นายศิริรุจ จุลกะรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (เอ็มอีไอ) เดือน เม.ย.ที่ผ่านมา อยู่ที่ระดับ 100.07 ปรับตัวลดลง 1.7% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมา และเป็นค่าดัชนีฯที่ต่ำสุดในรอบ 2 ปีนับตั้งแต่เดือน เม.ย. 2558 เช่นเดียวกับอัตราใช้กำลังการผลิตภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ 53.62 ที่ลดลงต่ำสุดในรอบ 2 ปี ด้วยเช่นกัน ซึ่งเป็นผลมาจากเดือน เม.ย.ที่ผ่านมาเป็นช่วงวันหยุดยาวในเทศกาลสงกรานต์ ประกอบกับอุตสาหกรรมยานยนต์ได้รับผลกระทบจากการส่งออก โดยเฉพาะในประเทศตะวันออกกลาง ที่ลดต่ำลงมาก แต่ภาพรวมดัชนีผลผลิต 4 เดือนแรกของปีนี้ก็ติดลบ 0.1% โดยอยู่ที่ระดับ 111.94 ทั้งนี้ สศอ.ยังคงเป้าดัชนีผลผลิตตลอดทั้งปีนี้จะยังขยายตัว 0.5-1.5% และอัตราการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ภาคอุตสาหกรรมจะขยายตัว 1-2%
“ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมที่ สศอ.จัดทำขึ้นมา ได้มีการถ่วงน้ำหนักจากอุตสาหกรรมยานยนต์ค่อนข้างสูงเมื่ออุตสาหกรรมยานยนต์มีการเติบโตที่ลดลงก็เกิดผลกระทบทันทีแต่ภาพรวมก็ยังมองว่าดัชนีผลผลิตตลอดทั้งปียังเป็นบวก เพราะภาพรวมการส่งออกในหลายๆสินค้าก็จะดีขึ้น”
นายศิริรุจกล่าวว่า อุตสาหกรรมที่มีผลต่อค่าดัชนีผลผลิตลดลงมาจากอุตสาหกรรมยานยนต์ลดลง 12% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน อุตสาหกรรมน้ำดื่มยังปรับตัวลดลง 7% จากกระแสคนรักและดูแลสุขภาพที่มาแรง ทำให้ผู้บริโภคหันมาดื่มน้ำบริสุทธิ์มากกว่าเครื่องดื่มชนิดอื่นๆมากขึ้น และโลหะประดิษฐ์อื่นๆลดลง 17% ทำให้ดัชนีผลผลิตไม่สามารถฟื้นตัวกลับมาอยู่ในแดนบวกได้ โดยคาดว่าในไตรมาส 3 จะมีโอกาสที่จะเห็นค่าดัชนีผลผลิตในทิศทางบวก เพราะดูจากสัญญาณการนำเข้าวัตถุดิบเพื่อการผลิตเริ่มปรับขึ้น.