แกะรายได้ RBF เจ้าของ “HELLO BOY” ผู้กล้า ท้าชน “เฮลซ์บลูบอย” ได้ 4EVE เป็นพรีเซนเตอร์

ถือได้ว่าฉีกกฎความต่างอย่างน่าจับตามองสำหรับ “น้ำหวานเข้มข้น” ในขวดแก้ว ที่ส่วนใหญ่จะเลือกการออกแบบดีไซน์ขวดแบบโลคอล พร้อมแปะโลโก้ของแบรนด์ ต่างจากน้องใหม่ที่เพิ่งก้าวเข้าสู่วงการนักสร้างความหวานอย่าง “HELLO BOY” (เฮลโหลบอย) ที่มาพร้อมฉลากรูป 4EVE วงเกิร์ลกรุ๊ปมาแรง ด้วย 2 รสชาติคือ กลิ่นสละ กับครีมโซดา ด้วยการเปิดตัวไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ก็เรียกเสียงฮือฮาให้กับบรรดาสาวกน้ำหวาน และแฟนคลับได้เป็นอย่างดี 

บวกกับการจำหน่ายในราคาที่จับต้องได้ แถมมีโปรโมชันออกมาดึงดูดใจกับการอิงเทศกาลอย่าง “รอมฎอนนี้ร้อนแน่ อย่าปล่อยให้ร่างกายขาดน้ำตาล พิเศษ 2 ลัง แถม 1 ลัง (ลังละ 756.- บาท) ค่าส่งไม่คิดเพราะอยากให้ลองกันถ้วนหน้า” 

ทั้งนี้หากถามว่าใครคือผู้ผลิต HELLO BOY น้ำหวาน 4EVE นี้ก็คงหนีไม่พ้น บริษัท อาร์ แอนด์ บี ฟู้ด ซัพพลาย จำกัด (มหาชน) หรือ RBF ที่ดำเนินธุรกิจมาตั้งแต่ปี 2534 ผลิตและจำหน่ายวัตถุดิบที่ใช้เป็นส่วนผสมในอาหาร (Food Ingredients) รวมถึงผลิตและจำหน่ายสินค้าให้กับกลุ่มลูกค้าธุรกิจค้าปลีกขนาดใหญ่และกลุ่มลูกค้าร้านค้าปลีกทั่วไป ภายใต้ตราสินค้าของบริษัท ได้แก่ Uncle Barns, Best Odur Kob Jung, Angelo และ Aroi Mak Mak 

ส่องรายได้-กำไร 'RBF' ย้อนหลัง 5 ปี

ทั้งนี้ หากดูผลประกอบการย้อนหลัง 5 ปีจะพบว่า มีผลประกอบการเติบโตอย่างต่อเนื่องทุกปี 

• ปี 2562 มีรายได้ 2,881.99 ล้านบาท  
• ปี 2563 มีรายได้  3,187.27 ล้านบาท
• ปี 2564 มีรายได้  3,391.06 ล้านบาท
• ปี 2565 มีรายได้  3,968.31  ล้านบาท
• ปี 2566 มีรายได้ 4,429.42  ล้านบาท

ส่วนกำไรย้อนหลัง 5 ปี โดยรวมก็เติบโตขึ้นด้วยเช่นกัน มีเพียงช่วงปี 2564-2565 ที่ผลประกอบการลดลงจากเดิม 

• ปี 2562 มีกำไร  352.78  ล้านบาท
• ปี 2563 มีกำไร  519.02  ล้านบาท
• ปี 2564 มีกำไร  420.10  ล้านบาท
• ปี 2565 มีกำไร  482.27  ล้านบาท
• ปี 2566 มีกำไร  649.03  ล้านบาท

ดังนั้นการเปิดตัว HELLO BOY เห็นจะเป็นกลยุทธ์ใหม่ที่ RBF ส่งมาท้าชนเจ้าตลาดอย่าง “เฮลซ์บลูบอย (Hale’s Blue Boy)” อย่างจังแบบประชันหน้า เพราะการวางอยู่บนเชลฟ์เดียวกันข้างๆ กัน ก็ถือเป็นการ “ชนแบบหมัดต่อหมัด” ไม่มีอ่อนข้อเลยแม้แต่น้อย 

เราก็ต้องมาดูกันว่าการเข้ามาของแบรนด์น้องใหม่ในครั้งนี้จะโดนใจผู้บริโภคมากน้อยแค่ไหน แน่นอนในเรื่องของราคา โปรโมชัน และรสชาติ ก็ถือได้ว่าสูสีไม่แพ้กัน แต่การที่ “ผู้บริโภค” มีภาพจำของแบรนด์ในหัวอาจจะยากต่อการเข้าไปชิงกำลังซื้อ ซึ่งไม่แน่ว่าความอยากรู้ อยากลอง ที่ถือเป็นพฤติกรรมของผู้บริโภคยุคใหม่อาจจะเป็นเครื่องการันตีได้ว่า “แบรนด์ใหม่” ก็แจ้งเกิดได้เช่นกัน 

ทั้งนี้หากย้อนกลับมาดูในตลาดน้ำหวานเข้มข้น จะเห็นได้ว่ามีผู้เล่นในตลาดหลากหลายแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็น ซันนี่บอย (Sunny Boy), ฮอร์นบอย (Horn Boy), แคนดี้บอย (Candy Boy) และอื่นๆ อีกมากมาย สะท้อนให้เห็นว่าตลาดนี้มีสีสันสดใส ไม่แพ้รูปลักษณ์ของน้ำหวานเลย เพราะนอกจากจะทำให้เชลฟ์สินค้าคึกคักแล้วนั้น ผู้บริโภคก็มีทางเลือกมากขึ้นด้วยเช่นกัน

อ้างอิง SET

ติดตามข้อมูลข่าวสารด้านการตลาด กับ Thairath Money ได้ที่ 
https://www.thairath.co.th/money/business_marketing

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney