ดิ เอ็มควอเทียร์เติมความสมบูรณ์ของ EM DISTRICT

ปัจจุบันธุรกิจศูนย์การค้ามีการแข่งขันสูง ในการตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้า เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ความต้องการที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในยุคชีวิตวิถีใหม่ที่นอกจากจะเข้มข้นในมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดแล้วยังต้องหาสิ่งใหม่ๆ ขึ้นมาตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าด้วย

ศูนย์การค้าดิ เอ็มควอเทียร์ ซึ่งเป็นศูนย์การค้าแห่งที่สองในกลุ่ม EM DISTRIC (ดิ เอ็มดิสทริค) ต่อจากศูนย์การค้าดิ เอ็มโพเรียม ย่านสุขุมวิท ได้ทุ่มงบกว่า 200 ล้านบาท เตรียมเปิดโซน EMJOY พื้นที่เรียนรู้ สู่อนาคตของเยาวชนยุคดิจิทัล ที่เป็น Edutainment Mixed Use รูปแบบใหม่ รวบรวมสถานบันการศึกษาเสริมทักษะการเรียนรู้นอกตำราเรียนสำหรับเยาวชนรุ่นใหม่ พร้อมคอนเซปต์การตกแต่งพื้นที่เน้นสีสันสวยงาม และความครบถ้วนของพื้นที่ใช้สอยสำหรับกลุ่มครอบครัว บนพื้นที่กว่า 6,000 ตารางเมตร บริเวณชั้น 2 พร้อมเปิดบริการเต็มรูปแบบในตุลาคมนี้

นางสาวอรธิรา ภาคสุวรรณ รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ ศูนย์การค้าดิ เอ็มโพเรียม และดิ เอ็มควอเทียร์ กล่าวถึงการเตรียมเปิดโซน EMJOY ในครั้งนี้ว่า ลูกค้ากลุ่มครอบครัวถือเป็นอีกหนึ่งกลุ่มลูกค้าที่มีความสำคัญสำหรับ EM DISTRICT ทั้งศูนย์การค้าดิ เอ็มโพเรียม ดิ เอ็มควอเทียร์ ที่ตั้งอยู่ใจกลางของชุมชนชาวสุขุมวิท ที่เป็นที่อยู่อาศัยของครอบครัวชาวไทย และชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยที่ถือเป็นกลุ่มลูกค้าสำคัญของทั้ง 2 ศูนย์การค้า

โดยที่ผ่านมาการเพิ่มพื้นที่ต่างๆสำหรับกลุ่มครอบครัว รวมถึงการจัดกิจกรรมต่างๆ ได้รับการตอบรับที่ดี และดึงดูดลูกค้ากลุ่มนี้ให้เข้ามาใช้บริการ ดังนั้นการเพิ่มพื้นที่หลักสำหรับกลุ่มครอบครัวจึงเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญและสามารถตอบโจทย์ในเรื่องความครบถ้วน และความหลากหลาย ที่จะช่วยเติมเต็มความสมบูรณ์ของ EM DISTRICT รองรับความต้องการของคอมมูนิตี้ในย่านถนนสุขุมวิท ตอบรับความต้องการและไลฟ์สไตล์ของลูกค้าได้ในปัจจุบัน

โซน EMJOY ที่เป็นพื้นที่ในการสร้างพื้นฐานการเรียนรู้ สำหรับเยาวชนยุคใหม่ เจเนอเรชันอัลฟ่า ซึ่งเป็นเด็กที่เกิดในยุคดิจิทัลที่ใช้ชีวิตกับเทคโนโลยีมาตั้งแต่เกิด และมีความเป็นตัวของตัวเอง การส่งเสริมความรู้ให้กับเด็กรุ่นนี้ จึงต้องเน้นในเรื่องของความเป็นนักคิดสร้างสรรค์ การเพิ่มเติมความรู้ในโลกของความเป็นจริง ให้เกิดทักษะการแก้ปัญหา การสื่อสาร และความคิด เพื่อพัฒนา อารมณ์ ความรู้ โดยเด็กๆจะเปิดรับองค์ความรู้ทุกๆรูปแบบที่เหมาะสมกับตนเอง

นอกจากนี้ยังเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้ากลุ่มครอบครัวที่อาศัยอยู่ในย่านกลางเมือง ให้สามารถใช้บริการสถาบันการศึกษาต่างๆ ใกล้บ้าน โดยไม่ต้องเดินทางไกลพาเด็กๆ ไปเรียนที่สถาบันการศึกษาดังๆ ซึ่งส่วนใหญ่ในปัจจุบันตั้งอยู่ในย่านชานเมือง

ด้านนางสุธาวดี ศิริธนชัย รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายการตลาด ศูนย์การค้าดิ เอ็มโพเรียม และดิ เอ็มควอเทียร์ กล่าวว่า EMJOY แบ่งเป็น Category ต่างๆ ได้แก่ Brain Evolution, Art & Music, Dance & Sport, Kid Facility และ Café & Dining รวมทั้งหมด 18 แห่ง โดยมีสถาบันที่เปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทยที่ EMJOY ได้แก่ Copel สถาบันพัฒนาสมองเด็กเล็กที่มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับที่ประเทศญี่ปุ่นมากว่า 30 ปี ที่มีแนวทางในการพัฒนาสมองเด็กให้มีการเรียนรู้ที่ดีและดึงศักยภาพของเด็กได้อย่างสูงสุด และ KX Smart Play ศูนย์พัฒนาทักษะด้านเทคโนโลยี ความคิดสร้างสรรค์ล้ำยุค ที่เป็นต้นแบบจากการบริหารงานของ KX Knowledge Xchange มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี โดยใช้ระบบการสอนของโรงเรียนดรุณ–สิขาลัย ที่เน้นทางด้านพัฒนาแนวความคิดเชิงสร้างสรรค์

รวมถึงสถาบันการศึกษาชื่อดังที่เข้าเปิดบริการครั้งแรกในศูนย์การค้าอย่าง D Dance Thailand ทุกคนจะได้เรียนเต้นกับ CHOREOGRAPHER ผู้ออกแบบท่าเต้นของศิลปินชื่อดังมากที่สุดในประเทศไทย พร้อมสถาบันการศึกษาชื่อดังและร้านค้าต่างๆ ได้แก่ Code Genius, Haole, I Can Read, Math Talent, Clayworks, Kolor Me, โรงเรียนดนตรีมหาวิทยาลัยมหิดล, Play Chef, Vocalize, Bungee Workout, โรงเรียนชอยเทควันโด (โค้ชทีมชาติ) โดยในแต่ละสถาบันจะมีการเสริมคอร์ส และรูปแบบการเรียนการสอนที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าดิ เอ็มควอเทียร์ ที่แตกต่างจากที่อื่นๆ เป็นต้น

นับเป็นการเพิ่มพื้นที่หลักใหม่ ที่จะเติมเต็มให้ EM DISTRIC เป็นย่านการค้า แหล่งที่พักอาศัยและแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ ให้มีความสมบูรณ์แบบในอีก 2–3 ปีข้างหน้า.

วานิชหนุ่ม
wanich@thairath.co.th