นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคมได้จัดทำแผนพัฒนาคมนาคมดิจิทัล ระยะ 5 ปี (2560-2564) โดยจะเน้นการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้เรื่องความปลอดภัยกับการแก้ไขปัญหาการจราจรตลอดจนความ ปลอดภัยบนท้องถนน โดยเฉพาะการติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ เช่น เซ็นเซอร์จับความเร็วเพื่อจับปรับผู้กระทำผิด การควบคุมความเร็ว เป็นต้น รวมถึงเน้นการให้บริการระบบคมนาคมผ่านการใช้บัตรใบเดียวข้ามโหมดขนส่งได้ ภายใต้บัตรแมงมุมที่จะใช้เชื่อมต่อรถไฟฟ้าต่างระบบและรถเมล์ คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ช่วงกลางปี 61 และในอนาคตจะนำบัตรอีซี่พาสกับเอ็มพาสมาเชื่อมต่อกับบัตรแมงมุมด้วย
นอกจากนั้น ในส่วนของด้านจราจรแล้ว กระทรวงคมนาคมจะพัฒนาเทคโนโลยีเพื่ออำนวยความสะดวกประชาชน โดยเฉพาะขั้นตอนการออกและต่อใบขับขี่ การต่อทะเบียนรวมถึงการเสียภาษีรถยนต์ ซึ่งในอนาคตจะขยายจุดบริการไปในห้างสรรพสินค้ามากขึ้นโดยประชาชนไม่ต้องเดินทางไปที่หน่วยงาน ควบคู่ไปกับการเพิ่มช่องทางการชำระเงินผ่านร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-11 ตลอดจนพัฒนาการชำระและดำเนินการผ่านระบบออนไลน์เพื่อส่งเอกสารผ่านทางไปรษณีย์แบบพาสปอร์ต เป็นต้น ทั้งนี้ ยังเน้นให้ความสำคัญเรื่องสิ่งอำนวยความสะดวกกับผู้พิการ เด็ก และผู้สูงอายุ ซึ่งทั้งหมดนี้ตนอยากเห็นแต่ละหน่วยงานเพิ่มสัดส่วนงบประมาณปี 61 ที่จะนำมาดำเนินการที่เพิ่มขึ้น แต่หากยังทำไม่ได้ให้ถือเป็นนโยบายว่าปีงบประมาณ 62 ต้องทำให้ได้
ด้านนายสุเทพ พันธุ์เพ็ง รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ กลุ่มสายงานปฏิบัติการและซ่อมบำรุง บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด กล่าวว่า ระบบโดยสารรถไฟฟ้าอย่างแอร์พอร์ตลิงก์นั้นจะนำเทคโนโลยีใหม่เข้ามาอำนวยความสะดวกให้กับผู้โดยสาร ทั้งการใช้ระบบตั๋วร่วมเชื่อมต่อการเดินทาง สำหรับด้านความปลอดภัยนั้นแอร์พอร์ตลิงก์อยู่ระหว่างพัฒนาระบบบริหารจัดการข้อมูลรถไฟฟ้าซึ่งจะเป็นแห่งแรกของโลก เรียกว่าระบบ Realtime Riding Safety โดยติดตั้งเซ็นเซอร์จัดเก็บข้อมูลบนรถไฟทุกขบวนและส่งข้อมูลแบบเรียลไทม์ผ่านระบบ Cloud Sourcing.