โดย ANTA (อันท่า) ถือเป็นแบรนด์กีฬายักษ์ใหญ่ของจีน ที่นับเป็นเบอร์ 2 รองจากไนกี้ พร้อมทั้งยังได้รับการจดทะเบียนในกระดานหลักของ HKEX ในปี 2007 เป็นเวลากว่า 30 ปีและยังเป็นเจ้าของสิทธิ์ในการบริหารแบรนด์อื่นๆ มากมายในจีนประมาณ 10 แบรนด์ ได้แก่ Fila, Wilson และ Salamon ซึ่งในครั้งนี้ได้เดินหน้าบุกตลาดไทย เปิดตัวสโตร์แรกอย่างเป็นทางการ ณ เซ็นทรัลเวิลด์ บนพื้นที่ 230 ตารางเมตร หวังตอบโจทย์ผู้คนที่รักกีฬา นักกีฬา และบุคคลทั่วไปที่สนใจในเสื้อผ้าและอุปกรณ์กีฬา นับเป็นจุดหมายสำคัญในการเติบโตในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ซึ่งการเปิดตัว ANTA ในประเทศไทยถือเป็นก้าวสำคัญ และแสดงให้เห็นถึงการเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์ของ ANTA เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และประเทศไทย ด้วยภาพรวมของตลาดกีฬาที่มีสีสันมากขึ้น บวกกับภูมิทัศน์การค้าปลีกที่เฟื่องฟู จึงนับเป็นโอกาสครั้งสำคัญของแบรนด์สัญชาติจีนอย่าง ANTA จากที่ก่อนหน้านี้สามารถสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ ANTA ทางออนไลน์ได้เท่านั้น
โดยสโตร์แรกนี้ถูกออกแบบโดยผสมผสานวัฒนธรรมไทยผ่านงานศิลปะและกีฬา โดยได้ นภา วีระธรรมวิวัฒน์ ศิลปินกราฟิตี้ชาวไทยมาร่วมรังสรรค์ผลงานในร้านเพื่อดึงความเป็นไทยร่วมสมัยให้ออกมาสู่แบรนด์ระดับโลก นอกจากนี้ ANTA ยังได้เห็นความสำคัญของคอมมูนิตี้กีฬาในไทยผ่านการจับมือกับ SWISH บาสเกตบอลคอมมูนิตี้ชื่อดังของไทยที่จะมาร่วมส่งต่อโปรแกรมการฝึกสกิลบาสเกตบอลภายในงาน อีกทั้งยังได้ ติ๊นา - ศุภนาฎ จิตตลีลา มาร่วมออกแบบโชว์ครั้งแรกในฐานะ Creative Director และ Stylist
ทั้งนี้ตลอดระยะเวลากว่า 30 ปีที่ผ่านมา ANTA ถือเป็นผู้เล่นแถวหน้าของวงการอุปกรณ์กีฬา ทั้งในแง่ของการออกแบบ การพัฒนาสินค้า การผลิต และการตลาดในทุกสินค้าของ ANTA ตั้งแต่เครื่องแต่งกายจนถึงรองเท้า โดยมีแบรนด์ภายใต้บริษัทแม่ค่อนข้างเยอะ แต่ที่สำคัญคือ เน้นไปทางกีฬาบาสเกตบอล และวิ่ง
สำหรับ ANTA เน้นความสะดวกสบาย การใช้งาน ส่วนวัตถุประสงค์หลักที่มาเปิดสาขาแรกในตลาดประเทศไทยนั้น เนื่องจากมองเห็นการเติบโตของเทรนด์ Sport Economy และสำหรับการเปิดตัวเป็นเรื่องที่ถูกกล่าวถึงและตั้งความหวังไว้มาแล้วระยะหนึ่ง โดยล่าสุดมีจำนวนสาขาในจีนกว่า 1.2 หมื่นสาขา ถือเป็นเบอร์ 2 ในตลาดจีน รวมทั้งที่ผ่านมามีการลงทุนทั้งใน มาเลเซีย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ ซึ่งไทยเป็นประเทศถัดมา