอกาสเติบโตสูงมาก ด้าน “ไป่ตู้” ส่งวิดีโอแพลตฟอร์ม “อ้ายฉีอี้” เบอร์ 1 ของจีนบุกไทยสู้ “เน็ตฟลิกซ์” จ่อยึดเจ้าคอนเทนต์ฝั่งเอเชีย

น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า จากการสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ซื้อสินค้าและบริการผ่านทางช่องทางออนไลน์ ครอบคลุมทุกจังหวัดและทุกอำเภอ รวม 8,163 คน ในเดือน ส.ค.63 ว่า พบว่าผู้บริโภค 70.6% มีการใช้จ่ายออนไลน์ โดยในจำนวน 85.7% ใช้จ่ายในวงเงินไม่เกิน 3,000 บาทต่อเดือน โดยช่องทางที่นิยมซื้อมากที่สุด ได้แก่ Lazada/Shopee 44.7% รองลงมาเป็นห้างค้าปลีกสมัยใหม่ (โลตัส/บิ๊กซี/วัตสัน/ โรบินสัน) 26.6% ซื้อขายผ่านเฟซบุ๊ก 17% และช่องทาง อื่นๆ (Lineman/Grabfood/Foodpanda/ Instagram และ Weloveshoping) ประมาณ 11.0%

สำหรับประเภทสินค้าที่ผู้บริโภคนิยมซื้อทางออนไลน์ที่สำรวจได้พบว่า ได้แก่ เครื่องนุ่งห่มและรองเท้าเป็นอันดับแรก ตามด้วยอาหารและเครื่องดื่ม, สินค้าสุขภาพความงามและของใช้ส่วนบุคคล, ของใช้ภายในบ้าน และอื่นๆ ส่วนเหตุผลสำคัญที่สุดของการซื้อออนไลน์นั้น ได้แก่ ความสะดวก ตามด้วยราคาถูก, มีให้เลือกหลากหลาย, สามารถเปรียบเทียบราคาได้ง่าย, มีส่วนลด และน่าเชื่อถือ

“จากผลสำรวจสะท้อนว่า พฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบันจะให้ความสำคัญกับความสะดวกในการใช้จ่ายมาก ในขณะที่ราคาและความหลากหลายเป็นปัจจัยที่สนับสนุน ดังนั้น ทิศทางและรูปแบบการค้าในอนาคตไม่ว่าจะเป็นออฟไลน์ หรือออนไลน์ ต้องมุ่งให้ความสะดวกแก่ผู้บริโภคเป็นสำคัญ และเชื่อว่ามูลค่าการค้าออนไลน์จะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แม้ในปัจจุบันอาจจะยังมีสัดส่วนไม่มาก เมื่อเทียบกับมูลค่าการค้าออฟไลน์ หรือเท่าที่ สนค.ประมาณการไว้ที่ 10% เท่านั้น ซึ่งจะยังมีโอกาสเพิ่มมูลค่าได้อีกมาก”

ด้านนายผ่านศึก ธงรบ ผู้อำนวยการฝ่ายเนื้อหาแอปพลิเคชัน iQIYI (อ้ายฉีอี้-แปลว่า รักในความแปลกใหม่) แอปวิดีโอแพลตฟอร์มอันดับ 1 จากจีน ซึ่งเพิ่งเปิดตัวในประเทศไทย เปิดเผยว่า การเข้าสู่ตลาดประเทศไทย ถือเป็นกลยุทธ์สำคัญของอ้ายฉีอี้ในการสร้างการเติบโตในภูมิภาคเอเชีย โดยกำลังทยอยเปิดออฟฟิศในสิงคโปร์ ไทย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และมาเลเซียภายในปีนี้ “หากเน็ตฟลิกซ์เป็นวิดีโอแพลตฟอร์มที่เน้นคอนเทนต์ฝั่งอเมริกัน ยุโรป อ้ายฉีอี้ก็อยากจะเป็นเจ้าแห่งคอนเทนต์ทางฝั่งตะวันออก หรือแถบเอเชีย”

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ประเทศที่คนใช้เวลาอยู่บนโลกออนไลน์เฉลี่ยมากกว่าวันละ 10 ชั่วโมง สูงเป็นอันดับต้นๆของโลก ไทยจึงเป็นตลาดที่น่าสนใจยิ่งของบรรดาวิดีโอแพลตฟอร์มทั่วโลกไม่ว่าจะเป็นเน็ตฟลิกซ์จากสหรัฐฯ, VIU จากฮ่องกง, ยูทูบจากสหรัฐอเมริกา, WeTV จากจีน, LineTV จากเกาหลีใต้และล่าสุดคืออ้ายฉีอี้ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มวิดีโอยอดนิยมในจีนด้วย จำนวนผู้รับชมสม่ำเสมอเดือนละ 600 ล้านคน มียอดสมาชิกซึ่งจ่ายเงินเพื่อการรับชม 100 ล้านคน ทั้งนี้ อ้ายฉีอี้เป็นแพลตฟอร์มของบริษัทไป่ตู้ (Baidu) 1 ใน 3 ของกลุ่ม BAT ยักษ์เทคโนโลยีจากจีน ประกอบด้วย ไป่ตู้ อาลีบาบา (Alibaba) และเทนเซนต์ (Tencent) ซึ่งทั้ง 3 รายมีแพลตฟอร์มวิดีโอเป็นของตัวเอง โดยอาลีบาบามีแพลตฟอร์มชื่อ Youku ส่วนเทนเซนต์เป็นเจ้าของ WeTV โดยอ้ายฉีอี้ของไป่ตู้ถือเป็นผู้นำตลาด เพราะไป่ตู้ ซึ่งให้บริการเว็บเพื่อการค้นหา (Search Engine) รายใหญ่ที่สุดของจีนเทียบเคียงได้กับกูเกิล

“จุดเด่นของอ้ายฉีอี้อยู่ที่เทคโนโลยีและคอนเทนต์ ผู้ชมของอ้ายฉีอี้สามารถเข้าถึงเนื้อหาได้ภายใน 2 วินาทีด้วยเทคโนโลยีเฉพาะของเรา นอกจากนั้นยังมีจุดแข็งเป็นคอนเทนต์ภาพยนตร์และซีรีส์จีน ซึ่งมีการลงทุนผลิตสูงเทียบเท่าสตูดิโอยักษ์ใหญ่ โดยคอนเทนต์แม่เหล็กของอ้ายฉีอี้ประกอบด้วยหนังและซีรีส์จีน ซีรีส์เกาหลี และหนังแอนิเมชันจากญี่ปุ่น โดยเน้นการซื้อสิทธิ์แบบเอกซ์คลูซีฟดูได้เฉพาะบนอ้ายฉีอี้เท่านั้น ส่วนของคอนเทนต์จากไทยได้จับมือกับช่องวัน One พันธมิตรไทยรายแรกไปแล้วด้วยการนำซิทคอม “3 หนุ่ม 3 มุม × 2” มาให้ได้รับชมย้อนหลังฟรีที่อ้ายฉีอี้ที่เดียว และต่อจากนี้จะมีการจับมือกับผู้ผลิตคอนเทนต์ไทยในลักษณะเอกซ์คลูซีฟรับชมได้ที่เดียวอย่างต่อเนื่อง”.