นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า พื้นที่ชายฝั่งของประเทศไทยโดยเฉพาะฝั่งอ่าวไทย ทะเลพัทยา และสัตหีบนั้น มีศักยภาพที่จะพัฒนาเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างมาก โดยหากสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ลดลง มั่นใจว่าทะเลฝั่งอ่าวไทยจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง ดังนั้น หากเอกชนสนใจเข้ามาพัฒนาและสร้างท่าเทียบเรือสำหรับเรือขนาดใหญ่ เช่น ซุปเปอร์ยอชต์ รวมทั้งครุยเซอร์หรือเรือสำราญขนาดเล็ก สามารถเข้ามายื่นข้อเสนอต่อกรมเจ้าท่า (จท.) เพื่อขอลงทุนได้โดยรูปแบบการลงทุนจะเป็นการเปิดให้เอกชนเข้ามาร่วมลงทุนแบบ PPP
นอกจากนั้นยังมีนโยบายพัฒนาชายหาดฝั่งทะเลอ่าวไทยให้ประชาชนทั่วไปได้มาใช้ประโยชน์ในการท่องเที่ยวอย่างเท่าเทียม ซึ่งขณะนี้ทางกรมเจ้าท่าได้ลงพื้นที่ตรวจสอบและพัฒนาชายหาดบริเวณพัทยาตลอดแนว และสำรวจบริเวณชายหาดบางเสร่ สัตหีบ ด้วยการนำทรายมาถมปรับเพิ่มให้ชายหาดกว้างสะอาดตาขึ้น
ด้านนายวิทยา ยาม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า (จท.) เปิดเผยว่า ในปี 64 นี้ จะเน้นเข้าไปตรวจสอบและสำรวจพื้นที่ริมทะเลมากขึ้น เนื่องจากปัจจุบันพบว่าบริเวณริมชายหาดนักท่องเที่ยวไม่สามารถเข้าไปนั่งเล่นหรือทำกิจกรรมอะไรริมหาดได้ เพราะส่วนมากจะมีเก้าอี้ ร้านค้าเต็มชายหาด ซึ่งนอกจากการรุกล้ำผิดกฎหมายแล้ว ยังทำให้ทัศนียภาพชายหาดไม่สวยงาม มีความสกปรก โดยพื้นที่เป้าหมายที่กรมเจ้าท่าเข้าไปจัดระเบียบก่อนคือ ชายหาดพัทยา ซึ่งได้มีการปรับปรุงถมทรายเสริมชายหาดด้วยการดูดทรายจากในทะเลมาเสริมชายหาดให้กว้างขึ้นกว่า 40-50 เมตรตลอดแนว และล่าสุดได้เข้าปรับปรุงชายหาดนาจอมเทียนระยะทางยาว 3 กม. และต่อไปจะเข้าพัฒนาชายหาดบางเสร่ สัตหีบ และชายหาดบางแสน จังหวัดชลบุรี ตามลำดับ.