
Business On My Way สัปดาห์นี้ขอพาท่านผู้อ่านไปรู้จักอีกหนึ่งหนุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่ไฟแรง “คุณก้อง” (กณพ เชาว์วิศิษฐ) ทายาท รุ่น 3 ของ บริษัท โตโยต้า ทูโช (ไทยแลนด์) จำกัด ซึ่งเป็นเทรดดิ้งเฮาส์รายใหญ่ของประเทศไทย ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับชิ้นส่วนยานยนต์ ชิ้นส่วนอุตสาหกรรม ธุรกิจนายหน้าตัวแทน ธุรกิจบริการ ธุรกิจซื้อขาย และธุรกิจค้าปลีกทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ธุรกิจอาหาร สิ่งทอ เครื่องอุปโภค บริโภคและล่าสุดกับธุรกิจสนามบิน เซนได ทั้งนี้โตโยต้า ทูโชฯ มีบริษัทในเครือมากกว่า 79 บริษัท มีพนักงานมากกว่า 8,000 คน
คุณก้อง เล่าว่า ตนเองผูกพันคลุกคลีกับธุรกิจในครอบครัวมาตั้งแต่เด็ก โดยหลังจากจบการศึกษาด้าน Mathematical Finance ที่ University of Essex ประเทศสหราชอาณาจักร ก็ตัดสินใจกลับมาช่วยสานต่อธุรกิจของครอบครัว ที่คุณปู่สุจินต์ เชาว์วิศิษฐ ได้ก่อตั้งบริษัท โตโยต้า ทูโช (ไทยแลนด์) จำกัด ร่วมกับบริษัทแม่ที่ญี่ปุ่นตั้งแต่ปี 2500 ซึ่งวันนี้บริษัทดำเนินกิจการมา 61 ปีแล้ว
“ยอมรับว่ามีแรงกดดันมากตอนที่เข้ามาบริหารงานในบริษัท ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมีความท้าทายที่ต้องทำให้บริษัทเติบโตต่อไปได้ ในสภาวะที่การแข่งขันทางธุรกิจแข่งขัน กันค่อนข้างสูง” คุณก้องกล่าว
ทั้งนี้ ก่อนเริ่มงานกับบริษัทอย่างเต็มตัว คุณก้องเล่าว่า ตนได้ถูกส่ง ไปเรียนรู้กระบวนการทำงานทุกขั้นตอน ทุกแผนกของโตโยต้า ทูโช คอร์ปอเรชั่น ที่เมืองนาโกยา จังหวัดไอจิ ประเทศญี่ปุ่น เป็นเวลากว่า 3 ปี ซึ่งการได้ไปอยู่ที่ญี่ปุ่นทำให้ได้เรียนรู้เข้าใจวัฒนธรรมองค์กรและค่อยๆนำมาปรับใช้กับการบริหารงานของ บริษัทในเมืองไทย
อาทิ เรื่องการตรงต่อเวลามีความเกรงใจสูง ส่วนอุปสรรคที่เจอคือ การทำงานของคนไทยกับญี่ปุ่นติดในเรื่องภาษา ดังนั้น การที่ผมได้ไปทำงานที่ญี่ปุ่นทำให้มีทักษะการใช้ภาษาญี่ปุ่น ทำให้สื่อสารได้อย่างเข้าใจ ส่งผลให้ทุกครั้งเมื่อมีการประชุมของบริษัทร่วมกับคนญี่ปุ่น ผมจะรับหน้าที่เป็นกำลังหลักในการสื่อสารเจรจาธุรกิจ
ในส่วนของการทำงานปัจจุบัน คุณก้องดำรงตำแหน่งผู้ประสานงานฝ่ายบริหารของบริษัท โดยจะรับผิดชอบในส่วนงาน Global Parts ดูแลการนำเข้าชิ้นส่วนยานยนต์และโลจิสติกส์ เพื่อจัดส่งชิ้นส่วนยานยนต์และชิ้นส่วนประกอบรถยนต์ให้กับตลาดต่างๆในภูมิภาคเอเชียโอเชียเนีย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ละตินอเมริกา แอฟริกา และอื่นๆทั่วโลก
โดยงานด้านนี้จะเน้นเรื่องการออกแบบ พัฒนา และปรับปรุงระบบให้เข้ากับสภาพธุรกิจปัจจุบันที่มีการแข่งขันสูง ซึ่งการค้าขายจะทำแบบเดิมไม่ได้ ต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไปทุกปี สิ่งสำคัญอีกอย่างคือต้องทำให้แบรนด์แข็งแรงเป็นที่ยอมรับทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ
คุณก้อง เล่าว่า ตนเองจะสนิทกับคุณปู่เป็นอย่างมาก ซึ่งตอนที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ก็จะคอยสอนผมตลอดว่าถึงแม้เราจะเป็นเจ้าของบริษัท เป็นนักบริหารที่มีคติในการทำงานที่ดีคิดบวก แต่ก็ต้องให้ความเป็นกันเองกับพนักงานทุกคน โดยให้คิดว่าเราคือพนักงานคนหนึ่งซึ่งทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้ดีที่สุด เหมือนกับพนักงานทั่วไป เพื่อเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับผู้ใต้บังคับบัญชา
นอกจากนี้ คุณปู่ยังสอนให้ยึดหลักการแก้ปัญหาอย่างทันท่วงที ใช้ความคิดแบบรอบด้าน ที่สำคัญต้องตอบแทนสังคมตามความตั้งใจ ของคุณปู่ ซึ่งที่ผ่านมาก็มีการมอบเครื่องสีข้าวและเครื่องทำความสะอาดข้าวเปลือก/คัดข้าวสารให้กับศูนย์การเรียนรู้เครือข่ายเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร จังหวัดลำปาง, โครงการมอบคอมพิวเตอร์เพื่อสนับสนุนการศึกษา และโครงการปลูกผักสวนครัวในโรงเรียนชนบท เป็นต้น
คุณก้องยังเล่าต่อว่า นอกจากการทุ่มเทให้กับการทำงานที่ตนเองรักแล้ว ก็ยังบริหารชีวิตให้เกิดการสมดุลโดยหาเวลาออกกำลังกายอยู่ตลอด ด้วยการตีกอล์ฟที่เป็นหนึ่งกีฬาโปรด โดยส่วนตัวผมรู้สึกว่าการตีกอล์ฟทำให้ได้ใช้สมาธิ การวางแผน ซึ่งสามารถนำมาครีเอตต่อยอดธุรกิจได้อีกด้วย
“อีกสิ่งที่คอยเติมพลังให้ผมทำให้มีแรงในการทำงาน ก็คือครอบครัว โดยทุกวันอาทิตย์ผมจะช่วยภรรยาดูแลลูกๆ ซึ่งผมกับภรรยาจะเน้นเลี้ยงลูกโดยการฝึกให้เรียนรู้ ช่วยเหลือตัวเองตั้งแต่เด็ก และจะพูดกับลูกเสมอว่า ล้มเองก็ต้องลุกขึ้นเอง จะไม่อุ้ม ถือเป็นการฝึก ให้เขารู้จักทำอะไรด้วยตนเองก่อน”.