ดีแทคแจ้งผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2561 ลูกค้ามือถือหายกว่า 3 แสนราย รายได้ลดลง 4.5% ขาดทุน 921 ล้านบาท
ดีแทคแจ้งผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2561 ลูกค้ามือถือหายกว่า 3 แสนราย รายได้ลดลง 4.5% ขาดทุน 921 ล้านบาท
บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค รายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2561 ที่ผ่านมา ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ดังนี้ มีรายได้ 17,963 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาส 3 ปีที่แล้ว 4.5% มีต้นทุนการดำเนินงานไม่รวมค่าเชื่อมต่อโครงข่ายอยู่ที่ 12,937 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% และขาดทุน 921 ล้านบาท จากไตรมาส 3 ปีที่แล้วที่กำไร 600 ล้านบาท เพราะกำไรก่อน ดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อม และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ลดลง โดยมีค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายที่เพิ่มขึ้น ซึ่งรวมถึงรายการพิเศษจากค่าตัดจำหน่ายที่เป็นผลจากการระงับข้อพิพาทที่เกี่ยวข้องกับกรรมสิทธิ์ในเสาโทรคมนาคมกับ กสท โทรคมนาคม
สำหรับจำนวนลูกค้ารวมอยู่ที่ 21.3 ล้านเลขหมาย ลดลง 313,000 เลขหมาย จากลูกค้าระบบเติมเงินที่มีอยู่ 15.3 ล้านเลขหมาย ลดลง 404,000 เลขหมาย เพราะการแข่งขันสูง และแคมเปญการเปลี่ยนลูกค้าจากระบบเติมเงินเป็นรายเดือน ส่วนฐานลูกค้ารายเดือนเพิ่มขึ้นกว่า 92,000 เลขหมาย ทำให้มีลูกค้ารายเดือนรวมกว่า 6 ล้านเลขหมาย แต่ยังเพิ่มขึ้นน้อยกว่าไตรมาส 2/2561 ที่เพิ่มขึ้น 154,000 เลขหมาย เพราะความไม่แน่นอนเรื่องการหมดอายุสัญญาสัมปทาน
ขณะเดียวกัน ดีแทคได้แจ้งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาว่า จะยื่นเอกสารร่วมประมูลขอรับใบอนุญาตคลื่นความถี่ย่าน 900 MHz กับสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช.
สำหรับราคาหุ้นดีแทควันนี้ปิดที่ 52.50 บาท ลดลง 0.50 บาท คิดเป็น 1.16%