ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงพาณิชย์ได้รับการร้องเรียนจากภาครัฐและเอกชน ถึงกรณีการออกประกาศกระทรวงพาณิชย์ ที่กำหนดให้บารากุและบารากุไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า เป็นสินค้าต้องห้ามนำเข้ามาในราชอาณาจักร เพราะในทางปฏิบัติได้ก่อให้เกิดปัญหามากมาย ทั้งการลักลอบนำเข้าและจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าซึ่งพบเห็นได้ทั่วไป และยังพบว่ามีการใช้กฎหมายเอาผิดกับผู้ที่สูบบุหรี่ไฟฟ้าในปัจจุบันด้วย สำหรับแนวทางแก้ปัญหานั้น ในเร็วๆ นี้ กระทรวงพาณิชย์จะนัดประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการคลัง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อหาข้อสรุป
ข้อเสนอเบื้องต้นมีหลายทางเลือก เช่น ยกเลิกประกาศกระทรวงพาณิชย์ที่ห้ามนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า และเปิดให้นำเข้าได้ตามปกติ แต่กระทรวงสาธารณสุขจะต้องมีข้อสรุปให้ได้ก่อนว่าบุหรี่ไฟฟ้าเป็นอันตรายต่อสุขภาพหรือไม่ เพราะกระทรวงพาณิชย์ไม่สามารถชี้ได้ และในกรณีหากอนุญาตให้นำเข้าจะมีมาตรการดูแลเพิ่มเติมอย่างไร เช่น การเก็บภาษีนำเข้าอาจเก็บในอัตราสูง และใช้เงินส่วนนี้มาเป็นกองทุนดูแลปัญหาสุขภาพ หรือมีมาตรการกำหนดไว้สำหรับผู้ที่ต้องการนำเข้า เป็นต้น ทั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องไปพิจารณาข้อดีข้อเสียให้ได้ก่อน แล้วมาเสนอผลกับกระทรวงพาณิชย์ ว่าจะยกเลิกการห้ามนำเข้าหรือไม่ หากได้ข้อสรุปว่าจะห้ามนำเข้าต่อไป ก็ไม่ต้องทำอะไร แต่หากต้องการให้ยกเลิกการห้ามนำเข้า กระทรวงจะทำเรื่องเสนอ ครม.เพื่อพิจารณายกเลิกกฎกระทรวงต่อไป
ทั้งนี้ ปัญหาที่เกิดขึ้นมีหลายส่วน เช่น คนเดินทางไปต่างประเทศและซื้อบุหรี่ไฟฟ้าเข้ามาก็จะถูกดำเนินคดี บางกรณีผู้ที่ครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าและสูบบุหรี่ไฟฟ้า อาจถูกจับดำเนินคดีข้อหาลักลอบนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งมีกรณีเกิดขึ้นแล้วทั้งกับคนไทยและนักท่องเที่ยว และยังพบปัญหาการลักลอบจำหน่าย ส่วนข้อเสนอของเครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้ายืนยันว่า บุหรี่ไฟฟ้ามีอันตรายน้อยกว่าการสูบบุหรี่มวน และได้ยื่นเรื่องนี้ต่อหน่วยงานรัฐ เพื่อให้ตรวจสอบการห้ามนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า เพราะเป็นการละเมิดสิทธิในการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ที่อันตรายน้อยกว่าบุหรี่มวน และขอให้ลดระดับการห้ามนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า โดยเปลี่ยนมาเป็นการควบคุมอย่างถูกต้องตามกฎหมาย.