คุณจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เจเคเอ็น โกลบอล (JKN) ผู้นำการจัดจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ระดับสากล เผยผลการดำเนินงานปี 63 ว่า มีกำไรสุทธิ 312.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24% จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 252.8 ล้านบาท ถือเป็นการทำสถิติสูงสุดครั้งใหม่ ซึ่งเป็นผลจากการบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะต้นทุนลิขสิทธิ์ที่ลดลงอย่าง มีนัยสำคัญ ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 45% จากระดับ 41% ในปี 62 ขณะที่มีรายได้รวม 1,701 ล้านบาท แม้เศรษฐกิจจะชะลอตัวจากวิกฤติ COVID-19 แต่ด้วยจุดแข็งด้านความหลากหลายของลิขสิทธิ์คอนเทนต์ใน 8 กลุ่ม ครอบคลุมทั้งสาระและความบันเทิงครบทุกรูปแบบ จากเจ้าของสิทธิ์ที่เป็นแบรนด์ดังระดับโลก และความเชี่ยวชาญในการทำตลาดภายใต้กลยุทธ์ “ซุปเปอร์สตาร์มาร์เก็ตติ้ง” ได้สร้างกระแสลิขสิทธิ์คอนเทนต์ซีรีส์อินเดีย ฟิลิปปินส์ และละครไทย ส่งไปยังตลาดทั้งในประเทศและภูมิภาคอื่นทั่วโลก ส่งผลให้สัดส่วนรายได้ต่างประเทศ สิ้นปี 63 เพิ่มเป็น 41% จาก 31.5% ปี 62
“กำไรปีนี้เป็นเครื่องยืนยันถึงศักยภาพธุรกิจ JKN ที่แข็งแกร่ง โดยขยายตัวกว่า 2 เท่า เมื่อเทียบกับเมื่อ 3 ปีก่อน ที่นำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ MAI และมีกำไรสะสมรวมกันกว่า 1,100 ล้านบาท โดยปัจจุบันหุ้น JKN ได้เลื่อนชั้นมาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ (SET) แล้ว โดยเรายังมุ่งมั่นผลักดันการเติบโต มีเป้าหมายนำ JKN ก้าวสู่การเป็นหุ้นในกลุ่ม SET50 ให้ได้ในอนาคต ส่วนทิศทางปี 64 ตั้งเป้าโต 10-15% พร้อมมุ่งทำอัตรากำไรขั้นต้นให้เพิ่มขึ้นจากปีก่อน จากการบริหารต้นทุนและขยายตลาดส่งออกคอนเทนต์ เพื่อเพิ่มมูลค่างานในมือ (Backlog) จากสิ้นปี 63 ที่มีกว่า 800 ล้านบาท และเพิ่มสัดส่วนรายได้จากตลาดส่งออกเป็น 50% ของรายได้รวม เพื่อผลักดันให้ JKN ก้าวสู่การเป็น Global Company ตอกย้ำผู้นำอุตสาหกรรมจำหน่ายลิขสิทธิ์ในภูมิภาคนี้.