แพทย์ไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก “หมอชลธิศ” เนรมิต รพ.ศัลยกรรมใบหน้าแห่งแรก

Business & Marketing

Marketing

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

แพทย์ไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก “หมอชลธิศ” เนรมิต รพ.ศัลยกรรมใบหน้าแห่งแรก

Date Time: 2 พ.ย. 2566 05:02 น.

Summary

  • ประสบความสำเร็จอย่างงดงามสำหรับการระดมทุนนำหุ้นเข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯของ บมจ.เอสเตติก คอนเนค (TRP) ผู้ประกอบกิจการสถานพยาบาลด้านคลินิกเวชกรรม ภายใต้ชื่อ “ธีรพรคลินิก” ที่ให้บริการศัลยกรรมความงามเฉพาะบนใบหน้าแบบครบวงจร ด้วยทีมแพทย์และเครื่องมือแพทย์ที่ทันสมัย มาตรฐานระดับสากล

Latest

เพลงทำหน้าที่เสมือน “เพื่อนคนหนึ่ง” คนไทยยังชอบฟังเพลงไทย ยอมจ่ายค่า Subscription แม้พุ่ง 2 เท่า

และหากเอ่ยชื่อ “หมอชลธิศ สินรัชตานันท์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอสเตติก คอนเนค (TRP) และผู้ก่อตั้ง “ธีรพรคลินิก” แน่นอนว่าในแวดวงแพทย์ด้านศัลยกรรม ไม่มีใครที่ไม่รู้จัก “หมอชลธิศ” แพทย์มือหนึ่งของประเทศ ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าที่มีประสบการณ์ยาวนานกว่า 40 ปี ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง และยังเป็นอดีตนายกสมาคมศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าแห่งประเทศไทย !!

ผู้ช่วยศาสตราจารย์นายแพทย์ชลธิศ หรือคุณหมอชลธิศ เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจหรืออุตสาหกรรมศัลยกรรมความงามของโลกและของไทยเติบโตขึ้นทุกปี ทั้งด้วยเทคโนโลยี นวัตกรรมใหม่ๆที่ได้รับการพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยแก้ไขดูแลและรักษาจุดบกพร่องหรือส่งเสริมความงาม ประกอบกับผู้คนทั้งผู้หญิงและผู้ชายให้ความสนใจใส่ใจกับการดูแลบุคลิกภาพของตนเองมากขึ้น จึงทำให้อุตสาหกรรมศัลยกรรมความงามเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง

โดยประเทศไทยถือว่า เป็นประเทศที่มีหมอศัลยกรรมที่เก่งและมีความเชี่ยวชาญในการทำศัลยกรรมเฉพาะด้าน ที่ไม่แพ้ชาติใด โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางออกไปทำศัลยกรรมในต่างประเทศเลย หากผู้ใช้บริการได้มีการศึกษาหาข้อมูลที่ดี ซึ่งปัจจุบันจะเห็นว่ามีชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาใช้บริการศัลยกรรมที่ประเทศไทยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

หมอชลธิศ สินรัชตานันท์
หมอชลธิศ สินรัชตานันท์

ขณะที่ “ธีรพรคลินิก” ได้ให้บริการศัลยกรรมตกแต่งเฉพาะใบหน้ามากว่า 40 ปี โดยเรามีทีมอาจารย์แพทย์ผู้ชำนาญเฉพาะทางเฉพาะจุดบนใบหน้า ซึ่งทีมแพทย์แต่ละท่านมีประสบการณ์เฉลี่ยมากกว่า 17 ปี และได้มีการศึกษาหลักสูตรศัลยกรรมตกแต่งใบหน้า (Facial Plastic Surgery) เพื่อพัฒนาฝีมือและความเชี่ยวชาญในนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆอยู่ตลอดเวลา

“นอกจากนี้ ที่นี่เรายังมีระบบการควบคุมคุณภาพ หรือ QC (Quality Control) เพื่อให้คุณหมอทุกท่านมีการรักษาที่มีมาตรฐานเดียวกัน โดยที่ธีรพรนั้นมีนวัตกรรมการผ่าตัดที่เป็นเทคนิคเฉพาะในการทำศัลยกรรมดึงหน้า (FACE-LOCK), การผ่าตัดศัลยกรรมตาสองชั้น (EYE-LOCK) และการเสริมจมูกด้วยไขมันตัวเอง (FAT STEM CELL) นับเป็นผู้นำนวัตกรรมด้านศัลยกรรมความงามบนใบหน้าที่ทีมแพทย์ได้ร่วมกันวิจัยพัฒนาและสั่งสมประสบการณ์จนได้รับการยอมรับว่ามีประสิทธิภาพเป็นเลิศโดยเฉพาะ FAT STEM CELL ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่มีที่นี่เพียงแห่งเดียวเท่านั้น”

