ผู้บริโภคร้อง “พาณิชย์” เจอพ่อค้าแม่ค้าเฟซบุ๊ก ไม่ปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายสินค้า แต่ให้ Inbox สอบถาม แล้วก็ถูกโก่งราคา แนะทางออก ให้ร้องเรียนสายด่วน 1569 จะถูกดำเนินการขั้นเด็ดขาด หากจับกุมได้ คนแจ้งได้รับส่วนแบ่งค่าปรับ 25% ส่วนผู้ที่พบเห็นสินค้าปลอม แจ้งสายด่วน 1368 จะได้ส่วนแบ่งค่าปรับด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ว่า ขณะนี้ได้รับการร้องเรียนจากประชาชน เกี่ยวกับการซื้อขายสินค้าออนไลน์ โดยเฉพาะทางเฟซบุ๊ก ที่ผู้ขายมักใช้วิธีการให้ Inbox เข้าไปสอบถามราคา โดยไม่แจ้งราคาจำหน่ายไว้อย่างเปิดเผย เห็นได้ชัด ทำให้ผู้บริโภคไม่ทราบราคาที่แท้จริง และมักถูกเอาเปรียบในการซื้อสินค้าที่ราคาสูงเกินจริง หรือแม้แต่การซื้อสินค้าชนิดเดียวกัน จากร้านเดียวกัน ก็ได้ราคาที่ไม่เท่ากัน ซึ่งถือว่าผิดพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 เพราะไม่มีการแสดงราคาจำหน่ายให้ชัดเจน
ทั้งนี้ ในปัจจุบันการค้าขายได้เกิดกระแสพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์จำนวนมาก โดยเฉพาะการค้าขายผ่านเฟซบุ๊ก ทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เครื่องประดับ เป็นต้น แต่มีหลายๆ ร้านที่ไม่ยอมปิดป้ายแสดงราคาจำหน่าย เมื่อคนสนใจ ใช้วิธีให้ Inbox เข้าไปถามราคา ทำแบบนี้ ถือว่าผิดกฎหมาย เพราะกฎหมายกำหนดไว้ชัดเจนว่า การจำหน่ายสินค้าหรือบริการต้องปิดป้ายแสดงราคาให้ชัดเจน เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับรู้และใช้ตัดสินใจ ซื้อสินค้าหรือใช้บริการ โดยการไม่ปิดป้ายแสดงราคา มีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท
สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหา หากประชาชนที่พบเห็นการจำหน่ายสินค้า โดยไม่ปิดป้ายแสดงราคา สามารถแจ้งเรื่องได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน โทร.1569 และเมื่อมีการจับกุมและเปรียบเทียบปรับได้แล้ว ผู้ที่แจ้ง จะได้รับสินบนนำจับ 25% ของเงินค่าปรับ เช่น หากปรับสูงสุด 10,000 บาท ก็จะได้รับส่วนแบ่ง 2,500 บาท จึงขอความร่วมมือให้ประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตา และแจ้งเรื่องเข้ามาได้ หากมีการพบเห็นกรณีดังกล่าว
ขณะเดียวกัน พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 ได้กำหนดให้การจำหน่ายสินค้าและบริการ จะต้องปิดป้ายแสดงราคาให้ชัดเจน เป็นตัวเลขภาษาอารบิก แสดงขนาด ปริมาณ น้ำหนักให้ชัดเจน ราคาต้องเป็นภาษาไทย ราคาต้องตรงกับราคาที่ขายจริง แต่หากขายต่ำกว่าราคาปกติ ก็สามารถทำได้ แต่ต้องระบุให้ชัดเจน และหากมีค่าใช้จ่ายอื่นๆเพิ่มเติมนอกเหนือจากราคาสินค้าและบริการ เช่น ค่าขนส่ง ค่าหีบห่อ เป็นต้น จะต้องแจ้งให้ชัดเจนด้วย
นอกจากนี้ ในกรณีการจำหน่ายสินค้าปลอมทางเฟซบุ๊ก กรมทรัพย์สินทางปัญญา ได้ตรวจสอบและร่วมมือกับเจ้าของสิทธิ์ในการ Report เข้าไปยังเฟซบุ๊ก เพื่อให้ปิดบัญชีอย่างต่อเนื่อง และยังได้ร่วมมือกับเจ้าของสิทธิ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ในการดำเนินการทางกฎหมาย ทั้งการสืบค้นหาสถานที่ที่ใช้เป็นที่เก็บสินค้าและเข้าไปจับกุม
ทั้งนี้ ในส่วนของการจับกุมสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ผู้ที่แจ้งเบาะแส ก็จะได้รับส่วนแบ่งค่าปรับเช่นเดียวกันกับการแจ้งเบาะแสการไม่ปิดป้ายแสดงราคา โดยแจ้งได้ที่สายด่วนกรมทรัพย์สินทางปัญญา โทร. 1368 แต่จะได้รับส่วนแบ่งมากกว่า เพราะค่าปรับในคดีปลอมเครื่องหมายการค้าสูงกว่า หากคดีถึงที่สุดแล้ว และมีการสั่งปรับผู้ที่จำหน่ายสินค้าปลอม จะได้รับส่วนแบ่ง 20% ของเงินค่าปรับทั้งหมด ซึ่งที่ผ่านมา ได้จ่ายเงินรางวัลนำจับไปแล้วเป็นหลักล้านบาท.