บอร์ดแข่งขันทางการค้าสั่งส่งหนังสือคำสั่งทางปกครองให้ “ล้งผลไม้” หยุดเอาเปรียบชาวสวน กดราคารับซื้อ หากเพิกเฉย ปรับไม่เกิน 6 ล้านบาท ขณะที่ “พาณิชย์” จ่อใช้กฎหมาย 2 ฉบับ เล่นงานผู้รับซื้อมังคุด จ.นครศรีธรรมราช หลังกดราคารับซื้อหนัก ทำชาวสวนเดือดร้อน
นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการแข่งขันทางการค้า (บอร์ดแข่งขันฯ) ที่มีนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ เป็นประธาน ว่า ที่ประชุมมีมติให้ออกหนังสือคำสั่งทางปกครองตามมาตรา 60 พ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า พ.ศ.2560 สั่งให้ผู้รวบรวม คัดแยก บรรจุ และส่งออกผลไม้ (ล้ง) 1 ราย ในจังหวัดจันทบุรี หยุดพฤติกรรมที่อาจขัดต่อกฎหมายแข่งขันทางการค้า มาตรา 57 (2) ใช้อำนาจต่อรองเหนือกว่าอย่างไม่เป็นธรรม จนก่อให้เกิดผลเสียหายต่อธุรกิจ หากไม่หยุดพฤติกรรมตามหนังสือคำสั่งทางปกครอง จะมีความผิดปรับไม่เกิน 6 ล้านบาท และยังไม่หยุดอีก จะปรับอีกวันละ 300,000 บาท และให้มารายงานตัวต่อสำนักงานแข่งขันทางการค้า ภายใน 5 วันนับจากวันได้รับหนังสือคำสั่งทางปกครอง “คาดว่าจะออกหนังสือคำสั่งทางปกครองได้สัปดาห์นี้ เคสนี้เป็นครั้งแรกที่บอร์ดแข่งขันฯมีมติว่าทำผิดตามกฎหมายแข่งขันฉบับใหม่ โดยการสั่งให้หยุดพฤติกรรม ดำเนินการได้หลังจากออกหนังสือคำสั่งทางปกครองแล้ว”
นอกจากนี้ กรมฯได้ตรวจสอบการรับซื้อมังคุดที่จังหวัดนครศรีธรรมราช พบมีผู้รับซื้อมังคุดกดราคารับซื้อจากเกษตรกร ล่าสุดนายสนธิรัตน์สั่งการให้กรมฯดูแลแล้ว จึงขอเตือนผู้ที่มีพฤติกรรมดังกล่าว ให้หยุดพฤติกรรม ไม่เช่นนั้นจะดำเนินการตามกฎหมาย โดยมีความผิดทั้งตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 มาตรา 29 ที่จงใจทำให้ราคาต่ำเกินควร และทำให้ตลาดเกิดความปั่นป่วน มีโทษจำคุก 7 ปี ปรับ 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนี้ อาจมีโทษความผิดตาม พ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า พ.ศ.2560 มาตรา 54 การมีพฤติกรรมร่วมกัน (ฮั้ว) กดราคารับซื้อ มีโทษจำคุก 2 ปี และปรับ 10% ของยอดขายในปีที่กระทำผิด “ช่วงนี้ซึ่งเป็นช่วงต้นฤดู ผลผลิตยังมีน้อย ผู้รับซื้อไม่ควรกดราคารับซื้อต่ำ และกรมฯก็ทราบแล้วว่าเป็นรายใด จึงอยากแจ้งเตือนไว้ก่อน โดยราคามังคุดขายส่งหน้าสวนในตลาดขณะนี้อยู่ที่กิโลกรัมละ 80-100 บาท”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การส่งหนังสือคำสั่งทางปกครองไปยังล้งผลไม้รายดังกล่าว เกิดขึ้นหลังจากที่ก่อนหน้านี้บอร์ดแข่งขันฯ ได้พิจารณาพฤติกรรมของล้งหลายราย พบว่า มีพฤติกรรมเข้าข่ายกระทำผิดตามมาตรา 57 (2) ส่งผลให้เกษตรกรเดือดร้อน จึงส่งหนังสือคำสั่งทางปกครอง เพื่อให้หยุดพฤติกรรมดังกล่าว แต่หากล้งรายนี้ไม่เห็นด้วย สามารถอุทธรณ์ได้
ด้านนายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กล่าวถึงผลผลิตผลไม้ 4 ชนิด ได้แก่ ทุเรียน เงาะ มังคุด และลองกองในช่วงครึ่งหลังปี 61 หรือตั้งแต่เดือน ก.ค.-ธ.ค.61 ว่า ผลผลิตจากภาคใต้จะเริ่มออกสู่ตลาดจำนวนมาก คาดว่า ทุเรียนจะมีผลผลิต 291,441 ตัน และออกมากช่วงเดือน ก.ค.-ก.ย.61 ส่วนเงาะจะมีผลผลิต 115,651 ตัน และออกมากในช่วงเดือน ส.ค.-ก.ย.61
ขณะที่มังคุดจะมีผลผลิต 111,356 ตัน โดยจะออกมากในช่วงเดือน ก.ค.-ก.ย.61 และลองกองจะมีผลผลิต 98,721 ตัน ซึ่งจะออกในช่วงเดือน ส.ค.-ต.ค.61 หากผู้บริโภคต้องการสั่งจองในปริมาณมาก ติดต่อโดยตรงที่เกษตรจังหวัด เกษตรและสหกรณ์จังหวัด หรือสหกรณ์จังหวัดได้.