ดังนั้นการเปิดสโตร์แรก ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ นับเป็นกลยุทธ์ที่จะเสริมทัพตลาดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เนื่องจากประเทศไทยนับเป็นประเทศที่มีวัฒนธรรมการเล่นกีฬาที่โดดเด่น และตลาดการค้าปลีกที่เติบโต ทำให้เป็นโอกาสที่ดีของ ANTA ในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ที่เคยซื้อสินค้าของ ANTA ผ่านช่องทางออนไลน์ ทั้งนี้โดยความตั้งใจของ ANTA คือการขยายธุรกิจไปยังภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีฟิลิปปินส์ มาเลเซีย สิงคโปร์ และไทย ซึ่งฟิลิปปินส์เป็นสาขาแรกมี 40 สาขา มาเลเซียมี 40 สาขา และสิงคโปร์มี 3-4 สาขา ส่วนไทยคาดว่าในปี 67 จะเห็น 10 สาขา ซึ่งโลเกชันอยู่ระหว่างมองหา
อีกทั้งยังมีดิสทริบิวชั่น ในรัสเซีย อินเดีย ตะวันออกกลาง ด้วยเช่นกัน โดยในไทยจะเริ่มสร้างแบรนด์ ภาพลักษณ์ เข้าถึงง่ายด้วยราคาต่ำ
นอกจากนี้จะมีการขยายฐานแพลตฟอร์มต่างๆ ร่วมกับพาร์ตเนอร์ อาทิ Shopee Lazada TikTok รวมทั้งช่องทาง ANTAThailane.com ด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ราคาขั้นต่ำอยู่ที่หลักพันบาท ซึ่ง ANTA ไม่เน้นตีราคาที่ถูกที่สุด แต่จะเน้นการจำหน่ายสินค้าที่ดีที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีในราคาที่เอื้อมถึง ซึ่งก่อนจะเปิดสาขามีขายออนไลน์ก่อนหน้านี้ รวมทั้งมี Shop ที่สยามพรีเมียมเอาต์เลทที่เปิดล่วงหน้ามาแล้ว 2 เดือน
ส่วนสินค้าภายในร้านจะครอบคลุมตั้งแต่ รองเท้าวิ่งรุ่นล่าสุดอย่าง G21 lite และรองเท้าบาสเกตบอล Shockwave 5 Pro (รับรองคุณภาพโดยนักกีฬา NBA อย่าง Kyrie Irving) พร้อมด้วยเสื้อผ้า รองเท้า และไอเทมในการออกกำลังกายอีกมายมาย
จึงถือได้ว่าเมื่อ ANTA แบรนด์ชุดกีฬาจีนอันดับต้นๆ กำลังท้ารบกับ Nike และ Adidas อย่างหนักหน่วงด้วยการประชัน ผ่านการทำตลาดในเมืองไทย ก็ต้องมาดูกันว่า ANTA จะสามารถครองใจผู้บริโภคคนไทย และชิงแชร์ตลาดชุดกีฬาในเมืองไทยได้มากน้อยแค่ไหน เพราะก่อนหน้านี้ในประเทศบ้านเกิดอย่าง “จีน” เอง ANTA ก็ประกาศศึกแซงหน้าแบรนด์ดังอย่าง Adidas และเป็นรองแค่เพียง Nike กันไปแล้ว
ดังนั้นก็ต้องติดตามกันว่าในครั้งนี้ ANTA จะงัดกลยุทธ์หมัดเด็ดอะไรออกมาสู้กับเจ้าตลาดที่คนไทยคุ้นชินกันอยู่แล้วได้บ้าง และ ANTA จะประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้หรือไม่ ไม่แน่ว่า ANTA อาจกลายมาเป็นอีกแบรนด์หนึ่งที่คนไทยให้ความนิยมเป็นอันดับต้นๆ เหมือนดังเช่น Nike เจ้าพ่ออาณาจักรรองเท้าก็เป็นได้