
นายทอมมี่ เตชะอุบล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คันทรี่ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) CGH เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนจะเข้าไปลงทุนซื้อกิจการในธุรกิจต่างๆที่น่าสนใจคือธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว เช่น โรงแรมและธุรกิจพลังงานทดแทนรวมทั้งธุรกิจอื่นๆหากเห็นโอกาสในการสร้างผลตอบแทนในการลงทุนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นได้ โดยปัจจุบันบริษัทมีสินทรัพย์ 7,600 ล้านบาท และมีส่วนของผู้ถือหุ้น 5,900 ล้านบาท ขณะที่ไม่มีหนี้สินระยะยาวกับสถาบันการเงิน โดยฐานะและศักยภาพของบริษัทขณะนี้สามารถลงทุนซื้อกิจการได้สูงถึงหลัก 10,000 ล้านบาท แต่ขึ้นอยู่กับโอกาสในการลงทุนด้วย โดยการลงทุนของบริษัทจะเน้นระยะยาว 3-5 ปี ตั้งเป้าหมายได้ผลตอบแทนจากการลงทุนในระดับ 15% ต่อปี โดยกิจการที่จะเข้าลงทุนจะต้องมีความมั่นคงและมีโอกาสเติบโตสูงสามารถรับรู้รายได้ได้ทันที หากธุรกิจหรือบริษัทที่เข้าไปลงทุนมีการเติบโตตามที่คาดหวังหรือตามเป้าหมายก็พร้อมที่จะขายการลงทุนออกเพื่อทำกำไร และนำเงินโยกไปลงทุนในธุรกิจอื่นต่อ
นายทอมมี่กล่าวว่า คาดว่าภายในปีนี้จะได้เห็นการเข้าซื้อกิจการใดกิจการหนึ่ง โดยขณะนี้สนใจเข้าลงทุนในบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ในตลาด หลักทรัพย์ 2-3 ราย โดยเฉพาะบริษัทที่มีธุรกิจดีแต่อาจมีหนี้สินสูงและต้องการเงินทุนเพิ่ม นอกจากนี้ ยังกำลังศึกษาเพื่อเข้าลงทุนหรือซื้อกิจการกลุ่มเชนโรงแรมและอสังหาริมทรัพย์ในอังกฤษและยุโรป รวมทั้งในเอเชียแปซิฟิกด้วย โดยเฉพาะในอังกฤษและยุโรป มองว่าการซื้อช่วงนี้จะได้ของดีราคาถูก เพราะสินทรัพย์ในยุโรปมีราคาถูกกว่าในอดีตมากจากปัญหาเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และประเมินว่าในช่วงจากนี้ต่อเนื่องไปอีก 2-3 ปีข้างหน้า จะมีการนำกิจการมาเร่ออกขายจำนวนมากจากบริษัทขนาดกลางและขนาดเล็กที่มีปัญหาหนี้สินจำนวนมาก รวมทั้งโรงไฟฟ้าพลังงานลมและโซลาร์ฟาร์มทั้งในไทยและต่างประเทศ.