“เวิร์คพอยท์” เรตติ้งหล่นไปอันดับ 6 "ไทยรัฐทีวี" แซงปาดหน้าขึ้นท่ี 5

Business & Marketing

Marketing & Trends

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

“เวิร์คพอยท์” เรตติ้งหล่นไปอันดับ 6 "ไทยรัฐทีวี" แซงปาดหน้าขึ้นท่ี 5

Date Time: 16 มิ.ย. 2563 09:00 น.

Summary

  • ระทึกเรตติ้งช่องเวิร์คพอยท์ร่วงลงอย่างมีนัยสำคัญจากอันดับ 4 ตุ๊บลงอันดับ 6 ของตารางทีวีดิจิทัล ระหว่างวันที่ 8–14 มิ.ย.ที่ผ่านมา ถูกอัมรินทร์ทีวีและไทยรัฐทีวีปาดแซงขึ้นอันดับ 4 และ 5

Latest

รอบรั้วการตลาด : NUUI World มองคนไทยทุ่มซื้อสินค้าเพื่อสุขภาพแม้เศรษฐกิจชะลอตัว

ระทึกเรตติ้งช่องเวิร์คพอยท์ร่วงลงอย่างมีนัยสำคัญจากอันดับ 4 ตุ๊บลงอันดับ 6 ของตารางทีวีดิจิทัล ระหว่างวันที่ 8-14 มิ.ย.ที่ผ่านมา ถูกอัมรินทร์ทีวีและไทยรัฐทีวีปาดแซงขึ้นอันดับ 4 และ 5 ตามลำดับ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ทำให้เรตติ้งของ 15 ช่องทีวีดิจิทัลปรับเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนเมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา เนื่องจากคนส่วนใหญ่เก็บตัวอยู่ที่บ้านและเปิดรับชมโทรทัศน์ตลอดทั้งวัน และเรตติ้งเริ่มลดลงหลังรัฐบาลผ่อนคลายมาตรการปลดล็อก ทยอยเปิดออฟฟิศ โรงเรียน ตั้งแต่เดือน พ.ค. โดยเรตติ้ง 5 อันดับแรกของทีวียอดนิยมประจำเดือน พ.ค. (ข้อมูลจากนีลเส็นและทีวีดิจิทัลวอช) ได้แก่ ช่อง 7 มีเรตติ้งอยู่ที่ 1.976, ช่อง 3 ที่ 1.237, ช่องโมโน 0.890, เวิร์คพอยท์ 0.673 และไทยรัฐทีวี 0.607

ทั้งนี้ ในบรรดา 5 ช่องยอดนิยมพบว่าส่วนใหญ่สามารถรักษาระดับเรตติ้งไว้ได้สม่ำเสมอ เมื่อเปรียบเทียบกับเรตติ้งเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ยกเว้นแต่เพียงช่องเวิร์คพอยท์ ที่เรตติ้งลดลงต่อเนื่องจากที่เคยมีเรตติ้งแตะ 1 ในช่วงเริ่มต้นออกอากาศตั้งแต่ปี 2557 ลดลงเหลือ 0.8 ในปี 2561 และ 0.7 ในปี 2562 และเฉลี่ยที่ 0.6 ตลอด 5 เดือนแรกของปี 2563 ทั้งที่คู่แข่งหลายช่องทยอยปิดกิจการคืนใบอนุญาต ทำให้ช่องที่เหลือทำเรตติ้งได้ดีขึ้นหรืออย่างน้อยเสมอตัว

