
นางกุลณี อิศดิศัย อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า กรมได้วิเคราะห์ข้อมูลการจดทะเบียนธุรกิจของธุรกิจร้านขายยา เวชภัณฑ์และเครื่องมือแพทย์ ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา หรือตั้งแต่ปี 58-60 พบว่า มีการจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคลเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยในปี 58 ตั้งใหม่ 702 ราย ปี 59 ตั้งใหม่ 761 ราย เพิ่ม 8.4% และปี 60 ตั้งใหม่ 1,171 ราย เพิ่มขึ้น 53.88% ส่วนปี 2561 ในช่วง 2 เดือน (ม.ค.-ก.พ.) ตั้งใหม่ 175 ราย เพิ่ม 23.24% เมื่อรวมธุรกิจในกลุ่มนี้ทั้งหมด มีจำนวนนิติบุคคลคงอยู่ 8,690 ราย ทุนจดทะเบียนรวม 56,600 ล้านบาท
สำหรับการเติบโตของธุรกิจร้านขายยา เวชภัณฑ์และเครื่องมือแพทย์ เป็นผลจากนโยบายของรัฐบาลที่มียุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (เมดิคัล ฮับ) ซึ่งไทยมีความโดดเด่นด้านธุรกิจบริการสุขภาพและมีชื่อเสียงในระดับโลก ประกอบกับพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ได้เปลี่ยนแปลงรูปแบบไปสู่การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพมากขึ้น ทั้งด้านการเข้ามารักษาโรค และการผ่อนคลายร่างกายและจิตใจ
ขณะเดียวกัน ปัจจุบันการดูแลสุขภาพและความงามยังคงเป็นกระแสที่นิยม และยังมีหลายประเทศที่กำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ รวมทั้งไทย ที่ปัจจุบันมีผู้สูงอายุมากกว่า 10 ล้านคน ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ล้วนเป็นส่วนสำคัญที่ผลักดันให้ธุรกิจร้านขายยา เวชภัณฑ์และเครื่องมือแพทย์เติบโตตามไปด้วย อีกทั้งยังได้รับผลจากนโยบายของรัฐบาลที่ส่งเสริมให้ร้านขายยาเข้าสู่โครงการร้านธงฟ้าประชารัฐ เพื่อจำหน่ายยาให้กับผู้มีรายได้น้อย ส่งผลให้มีการจดทะเบียนร้านขายยาเพิ่มขึ้น “นอกจากธุรกิจร้านขายยาที่เป็นดาวรุ่งแล้ว ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพประเภทอื่น เช่น สปา กิจการดูแลผู้สูงอายุ บริการเสริมความงาม และเครื่องสำอาง ยังจะได้รับประโยชน์จากการเป็นเมดิคัล ฮับด้วย”.