“เอดีบี” พัฒนาถนนทั่วถิ่นแดนไทย

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ในเดือน ก.ค.นี้ ตนจะเสนอโครงการลงทุนก่อสร้างรถไฟทางคู่เส้นเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา จากนั้นก็ทยอยเสนอโครงการลงทุนรถไฟทางคู่ เส้นบ้านไผ่-มุกดาหาร-นครพนม, โครงการรถไฟทางคู่ระยะที่ 2 อีก 9 เส้นทาง ให้พิจารณาในปีนี้ต่อไป ทำให้โครงการรถไฟทางคู่เริ่มก่อสร้างได้ครบตามเป้าหมายระยะ 1 และระยะ 2 รวม 16 เส้นทาง ทำให้โครงการรถไฟทางคู่เส้นบ้านไผ่-นครพนม เส้นทางเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ รองรับการเดินทางโดยรถไฟและถนน เชื่อมต่อการเดินทางจากตะวันออกไปยังตะวันตก ครอบคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ตอนกลาง ตอนล่าง ไปยังประเทศเพื่อนบ้าน

นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง กล่าวว่า แม้มีการเปลี่ยนรัฐบาล แต่โครงการลงทุนขนาดใหญ่ด้านคมนาคมที่มูลค่า 2.3 ล้านล้านบาท ก็เดินหน้าต่อไปได้ เพราะโครงการเหล่านี้มีประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศ และให้บริการกับประชาชน ล่าสุดตนได้ลงนามในสัญญาทางการเงินกับ Mr.Ramesh Subramanian ผู้อำนวยการ สำนักงานผู้แทนธนาคารพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) ประจำประเทศไทย ซึ่งเอดีบีสนับสนุนค่าก่อสร้างโครงการทางสายหลักเป็น 4 ช่องจราจร (ระยะที่ 2) ทางหลวงหมายเลข 22 ช่วงอำเภอหนองหาน จังหวัดอุดรธานี-อำเภอพังโคน จังหวัดสกลนคร-นครพนม และทางหลวงหมายเลข 23 จังหวัดร้อยเอ็ด-ยโสธร วงเงิน 3,404 ล้านบาท

นายดรุณ แสงฉาย อธิบดีกรมท่าอากาศยาน (ทย.) กล่าวถึงความคืบหน้า แผนพัฒนาท่าอากาศยานจังหวัดตรังว่า ขณะนี้ปริมาณผู้โดยสารที่ท่าอากาศยานตรัง เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทย.จึงจัดงบประมาณ 116 ล้านบาท เพื่อขยายอาคารที่พักผู้โดยสารบริเวณผู้โดยสารขาออกให้เพิ่มขึ้นอีก 3,000 ตารางเมตร (ตร.ม.) จากเดิมมีพื้นที่ 6,000 ตร.ม. โดยจะเปิดบริการได้ในปีหน้า รองรับผู้โดยสารในชั่วโมงเร่งด่วนได้ 600 คนต่อชั่วโมง (ชม.) จากเดิม 300 คนต่อ ชม. ปัจจุบันท่าอากาศยานตรังมีผู้โดยสาร 700,000 คนต่อปี.