นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบมาตรการพัฒนาอุตสาหกรรมชีวภาพของไทย ปี 2561-2570 มีพื้นที่เป้าหมายโครงการ 3 พื้นที่ คือเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี), ภาคอีสานตอนกลาง ที่ จ.ขอนแก่น, ภาคเหนือตอนล่าง ที่ จ.นครสวรรค์ และกำแพงเพชร เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมชีวภาพ คือพลังงานชีวภาพ ชีวเคมีภัณฑ์ พลาสติกชีวภาพ ชีวเภสัชภัณฑ์ อาหารแห่งอนาคต อาหารสัตว์แห่งอนาคต คาดว่าเกิดการลงทุนภายในประเทศ 200,000 ล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุนช่วง 5 ปี (ปี 2561-2565) 131,770 ล้านบาท และปี 2566-2570 จำนวน 67,795 ล้านบาท โดยตั้งเป้าให้ปี 2570 ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมดังกล่าวของทวีปเอเชีย
ทั้งนี้ อุตสาหกรรมดังกล่าวจะช่วยสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรเพิ่มขึ้น จากเดิมเกษตรกรมีรายได้ 48,000 บาทต่อคนต่อปี เพิ่มเป็น 65,000-85,000 บาทต่อคนต่อปี เช่น อ้อย มันสำปะหลัง นำไปผลิตเอทานอล สารให้ความหวาน เม็ดพลาสติกชีวภาพ สร้างมูลค่าเพิ่มได้ 32-110 เท่า ปาล์มน้ำมันผลิตวิตามิน สร้างมูลค่าเพิ่มได้ 20-45 เท่า รวมทั้งยางพารานำไปผลิตยางล้อรถยนต์ ถุงมือยาง ซึ่งจะลงทุนในอีอีซี เช่น โครงการน้ำยาล้างไต โครงการผลิตพลาสติกชีวภาพ โครงการพัฒนาอุตสาหกรรมเคมีชีวภาพครบวงจรต่อยอดจากอ้อย มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน ที่นครสวรรค์ โครงการพัฒนาอุตสาหกรรมเคมีชีวภาพครบวงจรการผลิตกรดแล็กติก ที่กำแพงเพชร และผลิตเบต้า กรูแคน สำหรับอุตสาหกรรมอาหาร เป็นต้น.