
"พาณิชย์" เดินหน้าแก้ราคามะพร้าวตกต่ำ ทุ่มงบกว่า 33 ล้านบาท เปิดจุดรับซื้อเนื้อมะพร้าวแห้ง ดีเดย์สัปดาห์หน้า เชื่อช่วยดันราคามะพร้าวในประเทศให้สูงขึ้นได้...
นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยถึงการแก้ปัญหาราคามะพร้าวตกต่ำในขณะนี้ว่า ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ได้อนุมัติเงินเร่งด่วนจากกองทุนรวม เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรจำนวน 33.48 ล้านบาท เพื่อนำร่องดำเนินการรับซื้อเนื้อมะพร้าวแห้ง 5,000-6,000 ตัน ในพื้นที่แหล่งผลิตมะพร้าวสำคัญ 4 จังหวัด ได้แก่ ประจวบคีรีขันธ์, ชุมพร, สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช
ทั้งนี้ แต่ละจังหวัดจะได้รับการจัดสรรงบประมาณเพื่อรับซื้อตามสัดส่วนการผลิตมะพร้าว คือ ประจวบคีรีขันธ์ 13.4 ล้านบาท, ชุมพร 10.7 ล้านบาท, จ.สุราษฎร์ธานี 5.4 ล้านบาท และนครศรีธรรมราช 4 ล้านบาท โดยกรมฯ ได้ประสานให้โรงงานผลิตน้ำมันมะพร้าวมาช่วยรับซื้อแล้ว
นอกจากนี้ จังหวัดจะเป็นผู้เปิดจุดรับซื้อ โดยให้เกษตรกรนำเนื้อมะพร้าวแห้งมาจำหน่ายให้แก่ผู้ประกอบการ และโรงงานที่สนใจเข้าร่วมโครงการ โดยเกษตรกรจะขายเนื้อมะพร้าวแห้งที่ความชื้นไม่เกิน 6% ได้ในราคากิโลกรัม (กก.) 15 บาท ซึ่งเป็นเงินที่ผู้รับซื้อจ่ายให้ 10 บาท รัฐจ่ายเพิ่มให้ 5 บาท และรัฐยังจะจ่ายค่าบริหารจัดการคุณภาพ และค่ารวบรวมให้ผู้รับซื้ออีก กก.ละ 1.50 บาทด้วย เริ่มรับซื้อได้ตั้งแต่อาทิตย์หน้าเป็นต้นไป
ขณะที่ การประชุมคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ที่มี นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ เป็นประธานสัปดาห์หน้า จะเสนอให้กำหนดให้จังหวัดภาคใต้ของไทย 15 จังหวัด ทั้งที่อยู่ริมฝั่งอ่าวไทย และทะเลอันดามัน เริ่มตั้งแต่ประจวบคีรีขันธ์เป็นต้นไป ต้องขออนุญาตการขนย้ายมะพร้าวตั้งแต่ 7 ตันขึ้นไป เพื่อป้องกันปัญหาการลักลอบนำเข้า ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ราคามะพร้าวของไทยตกต่ำ จากก่อนหน้านี้ ที่ได้ประสานจังหวัด หน่วยงานความมั่นคง และกรมศุลกากร ให้เข้มงวดตรวจสอบลักลอบการนำเข้ามาแล้ว โดยล่าสุดราคามะพร้าวไทยอยู่ที่ลูกละ 5-7 บาท จากก่อนหน้านี้ที่ลูกละ 3-4 บาท แม้ราคาปรับสูงขึ้น แต่เกษตรกรยังไม่พอใจ และต้องการให้ราคาสูงขึ้นกว่าลูกละ 15 บาท
ส่วนกรณีที่เกษตรกรจะรวมกลุ่มกันเดินทางเข้ามาประท้วงรัฐบาลที่กรุงเทพฯ วันที่ 22 ม.ค.นี้ นายวิชัย กล่าวว่า มาตรการเปิดจุดรับซื้อมะพร้าวน่าจะทำให้ราคามะพร้าวในประเทศปรับตัวสูงขึ้นได้ โดยปริมาณเนื้อมะพร้าวแห้งที่ 5,000-6,000 ตันที่ให้เปิดจุดรับซื้อ เมื่อคิดเป็นมะพร้าวลูกจะได้ที่ประมาณ 60 ล้านลูก ถือว่าเป็นปริมาณที่มากพอสมควร เกษตรกรไม่ต้องเดินทางเข้ามากรุงเทพฯ จะดีกว่า เพราะจะเสียเวลา
สำหรับปัญหาราคามะพร้าวตกต่ำมาจากตั้งแต่ปี 61 เป็นต้นมา ผลผลิตมะพร้าวของไทยเริ่มมากขึ้น จากในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา เกิดโรคระบาดมะพร้าวในไทย ทำให้ผลผลิตเสียหายจำนวนมาก ผู้ประกอบการซึ่งเป็นผู้ใช้มะพร้าว อย่างผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูป ผู้ผลิตน้ำมันมะพร้าว เป็นต้น จึงเพิ่มปริมาณการนำเข้า จนเมื่อปี 61 ไทยสามารถกำจัดโรคระบาดในมะพร้าวได้ ทำให้ผลผลิตในประเทศเพิ่มขึ้นมาก ขณะที่ยังมีการนำเข้าอยู่ ทั้งที่ถูกต้อง และลักลอบนำเข้า ส่งผลให้ราคามะพร้าวในประเทศตกต่ำลง และเกษตรกรเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ปัญหามาอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมารัฐบาลได้แก้ปัญหาราคาตกต่ำไปแล้วส่วนหนึ่ง ทั้งกำหนดด่านนำเข้ามะพร้าวเพียง 2 ด่านคือ ท่าเรือคลองเตย และท่าเรือแหลมฉบัง พร้อมกำหนดให้จังหวัดที่เป็นแหล่งเพาะปลูกมะพร้าว คือ ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช ผู้ประกอบการต้องขออนุญาตการขนย้ายตั้งแต่ 7 ตันขึ้นไป ป้องกันปัญหาลักลอบนำเข้า เป็นต้น แต่ยังไม่สามารถแก้ปัญหาราคาตกต่ำได้.