“หมอชลธิศ” กล่าวต่อว่า การตัดสินใจนำบริษัทระดมทุนเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯครั้งนี้ เพราะปริมาณผู้เข้ารับบริการที่เพิ่มขึ้นทุกปี ซึ่งปัจจุบันบริษัทเปิดให้บริการคลินิกในอาคาร 5 ชั้น มีพื้นที่ใช้สอย 1,157 ตารางเมตร โดยมีทีมแพทย์ผู้ชำนาญเฉพาะทางมากถึง 26 ท่าน มีห้องผ่าตัด 6 ห้อง และห้องให้คำปรึกษา 3 ห้อง แต่ยังไม่เพียงพอรองรับผู้เข้ามาใช้บริการทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ

เราจึงต้องการสร้างโรงพยาบาลตกแต่งเฉพาะใบหน้าแบบครบวงจรแห่งแรกในประเทศไทย เพื่อเพิ่มคุณภาพ มาตรฐานการบริการให้กับคนไข้ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี โดยเป็นโรงพยาบาลพื้นที่ขนาดประมาณ 9,918 ตารางเมตร ขยายห้องผ่าตัดเป็น 12 ห้อง จากเดิม 6 ห้อง รวมทั้งมีห้องพักผู้ป่วย ซึ่งอาคารโรงพยาบาลใหม่นี้ จะเพิ่มเซอร์วิสทั้งงานศัลยกรรมและไม่ใช่ศัลยกรรม โดยมีกำหนดการแล้วเสร็จเพื่อเปิดให้บริการได้อย่างเต็มรูปแบบในไตรมาส 4 ของปี 67 นี้ !!

“TRP มีความโดดเด่น ด้วยทีมแพทย์เฉพาะทางที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ด้านศัลยกรรมตกแต่งใบหน้า การให้บริการที่มุ่งเน้นการทำศัลยกรรมเฉพาะจุด ด้วยนวัตกรรมการผ่าตัดที่เป็นเทคนิคเฉพาะของธีรพร คือศัลยกรรมดึงหน้า “Face-Lock”, การผ่าตัดศัลยกรรมตาสองชั้น “Eye-Lock” และการเสริมจมูกด้วยไขมันตัวเอง “FAT STEM CELL” ที่ช่วยตอบโจทย์ทุกความต้องการและให้ผลลัพธ์เป็นที่พึงพอใจของผู้รับบริการ ภายใต้แนวคิด “Less is More” ที่คิดค้นวิจัยและพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้ชื่อของธีรพร เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก” หมอชลธิศกล่าว

นพ.คงศักดิ์ เตชะวิบูลย์ผล
นพ.คงศักดิ์ เตชะวิบูลย์ผล

ด้าน นพ.คงศักดิ์ เตชะวิบูลย์ผล ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ TRP เปิดเผยว่า ปี 67 คาดว่ารายได้ของบริษัทจะเติบโตกว่าปี 66 โดยรายได้หลักยังมาจากการให้บริการศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าเป็นหลัก โดยเฉพาะการผ่าตัดดึงหน้า (Face-Lock) ที่ยังได้รับความนิยมสูงมากจากสังคมผู้สูงวัย ทำให้มีจำนวนผู้เข้ามาใช้บริการเติบโตต่อเนื่อง บริษัทยังมีแผนหาพันธมิตรให้บริการด้านผิวพรรณอื่นๆประเภทที่ไม่ต้องผ่าตัด เพิ่มเติม เช่น การฉีดสารเติมเต็มริ้วรอยและปรับรูปหน้า (Filler) การฉีดสารต้านริ้วรอยและปรับรูปหน้า (Botox) การให้วิตามินทางน้ำเกลือ เป็นต้น

ทั้งนี้ บริษัทมีรายได้หลักจากการให้บริการหัตถการเกี่ยวกับผ่าตัด โดยมีสัดส่วนกว่า 93.26% แบ่งเป็นรายได้จากการศัลยกรรมผ่าตัดดึงหน้าสูงสุด 63.39% รองลงมาเป็นรายได้จากการศัลยกรรมผ่าตัดตา 20.45% และรายได้จากศัลยกรรมผ่าตัดจมูก 5.22%

นอกจากนี้ ยังมีรายได้จากการให้บริการให้ยาระงับความรู้สึก 4.29% สำหรับผลประกอบการงวด 6 เดือนแรก ปี 66 บริษัทมีรายได้ 369 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 105 ล้านบาท มีอัตรากำไรขั้นต้น 55.42% และอัตรากำไรสุทธิสูงถึง 29% ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 3 และไตรมาส 4 ซึ่งเป็นไฮซีซันของธุรกิจยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง

“นอกจากให้บริการศัลยกรรมดึงหน้า (FACE-LOCK) และการผ่าตัดศัลยกรรมตาสองชั้น (EYE-LOCK) แล้ว เรายังมุ่งเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าที่ได้รับความเสียหายจากการทำศัลยกรรมจากสถานพยาบาลอื่นทั้งในและต่างประเทศ ที่มาให้เราช่วยแก้ปัญหาจำนวนมาก

นอกจากนี้ ยังจะเดินหน้าให้บริการผลิตภัณฑ์ใหม่ คือการเสริมจมูกด้วย FAT STEM CELL ซึ่งทั้ง 2 บริการ ถือเป็นอีกช่องทางการเพิ่มรายได้ให้กับ TRP ในอนาคต” นพ.คงศักดิ์กล่าว.

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