โดยเริ่มจากช่อง 7 ที่ทำเรตติ้งรวมปี 2561 ไว้ที่ 1.827 และ 1.862 ในปี 2562 ขณะที่ช่อง 3 ประคองเรตติ้งไว้ที่ 1.331 ในปี 2561 และ 1.166 ในปี 2562 โดยเมื่อตัดสินใจคืนใบอนุญาตไป 2 ช่อง ทั้งช่อง 3SD และช่อง 13 ทำให้เรตติ้งกระเตื้องขึ้นขยับเป็น 1.2 ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ ส่วนช่องโมโนสามารถรักษาระดับเรตติ้ง 0.8-0.9 ครองอันดับ 3 ไว้ได้เหนียวแน่นต่อเนื่องตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ด้านไทยรัฐทีวีทำเรตติ้งขยับจาก 0.4 ในช่วงปี 2561-2562 เป็น 0.6 ในเดือน พ.ค.2563 จากความนิยมในการรับชมข่าวสาร โดยเฉพาะการติดตามข่าวโควิด ขณะที่ช่องยอดนิยมอื่นๆ ที่เหลือ ได้แก่ ช่อง one รักษาเรตติ้งเฉลี่ยไว้ที่ 0.5 ได้ตลอดเกือบ 3 ปีที่ผ่านมา อมรินทร์ขยับจาก 0.3 ในปี 2561-2562 เป็นล่าสุด 0.5 และช่อง 8 รักษาอันดับ 8 ไว้ที่เรตติ้ง 0.3 คงที่จนปัจจุบัน

ผู้สื่อข่าวประเมินพบว่า เวิร์คพอยท์ซึ่งถนัดผลิตรายการวาไรตี้ มีรายการที่เป็นแม่เหล็กเช่นไมค์ทองคำ ซึ่งเป็นรายการประกวดร้องเพลง และภายหลังถูกหลายช่องนำไปทำตาม เกิดรายการลักษณะเดียวกันผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด ทำให้การแข่งขันสูง ขณะที่รายการหน้ากากนักร้อง ซึ่งเคยได้รับความนิยมสูงสุด เริ่มคลายมนต์ขลัง เรตติ้งในซีซันหลังๆจึงชักแผ่ว ส่วนรายการข่าวที่ระยะหลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก มีคู่แข่งที่แข็งแรงกว่า จึงไม่สามารถแข่งขันได้ดีเท่าที่ควร เช่นเดียวกับรายการประเภทละคร ปัญหาดังกล่าวยังสะท้อนให้เห็นถึงกำไรของเวิร์คพอยท์เมื่อไตรมาสแรกของปีนี้ ซึ่งอยู่ที่ 46 ล้านบาท ปรับลดลง 38% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยเวิร์คพอยท์ระบุว่าเป็นผลกระทบจากการลดลงของโฆษณาเพราะโควิด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทีวีดิจิทัลวอช ยังได้รายงานเรตติ้งล่าสุดวันที่ 8-14 มิ.ย. พบว่าเรตติ้งมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยช่องเวิร์คพอยท์ที่เคยรักษาอันดับ 4 เอาไว้ได้เหนียวแน่น ทำเรตติ้งร่วงลงมาอยู่ที่อันดับ 6 ที่ 0.627 ถูกช่องอมรินทร์ทีวีและไทยรัฐทีวีเฉือนแซงไปคว้าอันดับ 4 และ 5 ตามลำดับ โดยอมรินทร์คว้าเรตติ้งไปได้ 0.672 ไทยรัฐทีวี 0.659 ส่วนช่องยอดนิยม 3 อันดับแรก ยังเป็นการรักษาแชมป์เหนียวแน่นของช่อง 7 ที่เรตติ้ง 1.686, ช่อง 3 ที่ 1.373 และโมโน 0.887

ล่าสุดรายการเรตติ้งดีที่สุดของเวิร์คพอยท์ ได้แก่ รายการเพชรตัดเพชร ออกอากาศวันอาทิตย์ที่เรตติ้ง 3.3 รองลงมาเป็นไมค์ทองคำ 3 ฤดู ออกอากาศวันเสาร์ เรตติ้ง 2.127 ส่วนรายการเด่นระหว่างสัปดาห์เป็นไมค์หมดหนี้ และซีรีส์พระพุทธเจ้า ขณะที่ช่องอมรินทร์ที่มาแรงแซงโค้ง โดยแซงทั้งเวิร์คพอยท์และไทยรัฐทีวีนั้น มีรายการข่าวเด่นชื่อทุบโต๊ะโชว์ ออกอากาศทุกวันช่วงเย็นถึงค่ำ และรายการข่าวของอมรินทร์ เรตติ้งปรับสูงขึ้นทั้งข่าวเช้าและเที่ยง.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