ฟุ้งทุนไหลเข้าตลาดหุ้นไทยแสนล้าน

นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ จำกัด เปิดเผยว่า ได้ประเมินเป้าดัชนีหุ้นไทยปีนี้ไว้ที่ 1,785 จุด ภายใต้สมมติฐานว่าอัตราส่วนของกำไรต่อหุ้น (EPS) ของบริษัทจดทะเบียนเฉลี่ยอยู่ที่ 104 บาทต่อหุ้น โดยภาพรวมช่วงครึ่งปีหลัง มองว่าตลาดเริ่มได้รับแรงหนุนจากการคาดหวังผลประกอบการที่เริ่มฟื้นตัว หลังจากไม่ต้องตั้งสำรองค่าใช้จ่ายพนักงานตามพรบ.แรงงานฉบับใหม่ รวมถึงรัฐบาลใหม่เดินหน้ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และประเทศไทยยังมีโอกาสได้รับการปรับอันดับเครดิตเพิ่มขึ้น ท่ามกลางสภาพคล่องทางการเงินของโลกจะเริ่มดีขึ้น

จากปัจจัยบวกต่างๆที่เกิดขึ้น จะช่วยหนุนให้กระแสเงินทุนหรือเม็ดเงินนักลงทุนต่างชาติ (Fund Flow) ไหลเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีหลังอีกราว 105,000 ล้านบาท ซึ่งจะเริ่มทยอยเข้ามาชัดเจนกลางเดือน ส.ค.นี้ หลังบริษัทจดทะเบียนประกาศงบไตรมาส 2 เสร็จสิ้น จากช่วงครึ่งปีแรกเงินทุนต่างชาติไหลเข้าตลาดหุ้นไทยประมาณ 45,000 ล้านบาท รวมทั้งปีนี้คาดว่าเงินทุนต่างชาติจะไหลเข้ารวม 150,000 ล้านบาทเมื่อเทียบกับช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมาภายใต้รัฐบาลทหาร มีเม็ดเงินไหลออกจากตลาดหุ้นไทยไปราว 480,000 ล้านบาท

สำหรับหุ้นที่น่าลงทุนหรือจะได้ปัจจัยบวกหนุนในช่วงครึ่งปีหลัง คือหุ้นกลุ่มสื่อสาร รับเหมาก่อสร้าง ขนส่ง การเงิน (สินเชื่อเช่าซื้อขนาดเล็ก) กลุ่มค้าปลีก และอาหาร ซึ่งได้รับอานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาล ส่วนธุรกิจหรือกลุ่มที่ต้องเฝ้าระหว่างคือ ปิโตรเคมี พลังงาน เนื่องจากมีโรงงานปิโตรเคมีเกิดขึ้นใหม่จำนวนมาก ขณะที่โรงงานเก่าต้องปิดซ่อมบำรุงจำนวนมาก กระทบรายได้บริษัทจดทะเบียน ส่วนกลุ่มธนาคารพาณิชย์เนื่องจากสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ยังอยู่ในระดับสูงและดอกเบี้ยอยู่ในทิศทางขาลง ไม่เป็นผลดีต่อกลุ่มแบงก์พาณิชย์ และกลุ่มที่แนะหลีกเลี่ยงคือกลุ่มสื่อ ที่การแข่งขันยังสูง ส่วนกลุ่มสื่อนอกบ้าน ขณะนี้ราคาหุ้นก็ได้ปรับตัวขึ้นมาสูงมากแล้ว ขณะที่กลุ่มยานยนต์ และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ยังได้รับผลกระทบจากการส่งออกที่ชะลอตัว.